ชีวิตอิสระที่รอคอย ‘อินเดียปลดเกษียณช้าง 20 ตัว’ ในป้อมอาเมร์ หลังถูกใช้งานหนักมานาน

อินเดียเป็นประเทศที่นำช้างมาใช้ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นรองแค่ไทย โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่าง ‘ป้อมอาเมร์’ (Amer Fort) ที่มีช้างทำงานอยู่ในนั้นมากกว่า 100 ตัว ซึ่งพวกมันต้องทำงานหนักทุกวัน แต่กลับได้อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่ ดังนั้น องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก (World Animal Protection) จึงได้ร่วมรณรงค์ช่วยเหลือช้างที่ป้อมอาเมร์มาตลอดหลายปี จนในที่สุด กรมป่าไม้อินเดียก็สั่งปลดเกษียณช้างป่วยหนัก 20 ตัว เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากที่ทีมสัตวแพทย์ลงพื้นที่ตรวจสุขภาพช้างเมื่อกลางปีที่แล้ว แล้วพบว่าสุขภาพของช้างกลุ่มนี้ค่อนข้างน่าเป็นห่วง องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกจึงเรียกร้องให้ภาครัฐของอินเดียเข้าช่วยเหลือ ก่อนจะมีประกาศห้ามนำสัตว์ที่มีอาการป่วยหรือมีสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์มาใช้เพื่อความบันเทิง  เหตุการณ์นี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตช้างในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของอินเดีย และยังเป็นแบบอย่างให้อีกหลายประเทศทั่วโลกด้วย องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกเชื่อว่า เราสามารถเปลี่ยนรูปแบบการท่องเที่ยว จากการนำช้างมาเป็นพาหนะหรือใช้เพื่อความบันเทิง เป็นการส่งเสริมให้มีการดูแลช้างในรูปแบบอื่น เช่น การทำปางช้าง ซึ่งนักท่องเที่ยวชมวิถีชีวิตของช้างตามธรรมชาติได้โดยไม่ทรมานพวกมัน Source : องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก | https://bit.ly/3bcmycG 

ถูกใจสายอาร์ต Van Gogh Museum เปิดให้โหลดภาพวาดฝีมือ ‘แวน โก๊ะ’ ฟรี กว่า 1,500 ชิ้น

หลังจาก ‘Van Gogh Museum’ พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ประกาศปิดทำการชั่วคราวเนื่องจากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เหล่าแฟนๆ งานศิลปะก็ไม่ต้องเสียใจไป เพราะทางพิพิธภัณฑ์ได้เปิดให้ทุกคนเพลิดเพลินกับงานศิลปะจากบ้านและดำดิ่งไปกับเรื่องราวเบื้องหลังผลงานแต่ละชิ้นได้ผ่านเว็บไซต์ www.vangoghmuseum.nl/en ผู้ที่สนใจเลือกรับชมและดาวน์โหลดผลงานภาพวาด ภาพระบายสี และภาพพิมพ์ของแวน โก๊ะ กว่า 1,500 ชิ้น ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่มีข้อแม้ว่าห้ามนำภาพไปใช้เพื่อการค้า และนอกจากนี้ ทางพิพิธภัณฑ์ยังมีกิจกรรมออนไลน์อื่นๆ เช่น 4K Tour วิดีโอนำชมพิพิธภัณฑ์ความคมชัดสูงที่ให้คุณรู้สึกเหมือนได้เข้าไปอยู่ในโลกของแวน โก๊ะ หรือบทความที่จะชวนคุณหาคำตอบเกี่ยวกับเรื่องราวของศิลปินเอกคนนี้ เพราะการปิดตัวลงชั่วคราวนี้เองทำให้พิพิธภัณฑ์ต้องสูญเสียรายได้ไปกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ หากใครประทับใจแล้วอยากสนับสนุน ก็บริจาคได้ที่ https://bit.ly/3uOpaVO เพื่อช่วยต่อลมหายใจให้ Van Gogh Museum ยังคงอยู่ต่อไปได้ 

