The Apple Tree เปลี่ยนคลินิกสำหรับเด็กด้วยสีสัน ให้การเจอหมอไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไป

เด็กกับการหาหมอไม่เคยเป็นของคู่กัน แต่สำหรับ ‘The Apple Tree’ คลินิกกุมารเวชสีสันสดใส ขนาด 64 ตารางเมตร ในกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซแห่งนี้กลับแตกต่างออกไป เพราะมีการออกแบบสุดจี๊ดจ๊าดที่ทำให้เด็กรู้สึกสนุกจนการเจอหมอไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไป ที่นี่ได้เปลี่ยนห้องตรวจสีขาวแบบเดิมๆ ให้กลายเป็นห้องสไตล์ Memphis และออกแบบโดยใช้รูปทรงเรขาคณิตที่หลากหลายและสีสันสดใสตัดกันมากกว่า 2 สีขึ้นไป ทำให้พื้นที่มีความสนุกสนานมากกว่าเดิม นอกจาก The Apple Tree จะสร้างความสนุกสนานให้กับเด็กที่มาหาหมอแล้ว สีสันสดใสเหล่านี้ยังช่วยลดความเครียดของผู้ปกครองเด็กลงได้ด้วย เพราะสีสันที่ตัดกันจะทำให้เกิดประสบการณ์เชิงบวกในการพบแพทย์แต่ละครั้ง ส่วนเหตุผลที่ตั้งชื่อคลินิกว่า The Apple Tree นั้น ก็เพราะต้องการล้อไปกับสำนวน ‘An apple a day keeps the doctor away.’ ที่แปลว่า กินผลไม้วันละลูกทำให้มีสุขภาพดีจนไม่ต้องไปหาหมอนั่นเอง ปัจจุบันคลินิกกุมารเวช The Apple Tree เปิดมาได้ 3 ปีแล้ว และถือเป็น 3 ปีที่ช่วยให้เด็กในกรุงเอเธนส์ไม่กลัวการไปหาหมออีกต่อไป Sources : ArchDaily | […]

Briiv Pro เครื่องฟอกอากาศด้วยธรรมชาติ พร้อมเซนเซอร์ AI เครื่องแรกของโลก มีประสิทธิภาพกว่าต้นไม้ในบ้าน 6900% 

ในวันที่เมืองถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่น PM 2.5 ‘เครื่องฟอกอากาศ’ กลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรมีติดบ้านไว้ แต่จะดีแค่ไหนถ้าเครื่องฟอกอากาศในบ้านเราสามารถกรองมลภาวะในอากาศได้มีประสิทธิภาพมากกว่าการกรองโดยต้นไม้ธรรมชาติในบ้านถึง 6900 เปอร์เซ็นต์ ‘Briiv Pro’ เป็นเครื่องฟอกอากาศที่รวมเทคโนโลยีสำหรับการฟอกอากาศภายในอาคารเข้ากับวัสดุการกรองที่มาจากธรรมชาติ เพื่อให้การกรองอากาศเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด จนอาจเรียกได้ว่าเป็น ‘ป่าขนาดเล็ก’ ที่จะทำให้มลภาวะภายในพื้นที่ขนาด 16 ตารางเมตรหายวับไปกับตา แถมเมื่อมองจากภายนอกยังให้ความรู้สึกเหมือนสวนขวดตั้งโต๊ะที่สวยงาม ไม่เหมือนเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเครื่องฟอกอากาศในทุกวันนี้ เพราะ Briiv Pro อยู่ในรูปแบบของภาชนะแก้วที่เผยให้เห็นถึงวัสดุตัวกรองจากธรรมชาติภายในที่ประกอบด้วยมอสส์สำหรับการกรอง PM 10 กากมะพร้าวสำหรับกรอง PM 5.0 และถ่านกัมมันต์ที่มีขนาด Nano Matrix สำหรับการกรอง PM 2.5 และ VOCs ที่ทำให้มั่นใจได้ว่าอากาศในบ้านของเราจะสะอาดและดีต่อสุขภาพเสมอ นอกจากนี้ Briiv Pro ยังเป็นเครื่องฟอกอากาศขับเคลื่อนด้วย AI เครื่องแรกของโลกที่ใช้เทคโนโลยีล่าสุดและการควบคุมอัลกอริทึมการเรียนรู้ของ AI ที่เป็นเอกลักษณ์ จนได้รับรางวัลมากมาย และถูกยกให้เป็นระบบตรวจสอบคุณภาพอากาศที่ทันสมัยที่สุดในโลกอีกด้วย ใครที่อยากได้ Briiv Pro มาตั้งไว้ที่บ้าน ตอนนี้มีการเปิดพรีออเดอร์ในเว็บไซต์ระดมทุน Kickstarter โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 349 […]

