
WHAT’S UP
Old Enough รายการญี่ปุ่นใน Netflix ที่มอบภารกิจให้เด็กอนุบาล ออกไปเรียนรู้และเอาตัวรอดนอกบ้าน
จำได้ไหมว่าคุณออกนอกบ้านคนเดียวครั้งแรกตอนอายุเท่าไหร่? ตอนเด็กๆ หลายคนต้องเคยได้รับมอบหมายภารกิจให้ไปซื้อน้ำปลา เอาของไปให้ญาติบ้านใกล้เรือนเคียง หรือฝากไปทำธุระเล็กๆ ละแวกบ้าน คุณจำครั้งแรกได้ไหมว่าตอนนั้นรู้สึกอย่างไร และอายุเท่าไหร่กันบ้าง? ‘Old Enough ผจญภัยวัยอนุบาล’ คือรายการเรียลลิตีครอบครัวจาก NTV ประเทศญี่ปุ่น ที่มอบภารกิจให้เด็กวัย 2 – 3 ขวบไปทำธุระใกล้ๆ บ้านให้พ่อแม่ เพื่อให้ได้เรียนรู้วิธีเอาตัวรอดนอกบ้าน เรียนรู้ที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ช่วยเหลือตัวเองและช่วยงานพ่อแม่ได้มากขึ้น ถ้าคุณเคยเป็นแฟนรายการขำกลิ้งลิงกับหมา เราเชื่อว่าจะหลงรักรายการนี้ได้ไม่ยาก เพราะตลอดทั้งรายการจะได้เอาใจช่วยเด็กๆ ให้ทำภารกิจให้สำเร็จลุล่วงไปได้ บางตอนทั้งขำทั้งซึ้งจนน้ำตาลไหลในความน่ารักใสซื่อของเด็กๆ ภารกิจที่เด็กๆ ได้รับมอบหมายไม่ใช่แค่ซื้อน้ำปลาแล้วกลับบ้านแน่นอน เพราะธุระที่พ่อแม่มอบหมายให้มีหลายจุด ทั้งไปซื้อของ เอาปลาไปแล่ที่ร้าน ไปรับเสื้อที่ร้านซักรีด แวะซื้อของให้แม่ จ่ายตลาด ส่งของให้ญาติ ฯลฯ มีธุระให้ทำทั้งขาไปขากลับ บางธุระมีน้ำหนักหลายกิโล แถมระหว่างทางยังมีอุปสรรคมากมาย บางคนต้องเดินระยะทางที่ไกล เดินขึ้นเขาบนทางชัน หรือเดินขึ้นบันไดศาลเจ้าหลายร้อยขั้นเพื่อไปทำภารกิจให้สำเร็จ ลองนึกดูสิว่าถ้าคุณเป็นเด็กวัย 2 – 3 ขวบจะทำภารกิจเหล่านี้ให้ลุล่วงได้โดยที่ไม่ร้องไห้ ไม่ว่อกแว่ก และไม่หลงทางได้อย่างไร แถมพ่อแม่ยังต้องใจแข็งมากๆ ด้วยที่ยอมปล่อยลูกวัยนี้ออกไปผจญภัยนอกบ้านด้วยตัวเอง รายการนี้จะทำให้เราได้ลุ้นและเอาใจช่วยเด็กๆ เรายังได้เห็นความสัมพันธ์ของครอบครัว […]
โปรเจกต์ใหม่ในโลก NFT ของ ปั๋น Riety นำงานศิลปะไปเป็นตัวละครในเกม Hotel de Mentía เปิดขายวันที่ 23 เม.ย.