ต่อชีวิตหอศิลป์กรุงเทพฯ ผ่าน ‘Art in Postcards’ นิทรรศการโปสต์การ์ด จาก 12 ศิลปินไทย

หอศิลป์กรุงเทพฯ หรือ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร สถานที่จัดแสดงงานศิลปะเจ๋งๆ ใจกลางกรุงเทพฯ ที่เปิดให้เราเข้าชมฟรีมาตลอดหลายปี เป็นที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆ คน ในเดือนสิงหาคมนี้จะเปิดให้บริการครบ 10 ปีพอดี

กฟผ. จับมือเรือด่วนเจ้าพระยา เตรียมทดลองให้บริการเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า

เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ค่าฝุ่นละอองหลายพื้นที่ในประเทศไทยกลับมาอยู่ในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอีกครั้ง ซึ่งสาเหตุของฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือที่เราคุ้นกันในชื่อ PM 2.5 มาจากหลายปัจจัยด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือการเผาไหม้ที่เกิดจากการคมนาคมขนส่งที่เราใช้กันทุกวัน  การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงจากการคมนาคมขนส่งก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจน สารประกอบไฮโดรคาร์บอน ฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน สารตะกั่ว และก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนและคุณภาพของอากาศโดยรวม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จึงร่วมยกระดับคุณภาพการเดินทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าในระบบขนส่งสาธารณะ จับมือกับบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด นำเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้าของ กฟผ. ออกทดลองให้บริการแก่ประชาชนทั่วไป ภายใต้แนวคิดการประหยัดพลังงานและลดมลพิษให้ได้มากที่สุด การทดลองเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้านี้จะให้บริการเส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ท่าเรือปากเกร็ด – พระราม 7 และท่าเรือพระราม 7 – สาทร เป็นเวลา 6 เดือน สำหรับผู้ที่สนใจ ติดตามวันและเวลาที่เริ่มให้บริการได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ Chao Phraya Express Boat – เรือด่วนเจ้าพระยา Sources : การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย https://bit.ly/3pW0Fm2กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม https://bit.ly/3qTGxlY

ไลฟ์สไตล์กรีน ‘ชุดชั้นในเก่าที่รีไซเคิลไม่ได้’ เป็นเชื้อเพลิงทดแทนถ่านหิน เพียงส่งไปบริษัทกำจัดขยะ N 15

หากใครต้องการทิ้งกางเกงใน ชุดชั้นใน เสื้อกล้าม หรือถุงเท้าที่มีสภาพเก่าจนบริจาคไม่ไหว สามารถนำไปบริจาคได้ที่ ‘N 15 Technology’ บริษัทกำจัดของเสียและวัสดุที่ไม่ใช้แล้วจากชุมชนและโรงงานอุตสาหกรรม

ญี่ปุ่นสร้างปุ่มกดสาธารณะโฮโลแกรม ถอนเงิน ล้างมือ ขึ้นลิฟต์ และเปิดประตูได้ โดยไม่ต้องสัมผัสเชื้อโรค

ในหนังไซไฟ ตัวละครถอนเงินหน้าตู้เอทีเอ็มโดยไม่ต้องกดปุ่มอะไร ล้างมือในห้องน้ำสาธารณะโดยไม่ต้องจับก๊อก หรือขึ้นลิฟต์โดยไม่ต้องกดเลือกชั้น ไปจนถึงเปิดประตูโดยไม่ต้องใช้มือจับลูกบิดสักนิด เพราะมีโฮโลแกรมเด้งขึ้นมากลางอากาศให้สั่งการแทน เหล่านี้ดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัวและไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นได้ แต่มาวันนี้เชื่อว่าคงเป็นเรื่องใหม่และน่าตื่นเต้นของผู้คนไม่น้อย เพราะญี่ปุ่นเขาทำให้เกิดขึ้นจริงแล้วและล้ำมาก! ‘Floating Pictogram Technology’ คือนวัตกรรมภาพลอยโฮโลแกรมที่ติดตั้งระบบอินเทอร์เฟซแบบไร้สัมผัสด้วยเซนเซอร์ ของสองบริษัทเทคโนโลยี Murakami Kaimeido และ Parity Innovations ซึ่งคำนึงถึงความเสี่ยงในการสัมผัสสิ่งของสาธารณะนอกบ้าน ที่อาจเป็นตัวการแพร่กระจายไวรัสโคโรนาเข้าสู่ร่างกายได้ การเปลี่ยนปุ่ม แผง ก๊อก หรือลูกบิด เป็น ‘ภาพลอย’ จึงทำให้ผู้ใช้สามารถเลื่อนนิ้วเหนือภาพที่ลอยอยู่โดยไม่ต้องสัมผัสเชื้อโรคเลยสักนิด ปัจจุบันเทคโนโลยีดังกล่าวเริ่มผลิตออกมาเป็นสินค้าตัวอย่างและทดลองใช้งานจริงแล้ว ซึ่งมีเป้าหมายที่จะผลิตจำนวนมากเพื่อให้ชาวญี่ปุ่นได้ใช้กันอย่างแพร่หลายในปี 2022 Source : http://bit.ly/3s642YZ 