ร่วมออกแบบอนาคตจังหวัดของตัวเอง UNDP ชวนประชาชนใน 15 จังหวัดนำร่องทำแบบสอบถามเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

‘การพัฒนาที่ยั่งยืน’ ถือเป็นเป้าหมายที่หลายภาคส่วนต้องการผลักดันให้เกิดขึ้น เพราะจะช่วยส่งเสริมความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของผู้คนอย่างรอบด้านในระยะยาว แต่แนวคิดนี้จะเกิดขึ้นได้จริงและพัฒนาเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อประชาชนทุกคนช่วยกันส่งเสียงและระบุต้นตอปัญหาในพื้นที่ของตัวเอง เพราะเชื่อว่าการพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นเรื่องของทุกคน โครงการ SDG Localization จาก UNDP อยากชวนประชาชนใน 15 จังหวัดนำร่อง ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก อุดรธานี นครราชสีมา อุบลราชธานี กรุงเทพมหานคร เพชรบุรี ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ร่วมกันทำแบบสอบถามเพื่อออกแบบสังคมที่ยั่งยืนในจังหวัดของตัวเอง UNDP จะนำข้อมูลเกี่ยวกับความเร่งด่วนของปัญหาและความต้องการของประชาชนที่ได้รับจากแบบสอบถามนี้ ไปร่างและออกแบบแผนพัฒนาระดับจังหวัดให้สอดคล้องกับ 17 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และสอดรับกับปัญหาที่มีความเฉพาะตัวในแต่ละพื้นที่ ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติต่อไป ร่วมทำแบบสอบถามออนไลน์และแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นเรื่องความยั่งยืนได้ที่ bit.ly/3TtWjoN