จากกระแสความนิยมในวงการ NFT ที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ ‘ปั๋น ดริสา’ หรือที่รู้จักกันในนาม Riety ยูทูบเบอร์สายอาร์ตที่มีผู้ติดตามในออนไลน์รวมกว่า 1.8 ล้านคน ได้ปล่อยวิดีโอ How to sell your art as NFT | วิธีลงขายงาน NFT ให้ความรู้และทำให้ผู้ติดตามได้เข้าใจโลกของ NFT มากขึ้น และล่าสุดเตรียมปล่อย โปรเจกต์สุดพิเศษ Hotel de Mentía หรือ โรงแรมแห่งการหลงลืม โปรเจกต์นี้เกิดจากความตั้งใจของ ปั๋น และทีม Riety Studio ที่จะสร้างงานศิลปะ เกมและคอมมูนิตี้ ขึ้นมา โดยปั๋นเผยความรู้สึกว่า “เวลาคนเราเจ็บปวดมาก ๆ บางทีเราอยากจะลืมความเจ็บปวด และอยากให้ความเจ็บปวดหายไป ดังนั้นจึงเกิดเป็น Collection นี้ขึ้นมา เป็นโรงแรมที่โผล่ขึ้นมาในเวลาที่คนคนหนึ่งรู้สึกเจ็บปวดใจจากอดีต จนมองไม่เห็นทางในอนาคต ทางโรงแรมจะปรากฏขึ้นเพื่อเสนอ ชีวิตใหม่ให้จากการเป็นแขกในโรงแรม ผ่านการซื้อ NFT ที่แต่ละตัวจะมีเรื่องราวที่แตกต่างกันออกไป” […]
24 เม.ย. นี้ นำชุดโปรดตัวเก่ามาแลกกัน ในงาน Clothes Swap ที่โรงแรม ASAI กับ Fashion Revolution Thailand
ใครมีเสื้อผ้าล้นตู้เชิญทางนี้ โดยเฉพาะเสื้อผ้าดีๆ ที่ไม่มีโอกาสได้ใส่ ใส่ไม่ได้ ไม่ชอบ ไม่ Spark Joy อีกต่อไปแล้ว เรามาต่อชีวิตให้เสื้อผ้าเหล่านี้กันเถอะ! สัปดาห์นี้เราอยากชวนคุณมารื้อตู้เสื้อผ้าด้วยกัน แล้วนำชุดเก่าตัวโปรดมาแลกชุดใหม่ที่งาน ‘Fashion Revolution Week 2022 Clothes Swap : Dress to Express’ งานแลกเปลี่ยนเสื้อผ้าที่จะชวนคุณมาร่วมแสดงออกสไตล์และตัวตนที่ไม่เหมือนใคร ผ่านการแต่งตัวที่สนุกเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือไม่ต้องซื้อใหม่ และลดการสร้างขยะและมลพิษให้โลกได้อีกด้วย Clothes Swap ไปทำไม?เสื้อผ้าส่วนใหญ่ที่ถูกผลิตออกมาขายในปัจจุบัน 100,000 ล้านชิ้น/ปี ถูกใส่ไม่กี่ครั้งก็ทิ้งไป เกิดเป็นขยะเสื้อผ้าที่กองอยู่ทั้งในตู้เสื้อผ้าของเราและ Landfill ของโลก และยังขับเคลื่อนโมเดลธุรกิจแบบฟาสต์แฟชั่นและวัฒนธรรมบริโภคนิยม (Throw-away Culture) อันเป็นสาเหตุหลักของปัญหานี้ Fashion Revolution Thailand ไม่ได้อยากชวนให้ผู้คนเลิกซื้อ หรือหยุดสนุกกับการแต่งตัว เพราะเชื่อว่า ‘เสรีภาพในการแสดงออก’ เป็นได้มากกว่าแค่การพูด การแต่งตัวและการได้ทดลองสไตล์ใหม่ๆ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทรงพลังในการประกาศตัวตนและจุดยืน จึงอยากนำเสนอวิธีการใหม่ในการช้อปปิง ที่สามารถช่วยลดภาระให้สิ่งแวดล้อมได้ คือการแลกเสื้อผ้าเก่าสภาพดีแทนการซื้อใหม่ ซึ่งช่วยทั้งลดคาร์บอนฟุตพรินต์จากการเผาขยะเสื้อผ้าหรือการผลิตเสื้อผ้าที่ผลิตใหม่ได้อีกด้วย วิธี Clothes […]
Scientist Rebellion กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ ประท้วงให้โลกหยุดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ก่อนที่มนุษย์จะเจอกับหายนะโลกร้อน