หมดปัญหาไม่รู้จะทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ไหน ฝากพี่ไปรษณีย์ไทยไปทิ้งได้

รู้หรือไม่? ประเทศไทยมีปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์จากชุมชนสูงถึง 380,000 ตัน/ปี แต่มีเพียงร้อยละ 7 เท่านั้นที่ถูกนำกลับรีไซเคิลอย่างที่ควรจะเป็น ส่วนที่เหลือก็จะปะปนไปกับขยะมูลฝอยอื่นๆ รอการฝังกลบ และปล่อยสารเคมีอันตรายอย่างปรอท ตะกั่ว ดีบุก สะสมต่อไปในห่วงโซ่อาหาร ดังนั้น AIS และไปรษณีย์ไทยจึงจับมือกันสร้างโครงการ ‘ฝากทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์’ ที่จะช่วยให้เราจัดการขยะได้อย่างเป็นระบบมากขึ้นผ่านบุรุษไปรษณีย์กว่า 20,000 คนทั่วประเทศ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าขยะอันตรายจะถูกนำไปกำจัดและรีไซเคิลอย่างถูกต้องตามมาตรฐานสากลแบบ ‘Zero Landfill’ หรือการรีไซเคิลแบบไม่มีการฝังกลบเลย ส่วนขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่รับฝากทิ้ง ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต สายชาร์จ หูฟัง พาวเวอร์แบงก์ และแบตเตอรี่มือถือ สำหรับคนที่สนใจก็นำเจ้าพวกนี้ใส่กล่องพร้อมกับเขียนหน้ากล่องว่า ‘ฝากทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์’ มอบให้บุรุษไปรษณีย์ที่แวะเวียนมาส่งจดหมายแถวบ้านได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

Vaccine Passport โชว์ผลตรวจและการฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อลดข้อจำกัดการข้ามประเทศ

ทุกวันนี้การเดินทางข้ามประเทศกลายเป็นเรื่องยากราวกับย้อนไปยุคก่อนมีเครื่องบิน เพราะฉะนั้น เพื่อสลัดข้อจำกัดการข้ามประเทศ ทำให้ ‘Vaccine Passport’ หรือพาสปอร์ตวัคซีน กลายเป็นทางออกที่ ‘คาดว่า’ จะทำให้น่านฟ้ากลับมาคึกคักอีกครั้ง