ถุงกาแฟลดปัญหาขยะพลาสติกจากแบรนด์ ‘North Star Coffee’ ที่ทุกส่วนย่อยสลายได้ 100%

ในทุกๆ ปี การผลิตพลาสติกนั้นใช้น้ำมันในปริมาณมากเท่ากับการใช้น้ำมันในอุตสาหกรรมการบินทั้งหมด และถึงแม้ว่าจะมีการโฆษณาว่าพลาสติกบางชนิดนำไปรีไซเคิลได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วมีเพียง 14 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ถูกรีไซเคิล โดยที่เหลือนั้นไปอยู่ในหลุมฝังกลบ และอีกกว่า 8 ล้านตันลงสู่มหาสมุทร อย่างไรก็ตาม เราทุกคนต่างรู้ดีว่าการเลิกใช้ถุงพลาสติกนั้นเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม แต่ในเมื่อยังไม่สามารถลดการใช้งานได้ทั้งหมด แล้วจะทำอย่างไรหรือหาวัสดุแบบไหนมาใช้ทดแทนพลาสติกโดยที่ไม่ทำลายโลกด้วย ‘North Star Coffee’ โรงคั่วกาแฟในเมืองลีดส์ ร่วมมือกับ ‘Grounded Packaging’ บริษัทผลิตบรรจุภัณฑ์จากออสเตรเลีย สร้างบรรจุภัณฑ์สำหรับถุงกาแฟขนาด 250 กรัม ที่ย่อยสลายได้เอง 100 เปอร์เซ็นต์ชนิดแรกในสหราชอาณาจักร เพราะถุงกาแฟที่ย่อยสลายได้หลายแบบในท้องตลาดนั้นจะสลายตัวได้ในปุ๋ยหมักอุตสาหกรรมเท่านั้น และก่อนจะเข้าสู่กระบวนการย่อยสลาย ผู้บริโภคต้องนำส่วนประกอบต่างๆ บนถุง เช่น ฉลาก วาล์ว และแถบที่ปิดผนึกได้ออกก่อน ถุงใบนั้นถึงจะย่อยสลายได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่บรรจุภัณฑ์ของ North Star Coffee นั้นสามารถย่อยสลายตัวเองได้ในถังปุ๋ยหมักที่บ้านภายในเวลา 6 เดือน บรรจุภัณฑ์ชนิดนี้มีส่วนผสมของวัสดุชีวภาพ ไม่ว่าจะเป็นเซลลูโลส กระดาษคราฟต์ และอ้อย พร้อมวาล์วที่ย่อยสลายได้ รวมไปถึงหมึกพิมพ์ที่ใช้ก็ย่อยสลายได้ด้วยเช่นกัน เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าจะไม่มีชิ้นส่วนไหนบนสินค้าจาก North Star Coffee […]

‘Or Collective’ บริการเช่าเสื้อผ้าแบบสมัครสมาชิกสำหรับเด็กเล็ก ลดขยะเสื้อผ้าจากการที่เด็กโตขึ้น

ปัญหาที่พ่อแม่ลูกเล็กหลายบ้านต้องเผชิญ ส่วนหนึ่งคงหนีไม่พ้นการต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่จำนวนมากในแต่ละปี เนื่องจากเด็กในวัยแรกเดินจนถึงประมาณ 4 ขวบนั้นเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว จนเผลอแป๊บเดียวเสื้อผ้าที่ซื้อมาก็ใส่ไม่ได้ กลายเป็นขยะเสื้อผ้าทิ้งไว้ให้จัดการ จากปัญหานี้ Studio Parallel เอเจนซีด้านการออกแบบและการสร้างแบรนด์ ตัดสินใจสร้างแบรนด์เสื้อผ้าเด็กที่ให้บริการเช่าโดยสมัครสมาชิกขึ้นในชื่อ ‘Or Collective’ โดยที่ Or ย่อมาจากคำว่า On Rotation ที่หมายถึงการหมุนเวียน เสื้อผ้าภายใน Or Collective ถูกออกแบบอย่างเรียบง่ายและอ่อนโยนต่อผิวเด็กตั้งแต่ทารกจนถึง 4 ขวบ อีกทั้งราคายังสบายกระเป๋าผู้ปกครองด้วยแผนการสมัครสมาชิกรายเดือนที่มีให้เลือกถึง 4 ขนาด ตั้งแต่ 5 ชิ้นต่อเดือนไปจนถึง 20 ชิ้นต่อเดือน ในราคาเริ่มต้นเพียง 22 ปอนด์ต่อเดือน (ประมาณ 970 บาท) ตามความต้องการและเงินในกระเป๋า นอกจากนี้ ผู้ปกครองยังสามารถปรับแผนสมาชิกได้อย่างยืดหยุ่น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเสื้อผ้าและขนาดได้อย่างอิสระ หยุดการต่อสมาชิกรายเดือนแบบชั่วคราวหรือถาวรเมื่อไหร่ก็ได้ หรือถ้ามีเสื้อผ้าชิ้นไหนถูกใจอยากจะซื้อเก็บไว้เป็นของตัวเองก็ทำได้เช่นกัน แถมในการส่งคืนแต่ละครั้งยังไม่ต้องกังวลถึงเรื่องคราบสกปรกจากการเล่นของเด็ก เพราะ Or Collective จะไม่เรียกเก็บเงินเพิ่มเติมในกรณีเกิดคราบหรือเสื้อผ้าสึกหรอ เพื่อให้ตรงตามความตั้งใจของ Or Collective ที่ต้องการต่อสู้กับปัญหาขยะเสื้อผ้าเด็ก […]