ใครเป็นคอหนังคงรู้จักหรือเคยดู Don’t Look Up ภาพยนตร์เกี่ยวกับนักดาราศาสตร์สองคนที่ออกมาเตือนมนุษยชาติเกี่ยวกับดาวหางที่ใกล้จะทำลายโลก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ นักการเมือง นักข่าว และผู้คนจำนวนมากกลับไม่สนใจ อีกทั้งยังทำให้คำเตือนถึงหายนะครั้งใหญ่นี้กลายเป็นเรื่องตลกอีกด้วย ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในหนังไม่ได้ไกลตัวแต่อย่างใด เพราะตอนนี้เหตุการณ์ลักษณะเดียวกันกำลังเกิดขึ้นจริงในโลกของเรา 6 เมษายน 2565 ปีเตอร์ คาลมุส (Peter Kalmus) นักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศจากนาซา (NASA) ร่วมกับนักวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่ง ได้รวมตัวประท้วงอยู่ที่หน้าสำนักงานของบริษัทเจพีมอร์แกนเชส (JPMorgan Chase) ในนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา พวกเขามัดข้อมือของตัวเองไว้กับประตูของบริษัท และยังมีผู้ประท้วงรายอื่นๆ ยืนปักหลักอยู่บริเวณหน้าสำนักงานด้วย นักวิทยาศาสตร์และผู้ประท้วงเลือกมารวมตัวที่หน้าสถาบันทางการเงินและการลงทุนยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ เนื่องจากระหว่างปี 2559 – 2564 ในบรรดาธนาคารเพื่อการลงทุนทั้งหมดของโลก เจพีมอร์แกนเชสคือบริษัทที่ระดมทุนสนับสนุนโครงการเชื้อเพลิงฟอสซิลมากที่สุด หรือกว่า 382 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 12,900 ล้านบาท) นักวิทยาศาสตร์เรียกร้องให้เจพีมอร์แกนเชส รวมถึงบริษัทอื่นๆ หยุดสนับสนุนเงินทุนให้แก่โครงการเชื้อเพลิงฟอสซิล เพราะผลผลิตสุดท้ายของการเผาเชื้อเพลิงฟอสซิลคือการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกให้ค้างอยู่ในชั้นบรรยากาศโลก โครงการเหล่านี้จึงเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะทำให้โลกเผชิญกับหายนะจากภาวะโลกร้อน คาลมุสกล่าวพร้อมน้ำเสียงสั่นเครือว่า “ผมมาประท้วงที่หน้าบริษัทแห่งนี้ เพราะไม่มีใครฟังเสียงของนักวิทยาศาสตร์เลย ผมพร้อมเสี่ยงชีวิตและอาชีพเพื่อโลกที่สวยงามใบนี้ นักวิทยาศาสตร์พยายามเตือนพวกคุณมาหลายสิบปีแล้วว่าโลกกำลังมุ่งหน้าสู่หายนะที่เลวร้ายและใหญ่หลวง” แม้ว่าการประท้วงเป็นไปอย่างสงบ แต่ทางการได้ส่งเจ้าหน้าที่ในชุดปราบจลาจลกว่า […]
Oreology ศาสต์แห่งโอรีโอ วิศวะ MIT ศึกษาวิธี บิดโอรีโอให้มีครีมเท่ากันทั้งสองฝั่ง