เอาใจทาสหมาทาสแมว ด้วยคอนโดฯ เปิดใหม่ใจกลางเอกมัย ที่เป็นมิตรกับคนและสัตว์เลี้ยง

ทุกครั้งที่จะย้ายบ้านหรือซื้อคอนโดฯ ใหม่ หนึ่งปัญหาใหญ่ของทาสหมาทาสแมวคือไม่มีพื้นที่ให้สัตว์เลี้ยงตัวโปรดได้วิ่งเล่นอย่างอิสระ แต่เดี๋ยวนี้เดเวลอปเปอร์ด้านอสังหาริมทรัพย์หลายเจ้าก็หันมาให้ความสนใจเทรนด์ Pet Friendly มากขึ้น หนึ่งในนั้นคือโครงการ MARU Ekkamai 2 จากเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ คอนโดฯ สุดชิกที่ตั้งอยู่ย่านสุดชิลอย่างเอกมัย ความโดดเด่นของ MARU Ekkamai 2 นอกจากการออกแบบที่เน้นยูนิตพิเศษ เลือกใช้วัสดุทำความสะอาดง่าย มีพื้นที่ส่วนกลางหลากหลาย ที่สำคัญ ที่นี่ยังเลี้ยงสัตว์ได้ มีพื้นที่สำหรับอาบน้ำสัตว์เลี้ยงอยู่ทางด้านหลังโครงการไว้ให้บริการ ใครที่กังวลว่าเพื่อนสี่ขาของตัวเองจะไม่มีที่อยู่ก็สบายใจหายห่วง หากสนใจก็อย่ารอช้า จูงเจ้าสี่ขาไปจับจองกันได้ที่โครงการ MARU Ekkamai 2 หรือลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลโครงการได้ที่ https://bit.ly/3jF7Ptl

อาลัยรักแด่คนที่จากไป ด้วย ‘ปักกิ่งดี’ ธุรกิจหรีดต้นไม้ช่วยลดขยะพวงหรีด นำกลับบ้านไปปลูกต่อได้

ในวันที่คนสำคัญสิ้นสุดลมหายใจ ภาพงานศพเคล้าน้ำตาในวัดและพวงหรีดดอกไม้ที่วางหน้าโลงศพเป็นสิ่งที่พบง่ายเกือบทุกงานศพไทย แต่เคยตงิดใจกันบ้างไหมว่าดอกไม้แสนสวยบนพวงหรีด จบพิธีแล้วไปไหน ไปเป็นขยะหรือเปล่าหว่า จินา โอสถศิลป์ ผู้บริหารค่ายหนังอารมณ์ดี GDH เจ้าของธุรกิจต้นไม้ ‘ปักกิ่งดี’ มองเห็นปัญหาการสร้างขยะหลังงานศพ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือพวงหรีดดอกไม้ที่ใช้แล้วทิ้ง เพราะนำไปปลูกต่อไม่ได้ เธอจึงใช้ความอารมณ์ดีผสมความใจดี (ต่อโลก) ทำพวงหรีดจากต้นไม้พร้อมจัดส่งให้ถึงงานศพในชื่อ ‘หรีดต้นไม้’ หรือ Wreath for Breath โดยต้นไม้ที่เลือกใช้จะเป็นไม้กระถาง เจ้าของงานหรือแขกเรือนสามารถนำกลับไปปลูกต่อทั้งหมด เพื่อแลกเปลี่ยนออกซิเจนดีๆ แทนของชำร่วยให้คนที่ยังอยู่ได้รับอากาศบริสุทธิ์เพิ่มขึ้น นอกจากต่อลมหายใจให้คน ที่นี่ยังมีบริการรับดูแลต้นไม้ต่อในกรณีที่เจ้าภาพบางคนแบกกลับบ้านไม่ไหว โดยรายได้ 5% จากการขายหรีดต้นไม้ยังมอบให้มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ เพื่อนำไปปลูกป่าเพื่อต่อลมหายใจให้ผืนป่าอยู่กับเราไปนานๆ อีกด้วย ป.ล. สำหรับแฟนเพจ Urban Creature เพียงแจ้งปักกิ่งดีว่าตามมาจากเพจเรา รับส่วนลดไปเลย 10% ทุกรายการ ตลอดเดือนมีนาคม ปี 2564 รายละเอียดเพิ่มเติม : www.packkingdee.com

‘ฟังบูโดกัน’ นิทรรศการเสียงออนไลน์ ที่บอกเล่าเรื่องราวของชาวบ้านกับการต่อสู้เรื่องสิทธิที่ดินบนเทือกเขาบูโด