กทม. ชวนเช็กสภาพรถ เปลี่ยนน้ำมันเครื่องกับโครงการ ‘คลินิกรถ ลดฝุ่น PM2.5’ ที่ศูนย์บริการใกล้บ้าน วันนี้ – 29 ก.พ. 67

ปลายปีแบบนี้ มองไปทางไหนก็พบเจอแต่ฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เพิ่มสูงขึ้น จนผู้คนรอบตัวเริ่มทยอยป่วยเพราะปัญหาสภาพอากาศย่ำแย่ แถมเจ้าฝุ่นที่ว่านี้ยังมีต้นเหตุหลักมาจากควันรถยนต์ที่จราจรบนท้องถนน กทม. ที่พยายามแก้ปัญหานี้ ได้ร่วมมือกับกระทรวงพลังงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และตัวแทนค่ายรถยนต์ผู้ค้าน้ำมันในประเทศไทย จัดทำโครงการ ‘คลินิกรถ ลดฝุ่น PM2.5’ เพื่อจัดโปรโมชันลดค่าบริการตรวจสอบสภาพรถ ทั้งการเปลี่ยนไส้กรองอากาศ ไส้กรองน้ำมัน และตรวจเช็กรถยนต์กว่า 35 รายการฟรี ที่ศูนย์บริการใกล้บ้าน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น​ของคนกรุงเทพฯ​ และทุกจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจาก PM 2.5 โปรโมชันนี้ออกมาสำหรับรถยนต์ที่อายุการใช้งานตั้งแต่ 2 – 15 ปี เรียกได้ว่ายิ่งอายุรถยนต์มาก บริษัทที่เข้าร่วมก็จะให้ส่วนลดมากขึ้นตามไปด้วย โดยส่วนลดสูงสุดอยู่ที่ 55 เปอร์เซ็นต์ เพื่อจูงใจให้ประชาชนที่มีรถยนต์เก่าเข้ามารับบริการบำรุงรักษา ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ของรถยนต์นั่นเอง รถของบ้านไหนที่เข้าเกณฑ์ เจ้าของรถสามารถเข้าร่วมตรวจเช็กสภาพรถยนต์ เปลี่ยนถ่ายน้ำมัน รวมถึงเข้ารับการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 29 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ศูนย์บริการใกล้บ้าน และหากใครมีแพลนเดินทางในช่วงที่ฝุ่น PM 2.5 เพิ่มสูง ติดตามการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นล่วงหน้า รวมถึงรายละเอียดส่วนลดและระยะเวลาเข้าร่วมโครงการของแต่ละบริษัทได้ที่เพจ กรุงเทพมหานคร

Spacebar Zine สตูดิโอและร้านซีน (หนังสือทำมือ) ย่านจตุจักร คอมมูนิตี้เปิดใหม่ของคนทำสิ่งพิมพ์อิสระ