Crystal Owens นักศึกษาปริญญาเอกสาขาวิศวะเครื่องกลที่ MIT กำลังไล่ตามความฝันวัยเด็กที่อยากแบ่งเนื้อครีมให้ได้ปริมาณเท่ากัน ซึ่งการทดลองได้เผยให้เห็นว่า ถึงจะอยู่ในห้องปฏิบัติการก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย.ครีมที่อยู่ในโอรีโอมีสภาพที่ค่อนข้างเหลวและอ่อนจึงเป็นเรื่องยากมากที่จะบิดให้ออกมาเท่ากัน Owens บอกว่า เธอเคยคิดว่าหากอาศัยการบิดที่สมบูรณ์แบบ ก็อาจจะเป็นไปได้ที่จะแยกครีมออกมาให้เท่ากัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงคือครีมมักจะติดไปกับด้านใดด้านหนึ่งเสมอ.กลุ่มผู้ทดลองได้สร้างอุปกรณ์ที่เรียกว่า Oreometer ซึ่งเป็นการเล่นคำจากเครื่องรีโอมิเตอร์ ผ่านการใช้รีโอมิเตอร์ เครื่องมือสำหรับวัดความหนืดของสารต่างๆ โดยสร้างขึ้นจากเครื่องพิมพ์สามมิติที่ทำงานด้วยการประกบโอรีโอเข้าด้วยกันผ่านแถบยาง ที่ปลายสองด้านจะมีท่อสำหรับใส่เหรียญเพื่อให้ได้น้ำหนักที่สมบูรณ์แบบสำหรับการบิดโอริโอออกจากกัน (วิดีโอประกอบ https://shorturl.asia/YNFxG) ซึ่งไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะจะมีปริมาณครีมที่มากกว่าในคุกกี้ฝั่งหนึ่งเสมอ.“ฉันชอบรสชาติของคุกกี้ที่มีครีมทาไว้ ถ้ากินแต่คุกกี้อย่างเดียวมันจะแห้งเกินไป และถ้าจุ่มนมคุกกี้ก็จะแตกตัวเร็วเกินไปอีก เมื่อได้เข้ามาเรียนที่ MIT ก็ได้เรียนรู้วิธีการใช้รีโอมิเตอร์ในห้องปฏิบัติการซึ่งเดิมทีใช้เพื่อทดสอบหมึกคาร์บอนนาโนทิวบ์ ซึ่งเครื่องพิมพ์สามมิติสร้างความยืดหยุ่นให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอาจแก้ปัญหาเรื่องโอรีโอที่มีครีมไม่เท่ากันได้”.พวกเขายังทดลองอีกหลายปัจจัยเพื่อให้ครีมออกมาเท่ากันให้ได้ เช่นลองจุ่มนม หรือลองปรับความเร็วในการบิดให้มากขึ้น แต่คำตอบก็ยังเหมือนเดิมคือครีมมักจะไปติดอยู่ที่คุกกี้ชิ้นใดชิ้นหนึ่งมากกว่า ซึ่งนักวิจัยกลุ่มนี้ก็ได้ตัดสินใจยุติการทดลองไว้ก่อนเพื่อเดินหน้าไปไขคำตอบเรื่องอื่น การบิดโอรีโอให้ได้ครีมเท่ากันจึงยังเป็นความลับของจักรวาลอยู่เหมือนเดิม แต่ก็ยินดีให้คนอื่นรับปัญหานี้ไปแก้ต่อด้วยวิธีการของตัวเอง.Sources : CNET VICE
สปสช. ให้ผู้หญิง 10 – 59 ปี รับสิทธิ์ฟรี! ฉีด-ฝัง ยาคุมกำเนิด ตรวจแปปสเมียร์ ฯลฯ รับสิทธิ์ผ่านแอปฯ ‘เป๋าตัง’ วันนี้ – 30 ก.ย. 65
สำหรับผู้หญิงที่สนใจอยากหาวิธีคุมกำเนิดเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ วันนี้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้เปิดสิทธิ์คุมกำเนิดให้ผู้หญิงอายุ 10 – 59 ปีฟรีแล้ว สิทธิ์ในการคุมกำเนิดที่ได้รับจะมี 3 วิธีการ ได้แก่ 1. การใส่ห่วงอนามัยคุมกำเนิด 2. การฝังยาคุมกำเนิด (3 ปี)3. การฉีดยาคุมกำเนิด นอกจากนี้ยังมีการตรวจคัดกรองมะเร็งสตรีอีก 3 วิธีการ ได้แก่1. การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี HPV DNA2. ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธีแปปสเมียร์ (Pap Smear)3. ตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมโดยการคลำ วิธีการลงรับสิทธิ์1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ 2. เข้าไปที่ ‘เมนูกระเป๋าสุขภาพ’3. เข้าไปที่ ‘บริการสร้างเสริมสุขภาพ’ เพื่อขอรับสิทธิ์ได้4. ผู้รับบริการสามารถเลือกสิทธิ์ได้ตามความต้องการ และเลือกโรงพยาบาลใกล้บ้านได้ในแอปฯ (บางโรงพยาบาลรับจองทางโทรศัพท์เท่านั้น) *กดรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 กันยายน 2565 (ไม่จำกัดจำนวนผู้รับสิทธิ์) สำหรับคนที่ไม่สะดวกใช้สมาร์ตโฟน ทาง สปสช. แจ้งว่า ผู้เข้ารับบริการสามารถเข้าไปแจ้งความจำนงใช้สิทธิ์ได้ที่หน่วยบริการตามสิทธิบัตรทอง, ประกันสังคม หรือโรงพยาบาลรัฐใกล้บ้านก็ได้เช่นเดียวกัน การเลือกวิธีการในการคุมกำเนิดมีผลข้างเคียงต่างกัน ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละบุคคล อย่าลืมศึกษาขั้นตอนและผลข้างเคียงโดยละเอียดก่อนกดรับสิทธิ์นะ นอกจากนี้ […]
noble PLAY พื้นที่หาแรงบันดาลใจ เดินดูงานศิลปะ นั่งคาเฟ่ กินมื้อสาย ติด BTS เพลินจิต เปิดเสาร์ที่ 23 เม.ย. นี้
noble PLAY – Inspiration Playground แห่งใหม่ใจกลางเมือง อยู่ติดกับรถไฟฟ้าสถานีเพลินจิต สเปซที่จะสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ให้คุณทุกครั้งที่ได้มา ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของคนเมือง เสาร์ที่ 23 เม.ย. 65 นี้ noble PLAY พร้อมเปิดให้เข้าไปใช้บริการและเปิดให้เข้าไปเช็กอินแล้ว พบกับไฮไลต์กิจกรรม ดังนี้ Art Space : นิทรรศการ Evolution จาก Pichet Klunchun Dance Company ผลงานชุดใหม่ล่าสุดโดย พิเชษฐ กลั่นชื่น ร่วมกับ noble PLAY จัดแสดงผลงานศิลปะหลากหลายรูปแบบที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ และการร่วมมือกันของนักออกแบบท่าเต้น, นักโปรแกรมคอมพิวเตอร์, นักสร้างภาพยนตร์, ประติมากร ไปจนถึงวิศวกรเครื่องกล เพื่อแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของการค้นคว้าหลักปรัชญาของ ‘หมายเลข 60’ เพื่อแสวงหาเสรีภาพของร่างกายและจิตวิญญาณร่วมสมัย (การแสดงเริ่ม 19.00 น. ระยะเวลา 45 นาที มีเฉพาะวันนี้เท่านั้น) Eatery […]
Kinokuniya เปิดร้านหนังสือการ์ตูน สุดฉูดฉาดอลังการที่ CentralwOrld
ในยุคที่การ์ตูนญี่ปุ่นกลับมาฮิตในกระแสหลักกันอีกครั้ง ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ล้วนอ่านมังงะ แย่งชิงกันซื้อการ์ตูนในระดับที่ไม่ต่างจากการกดตั๋วบัตรคอนเสิร์ตศิลปินดัง หรือกระทั่งจับกลุ่มเป็นแฟนด้อมอานิเมะกันอย่างเหนียวแน่นไม่ต่างแฟนด้อมไอดอลเกาหลี จากปรากฏการณ์นี้ทำให้สำนักพิมพ์หนังสือการ์ตูนในไทยกลับมาเฉิดฉายได้อีกครั้ง พร้อมๆ กับร้านหนังสือการ์ตูนที่เริ่มมีลูกค้าหน้าใหม่เข้ามาอุดหนุน ทำให้ Kinokuniya (คิโนะคูนิยะ) ร้านหนังสือสัญชาติญี่ปุ่นที่มีสาขาในไทย เปิดโซนการ์ตูนอย่างฉูดฉาดอลังการที่ชั้น 6 ห้างสรรพสินค้า CentralwOrld ไปเมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา ภายในร้านมีมังงะและอานิเมะลิขสิทธิ์แท้ให้คอการ์ตูนเลือกสรร โดยมีทั้งภาษาไทย อังกฤษ และญี่ปุ่น ยกตัวอย่างหนังสือยอดฮิต เช่น Spy x Family, Demon Slayer, Slam Dunk, Jujutsu Kaisen, Attack on Titan, Blue Period, Sailor Moon, One Piece, โคนัน ยอดนักสืบ, คอลเลกชันของ Junji Ito, ผลงานของ Ghibli Studio ไปจนถึงผลงานของ DC Comics และ Marvel […]