หลังจากเทือกเขาบูโด-สุไหงปาดีถูกประกาศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติในปี 2542 ก็ส่งผลให้ชาวบ้านไม่สามารถถือครองที่ดินทำกินอย่างยั่งยืน กลายเป็นปัญหายืดเยื้อมานานหลายสิบปี  เราอยากชวนทุกคนมาฟัง ‘ฟังบูโดกัน’ นิทรรศการเสียงออนไลน์ที่จะรวมสื่อและศิลปินอาสาหลากหลายแขนง อาทิ Attention Studio, a day BULLETIN, Localry, echo, The Momentum, Trawell Thailand, Max Jenmana, ProtoZua, H 3 F, วงสามัญชน, JIPI, Julie Baker and Summer, Nut Dao, Gongkan และอีกมากมาย ที่จะมาถ่ายทอดเรื่องราวและร่วมกันเป็นกระบอกเสียงให้ชาวบ้านบนเทือกเขาบูโด สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งกำลังต่อสู้เรื่องสิทธิที่ดินทำกินหลังมีการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติทับที่ดินทำกินของชุมชน ทำให้จาก ‘ผู้อยู่อาศัยมาก่อน’ กลายเป็น ‘ผู้ทำผิดกฎหมาย’ ใครที่สนใจ ติดตามได้จากช่องทาง Facebook Page : Attention.studio ตั้งแต่วันนี้ – 15 มีนาคม 2564 

Amazon สร้างออฟฟิศในฝันให้พนักงาน มีทางเดินเป็นป่า มีห้องประชุมเป็นสวน เลี้ยงหมาได้ และใช้พลังงานหมุนเวียนทั้งตึก

ทำงานบนหอคอยแก้วทรงเกลียวเหมือนก้นหอย ต้นไม้รายล้อมปกคลุมรอบทางเดิน มองออกนอกหน้าต่างมีสวนสาธารณะอยู่รอบๆ วันไหนอยากจูงสุนัขมาทำงานด้วยก็มีบริการรับเลี้ยง และหลังเลิกงานแอบไปเดินตลาดเกษตรกรที่อยู่เพียงชั้นล่างออฟฟิศ…โอ้โห ถ้าได้ทำงานท่ามกลางบรรยากาศที่ว่า คงรู้สึก Productive น่าดู ในไทยอาจจะยังไม่มีออฟฟิศในฝันแบบที่กล่าวไว้ แต่เมืองอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา กำลังจะมีแล้วนะ! เพราะบริษัทสถาปัตยกรรม NBBJ เพิ่งออกแบบสำนักงานใหม่ ของบริษัทค้าปลีกออนไลน์ Amazon ในชื่อ ‘The Helix’ โดยมีอุดมการณ์อยากสร้างสภาพแวดล้อมให้พนักงานสามารถจัดลำดับความสำคัญของงานที่ดีต่อสุขภาพในพื้นที่ 260,000 ตารางเมตร พื้นที่ของ The Helix ประกอบด้วย 3 อาคาร มีทั้งออฟฟิศที่ตลอดทางเดินขึ้นไปทำงานจะมีพื้นที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ คล้ายป่ากลางแจ้ง นอกจากนั้นยังมีสวนสาธารณะในร่มสำหรับประชุมงานที่จุคนได้ถึง 1,500 คน พร้อมเอาใจพนักงานที่มีลูกและสุนัขด้วยบริการรับเลี้ยงสุนัขและศูนย์ดูแลเด็ก ส่วนชั้นล่างสุดของออฟฟิศเป็นพื้นที่สำหรับร้านค้า ร้านอาหาร และตลาดเกษตรกรไว้ให้ช้อปปิงยามเย็น ที่สำคัญทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ออฟฟิศจะถูกเปลี่ยนเป็นพื้นที่สาธารณะที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ามานั่งพักผ่อนได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย Amazon อยากให้พนักงานมีสุขภาพที่ดีจากภายในสู่ภายนอกท่ามกลางบรรยากาศการทำงาน แต่ก็ไม่ลืมใส่ใจสิ่งแวดล้อมรอบข้างโดยการใช้พลังงานหมุนเวียนทั้งตึก เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการเป็นบริษัทที่ไม่ปล่อยคาร์บอนเลยภายในปี 2583 ซึ่งโปรเจกต์นี้จะเริ่มสร้างในปี 2565 และแล้วเสร็จในปี 2568 Source : https://bit.ly/3cX3n81 

1 132 133 134 135 136 143

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.