“ในกรุงเทพฯ ร้านหนังสือสิ่งพิมพ์อิสระยังมีไม่ค่อยมาก ยิ่งเป็นร้านขาย Zine (ซีน) หรือหนังสือทำมือสไตล์กุ๊กกิ๊ก เข้าใจง่าย มีคอนเซปต์สนุกๆ ก็ยิ่งไม่ค่อยมี เราเลยคิดว่าเปิดหน้าร้านดีกว่า” นี่คือเหตุผลที่ทำให้ ‘วิว-วิมลพร วิสิทธิ์’ และ ‘ภูภู่ฯ-วิศรุต วิสิทธิ์’ จาก Spacebar Design Studio สตูดิโอที่เรียกตัวเองว่า Zine Producer หรือผู้รับผลิตซีน สิ่งพิมพ์อิสระ อาร์ตบุ๊ก และพ็อกเกตบุ๊ก ตัดสินใจเปิดหน้าร้าน Spacebar Zine ขึ้นอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ต้องปิดหน้าร้านไปในช่วงโควิด พื้นที่แห่งนี้ได้รวบรวม Zine ทั้งที่ทาง Spacebar Design Studio ทำเองและคัดเลือกมาระหว่างการเดินทางไปออกบูทในงาน Art Book Fair ในประเทศต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น Zine ในรูปแบบของงาน Illustration หรือภาพถ่ายที่มีคอนเซปต์น่ารักๆ เข้าใจง่าย และอ่านได้เพลินๆ รวมไปถึงสารพัดของกุ๊กกิ๊กเกี่ยวกับงานวาดที่ชอบอย่าง Art Print พิน และเข็มกลัดก็มีเหมือนกัน […]

‘Subterranean Ruins’ ศูนย์ชุมชนหมู่บ้าน Kaggalipura ในอินเดีย ที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้ต้นไม้และดูคล้ายซากปรักหักพัง

ในหลายประเทศย่อมมีพื้นที่รกร้างที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ นอกจากจะเสียประโยชน์ด้านการใช้งานแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดอันตรายและสร้างความไม่ปลอดภัยให้กับผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาอีกด้วย ในรัฐกรณาฏกะ ประเทศอินเดีย ก็มีพื้นที่รกร้างที่เต็มไปด้วยต้นมะม่วง ต้นกล้วย ต้นมะพร้าว และต้นอ้อยด้วยเหมือนกัน ทางสตูดิโอสถาปัตยกรรมท้องถิ่น ‘A Threshold’ จึงออกแบบพื้นที่ตรงนั้นให้กลายเป็น ‘Subterranean Ruins’ ศูนย์ชุมชนของหมู่บ้าน ‘Kaggalipura’ ที่ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเรียน งานสัมมนา คอนเสิร์ต หรือพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจของชุมชน พื้นที่แห่งนี้ถูกออกแบบมาให้เหมือนซากปรักหักพังที่มีกำแพงอิฐที่เจาะช่องเปิดแบบครึ่งวงกลม ซึ่งแต่ละช่องจะเรียงตรงกัน คล้ายๆ การสร้างเส้นทางหลักของพื้นที่ ส่วนแผ่นอิฐชิ้นอื่นๆ ที่นำมาปูเป็นพื้นจะถูกจัดวางในลักษณะที่หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีต้นไม้ เพื่อปล่อยให้พืชพรรณเหล่านั้นเติบโตตามธรรมชาติและปกคลุมสถานที่แห่งนี้ภายใต้ใบไม้สีเขียว ศูนย์ชุมชนฯ ถูกแบ่งพื้นที่โดยมีลานกลางแจ้งเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่เชื่อมพื้นที่ทั้งหมดเข้าด้วยกัน โดยลานนี้จะเปิดให้เด็กๆ เข้ามาวิ่งเล่น หรือใช้จัดนิทรรศการกลางแจ้งก็ได้ และห้องต่างๆ ภายในศูนย์ก็ออกแบบให้ปรับใช้งานได้หลายแบบ ทั้งห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องนิทรรศการ หรือห้องเรียน ขณะเดียวกัน ทางผู้ออกแบบต้องการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการนี้ ผ่านวัสดุต่างๆ ที่ใช้สร้างทั้งภายนอกและภายในศูนย์ชุมชน ซึ่งมาจากวัสดุท้องถิ่นในรัศมี 50 กิโลเมตร ไม่ว่าจะเป็นอิฐสีแดงสำหรับผนัง หินสำหรับปูพื้น และหินแกรนิตสีดำที่ทำหน้าที่เป็นกรวด กำแพงกันดินรอบโครงการก็มาจากก้อนหินที่ขุดขึ้นมาจากบริเวณโดยรอบ รวมไปถึงเครื่องปรับอากาศเองก็ไม่จำเป็นต้องใช้ในศูนย์ชุมชนแห่งนี้ เนื่องจากมีต้นไม้มากเพียงพอที่จะให้ร่มเงาผู้คนที่เข้ามาใช้งาน Sources :Designboom […]