Tentree x National Geographic คอลเลกชันของ 2 แบรนด์เพื่อสิ่งแวดล้อม ที่ปลูกต้นไม้ 10 ต้น ทุกการขายเสื้อผ้า 1 ชิ้น
Tentree แบรนด์เสื้อผ้าที่มีจุดเด่นด้านความยั่งยืนด้วยการปลูกต้นไม้ 10 ต้น ทุกการขายเสื้อผ้า 1 ชิ้น ได้คอลแลบกับ National Geographic ออกคอลเลกชันเสื้อผ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมวางจำหน่ายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ลิมิเต็ดคอลเลกชันจากสองแบรนด์ที่ขึ้นชื่อด้านสิ่งแวดล้อม เป็นเสื้อผ้าแฟชั่นสไตล์สตรีทแวร์ทั้งเสื้อยืดพิมพ์ลายกราฟิก กางเกงขายาว เสื้อสเวตเตอร์และอีกมากมายกับลวดลายที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ เช่น ปลากะพงที่ว่ายน้ำในระบบนิเวศริมชายฝั่ง หรือกางเกงวอร์มขาสั้นลายต้นโกงกาง ซึ่งเสื้อผ้าทุกชิ้นผลิตขึ้นภายใต้สภาพการทำงานที่ปลอดภัยด้วยวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน การคอลแลบครั้งนี้เป็นหนึ่งในความมุ่งมั่นด้านสิ่งแวดล้อมของ Tentree ซึ่งนับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 2011 แบรนด์นี้ปลูกต้นไม้ไปแล้ว 70 ล้านต้นทั่วโลก และวางแผนที่จะปลูก 1,000 ล้านต้นภายในปี 2030 “Earth-First คือความมุ่งมั่นของเราในการให้ความสำคัญกับโลกและผู้คนมาก่อนเป็นอันดับแรก เราปลูกต้นไม้เพราะเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้น และเรากำลังค้นหาวิธีการใหม่ๆ ที่จะลดคาร์บอนฟุตพรินต์ให้น้อยที่สุดในการผลิตเสื้อผ้า และสร้างห่วงโซ่อุปทานแบบหมุนเวียนมากยิ่งขึ้น” Tentree กล่าวในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ ซึ่งหนึ่งในตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมของความพยายามก็คือเสื้อสเวตเตอร์ของ Tentree ใช้น้ำในกระบวนการผลิตน้อยกว่าเสื้อสเวตเตอร์ทั่วไปมากถึง 75 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น นอกจากเสื้อผ้าชุดใหม่ คอลเลกชันนี้ยังหมายถึงการช่วยปลูกต้นไม้ให้กับโลก และสนับสนุนการทำงานของ National Geographic ซึ่งนำเสนอความงดงามของธรรมชาติและเผยแพร่ความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการอนุรักษ์ สำหรับเรานี่เป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่ามากทีเดียว
‘Steinway Tower’ ตึกบางที่สุดในโลกเปิดให้เข้าอาศัย พร้อมวิวนิวยอร์ก 360 องศา