McDonald’s เปิดตัวถุงกระดาษฉลุ แรงบันดาลใจจากบ้านสไตล์นอร์เวย์ เพิ่มความอบอุ่นให้มื้ออาหารปลายปี

ใกล้ปลายปีแล้ว หลายคนคงเริ่มจับกลุ่มสังสรรค์หรือทำกิจกรรมโปรดอยู่ในบ้านพร้อมกินของอร่อยอย่างสงบสุข ด้วยเหตุนี้ McDonald’s ในประเทศนอร์เวย์ ได้จัดทำแคมเปญส่งเสริมการขายผ่านบริการ ‘McDelivery’ ด้วยการเนรมิตถุงกระดาษที่ทำหน้าที่เป็นแพ็กเกจจิ้งจัดส่งอาหารให้เข้ากับบรรยากาศเฟสทีฟช่วงส่งท้ายปี วิธีการคือ เปลี่ยนถุงกระดาษหน้าตาธรรมดาๆ ให้กลายเป็นงานศิลปะ Hand-cut Paper โดยฝีมือของ ‘Julie Wilkinson’ นักออกแบบประติมากรรมกระดาษจาก ‘Makerie Studio’ ที่หยิบเอาอาคารบ้านเรือนและอะพาร์ตเมนต์สไตล์นอร์เวย์มาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบถุงกระดาษของ McDelivery Julie Wilkinson ได้เปลี่ยนถุงกระดาษสีน้ำตาลให้กลายเป็นผนังของตึกด้วยการฉลุประตูกับหน้าต่างที่ทำให้มองเห็นอาหารภายใน รวมถึงใช้สีพิเศษพิมพ์บานหน้าต่างที่มีแสงไฟสีเหลืองนวล ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนพักผ่อนอยู่ในบ้าน นับว่าเป็นการออกแบบที่เรียบง่ายแต่คิดมาดีสุดๆ Sources :Creative Bloq | t.ly/oLWcuDesignTAXI | t.ly/zi8-M

สำรวจคลื่นทะเลในใจและปัญหาชายหาดสงขลาใน ‘Solids by the Seashore’ หนังแซฟฟิกไทยที่ไปคว้ารางวัลที่เกาหลีใต้

ในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน (Busan International Film Festival : BIFF) ครั้งที่ 28 ที่ผ่านมา มีสองหนังไทยที่ได้เข้าฉายในเทศกาลและได้รับรางวัลติดไม้ติดมือกลับมาด้วย หนึ่งในนั้นคือ ‘Solids by the Seashore ทะเลของฉัน มีคลื่นเล็กน้อย ถึงปานกลาง’ โดยผู้กำกับ ‘อิฐ-ปฏิภาณ บุณฑริก’ น่าเสียดายที่แม้ว่าจะไปคว้าถึงสองรางวัลจากเทศกาลหนังระดับนานาชาติ แต่ Solids by the Seashore กลับมีที่ทางในการฉายแสนจำกัดแค่ในกรุงเทพฯ เท่านั้น เพราะนอกจากรางวัลที่การันตีคุณภาพแล้ว หนังเรื่องนี้ยังมีประเด็นที่น่าสนใจซึ่งไม่ค่อยมีหนังไทยเลือกหยิบมาบอกเล่านัก ตั้งแต่การพาไปสำรวจความซับซ้อนในใจของมุสลิมที่มีหัวก้าวหน้าและเป็นเควียร์ การเมืองท้องถิ่น ปัญหาสิ่งแวดล้อมชายหาดกัดเซาะ ไปจนถึงการใช้งานศิลปะสะท้อนความในใจของสองตัวละครหลัก ซึ่งคนหนึ่งเป็นหญิงสาวชาวใต้ที่มีครอบครัวมุสลิมอนุรักษนิยม และอีกคนคือศิลปินหญิงหัวขบถจากในเมืองที่เดินทางมาจัดนิทรรศการศิลปะ พ้นไปจากความรักความสัมพันธ์ของหญิงสาวทั้งสองที่พยายามหาที่ทางให้ตัวเองภายใต้กรอบที่ขีดกั้น การที่ฉากหลังของความสัมพันธ์เป็นสิ่งแวดล้อมของทะเลที่งดงามและความอัปลักษณ์ของเขื่อนหินกันคลื่นกับเม็ดทรายแปลกปลอม ก็สื่อสารถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาเมืองได้อย่างแยบคาย คงดีไม่น้อยถ้าคนในจังหวัดอื่นๆ จะได้ชมหนังเรื่องนี้ด้วย Solids by the Seashore ฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์ House Samyan และ Doc Club & Pub.

น้ำขวดไหนหมดอายุ แค่กดก็รู้ได้ด้วย ‘Mimica Bump Cap’ ฝาขวดน้ำอัจฉริยะไวต่ออุณหภูมิ 

เชื่อว่าในตู้เย็นของหลายบ้าน นอกจากจะมีมะนาวครึ่งซีกที่ใช้ไม่หมดวางไว้แล้ว ในช่องใส่ขวดน้ำก็ยังเต็มไปด้วยขวดน้ำที่เหลือครึ่งขวดวางเรียงรายอยู่เต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นน้ำเปล่า น้ำผลไม้ หรือนม ครั้นนานๆ เข้าจะหยิบมากินก็เริ่มไม่มั่นใจว่าน้ำเหล่านั้นจะหมดอายุหรือยัง เพื่อไม่ให้คนหยิบเอาของเสียที่หมดอายุเข้าปาก หรือเผลอทิ้งของที่ยังไม่หมดอายุไปเพราะความกลัว สองบริษัทผลิตฝาผลิตภัณฑ์ ‘United Caps’ และ ‘Mimica’ จึงร่วมมือกันนำเสนอโซลูชันสุดล้ำสำหรับการรับรองความปลอดภัยของอาหาร ‘Mimica Bump Cap’ ฝาขวดพลาสติกที่ออกแบบมาให้แยกผลิตภัณฑ์ที่ยังสดใหม่หรือเสียแล้วออกจากกันได้ หลักการทำงานของ Mimica Bump Cap ง่ายมาก แค่กดบริเวณฝาขวดโดยไม่ต้องเปิดขวดเพื่อดมกลิ่นหรือลิ้มรสให้ยุ่งยาก เพราะถ้าผลิตภัณฑ์อยู่ในสภาพดีและบริโภคได้ ฝาจะอยู่ในสภาพเรียบเนียนเป็นปกติ แต่ถ้ากดลงไปแล้วรู้สึกถึงเทกซ์เจอร์ปุ่มนูนซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนประกอบภายในฝา แสดงว่าได้เวลาโยนเครื่องดื่มนั้นทิ้งได้แล้ว เนื่องจากการยุบตัวของฝาขวดเกิดจากการทำปฏิกิริยาของเจลที่ทำจากพืชที่อยู่ภายในฝา ซึ่งถ้าผลิตภัณฑ์ภายในเน่าเสีย ตัวเจลจากพืชที่ไวต่ออุณหภูมิจะสลายตัวเป็นของเหลว ทำให้เรากดฝาจนรู้สึกถึงปุ่มนูนได้นั่นเอง ถือเป็นนวัตกรรมที่ออกมาเพื่อแก้ปัญหาความท้าทายด้านความยั่งยืน ลดการเกิดขยะอาหารโดยไม่จำเป็น อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อผู้พิการทางสายตาได้มากกว่าการเขียนวันหมดอายุไว้ที่ข้างขวดแบบเดิมๆ Sources :Mimica | www.mimicalab.com/bumpcapinfoUnited Caps | www.unitedcaps-innovations.com/mimicaYanko Design | t.ly/i22Lj

‘Goose Liver’ บอร์ดเกมที่จะพาไปสำรวจเส้นทางอันโหดร้ายของอุตสาหกรรมการผลิตฟัวกราส์ราคาแพง

ใกล้ช่วงคริสต์มาสเข้ามาทุกที หลายประเทศเริ่มมีการเตรียมวัตถุดิบสำหรับเฉลิมฉลองอาหารมื้อพิเศษประจำปี โดยหนึ่งในนั้นก็มักมี ‘ฟัวกราส์’ เมนูราคาแพงที่แลกมากับการทรมานห่านเพื่อการผลิตตับห่านที่นุ่มละมุนลิ้นอยู่ด้วย และเพื่อเป็นการรณรงค์ให้ลดการกินฟัวกราส์ลง ‘Wakker Dier’ องค์กรสิทธิสัตว์ และ ‘Mutant’ บริษัทเอเจนซีโฆษณาในเบอร์ลิน ได้ร่วมมือกันผลิต ‘Goose Liver’ บอร์ดเกมที่มีสีสันและภาพประกอบสดใส เลียนแบบ ‘Game of the Goose’ บอร์ดเกมแบบดั้งเดิมในศตวรรษที่ 15 แม้ว่าภาพจะดูน่าเล่น แต่เนื้อหาในเกมนั้นกลับเป็นการย้ำให้เห็นถึงความเป็นจริงอันโหดร้ายในอุตสาหกรรมการผลิตฟัวกราส์ ที่ถึงจะมีการห้ามผลิตในหลายประเทศของยุโรป แต่การบริโภคและการนำเข้ายังคงมีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บอร์ดเกมนี้จะพาไปดูเส้นทางในขั้นตอนการผลิตฟัวกราส์ ทั้งกระบวนการที่ได้มาซึ่งตับห่าน ก่อนจะเปลี่ยนให้เป็นอาหารรสเลิศ ซึ่งในการทอยลูกเต๋าแต่ละครั้ง เลขแต้มที่ได้อาจพาผู้เล่นไปตกอยู่ในสถานการณ์อันโหดร้ายอย่างการบังคับป้อนอาหารที่สะท้อนถึงการทารุณห่านเหล่านี้ นอกจากนี้ยังมีอุปสรรคอีกมากมายตลอดทั้งเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นช่องที่เปลี่ยนให้ห่านของเราต้องเป็นอาหารแมวหลังจากพบว่าคุณสมบัติไม่เพียงพอที่จะกลายเป็นฟัวกราส์ ช่องที่พาเรากลับไปยังจุดเริ่มต้นกับการทนทุกข์ทรมานใหม่ทั้งหมดเพราะปัญหาไข้หวัดนกระบาด หรือช่องที่ต้องย้อนกลับไปที่โรงงานผลิตเพราะไขมันที่ตับห่านยังไม่เพียงพอ เป็นต้น โดยทาง Wakker Dier ได้ส่งเกม Goose Liver ให้อินฟลูเอนเซอร์ด้านสิทธิสัตว์ รวมไปถึงร้านอาหารที่ยังมีเมนูฟัวกราส์ขาย เพื่อเป็นการให้ความรู้และเตือนสติถึงการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมเบื้องหลังเมนูนี้ Sources :DesignTAXI | tinyurl.com/2p8we4n3The Stable | tinyurl.com/2vjd6ysp

1 18 19 20 21 22 131

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.