ลองจินตนาการว่าคุณอยู่บนตึกสูงเสียดฟ้า และมองไปด้านไหนก็จะเห็นวิวของกรุงนิวยอร์ก ทั้งตึกสูงข้างๆ กัน และสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองอย่าง Central Park แต่ถ้ามองจากภายนอกแล้ว ตึกที่คุณอยู่นี้จะเป็นเหมือนดินสอหรือไม้คนกาแฟ เพราะมีความกว้างที่บางเฉียบถ้าเทียบกับตึกทั่วไป นั่นคือกว้างไม่ถึง 20 เมตร เรากำลังพูดถึง ‘Steinway Tower’ ตึกระฟ้าในเมืองแมนแฮตตัน กรุงนิวยอร์ก หลังจากสร้างเสร็จในปี 2021 ตึก Steinway แห่งนี้ก็ถูกนับว่าเป็นตึกระฟ้าที่บางที่สุดในโลกทันที ด้วยความกว้าง 18 เมตร และความสูง 1,426 ฟุต (หรือ 434 เมตร ถ้านึกภาพไม่ออก ลองนึกภาพตึกมหานครในกรุงเทพฯ ที่สูง 314 เมตร) ตึกแห่งนี้ประกอบด้วยสองส่วนคือ บ้านในอดีตของครอบครัวนักสร้างเปียโนแบรนด์ชื่อดังอย่าง ‘Steinway’ และฮอลล์คอนเสิร์ตที่สร้างเสร็จในปี 1925 และส่วนที่ต่อเติมขึ้นมาและเพิ่งสร้างเสร็จเป็นโซนอะพาร์ตเมนต์หรูซึ่งมี 84 ชั้น และแบ่งเป็น 46 ห้อง ซึ่งเริ่มสร้างตั้งแต่ปี 2015 แต่ละชั้นจะมีเพียงอะพาร์ตเมนต์ห้องเดียวเท่านั้น และในแต่ละห้องนั้นจะมองเห็นวิวของเมืองนิวยอร์กได้รอบ 360 องศา เลยทีเดียว […]
แชร์เรื่องนมๆ ปลดปล่อยปัญหาบราบรา ในงาน Boobs On Vacation 14 – 20 เม.ย. 65 ลิโด้ คอนเน็คท์
หน้าร้อนแบบนี้ ปัญหาที่คนมีนมต้องเจอแน่ๆ คือความอับชื้นที่เกิดจากอากาศร้อนจนทำให้เหงื่อออกมากกว่าปกติ ขณะเดียวกันถ้าบราที่ใส่ยิ่งไม่รองรับสรีระหรือทำจากวัสดุที่สวมแล้วร้อน อึดอัด ก็ยิ่งทำให้ไม่สบายตัวเข้าไปอีก การโนบราหรือไม่ใส่บรา จึงกลายเป็นเทรนด์มาแรงของคนมีนมในยุคสมัยนี้ อีกทั้งยังมีการสนับสนุนให้โนบราในหมู่คนมีนมด้วยกัน เพื่อความสบายตัวอีกด้วย แต่ขณะเดียวกันก็ใช่ว่าทุกคนจะรู้สึกสบายใจกับการโนบราออกไปข้างนอก พวกสินค้าจำพวกบราที่ใส่แล้วเหมือนไม่ใส่จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ นอกจากสวมแล้วไม่อึดอัด สบายตัว ยังเป็นการปล่อยให้นมได้พักอีกด้วย แต่ใครที่ยังไม่แน่ใจกับวิธีการนี้ หรือกระทั่งอยากรู้เรื่อง ‘นม’ ของตัวเองให้มากขึ้น วันที่ 14 – 20 เมษายน 2565 เวลา 10.30 – 20.30 น. แบรนด์ชุดชั้นใน Jollynn (โจลีน) ได้จัดงานที่มีชื่อน่ารักๆ ว่า ‘Boobs On Vacation ให้นมได้พักผ่อน’ ในรูปแบบ Pop-up Experience ที่ลิโด้ คอนเน็คท์ ภายในงานได้มีการเปิดพื้นที่ให้เจ้าของนมทุกคนมาแลกเปลี่ยน และปลดปล่อยปัญหานมๆ ที่ทุกคนล้วนต้องพบเจอกันอย่างสนุกๆ ผ่านกิจกรรม ‘ทำไมนมต้องพักผ่อน’ กับการชวนมาแชร์ถึงปัญหาบรา บรา, กิจกรรมพื้นที่ปลด-ปล่อย กับการเป็นตัวเองอย่างเต็มที่กับตู้ถ่ายรูปสุดฮิต และกิจกรรมร่วมโหวตฟีเจอร์ของบราที่คุณมองหา เป็นต้น […]
Food Matter แพลตฟอร์มสั่งอาหารส่วนเกิน ที่ชวนคนลด Food Waste ด้วยการกิน
ในแต่ละวันมีอาหารที่ผลิตมาเกินความต้องการของผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก ถึงแม้ว่าแต่ละร้านจะคำนวณการผลิตให้พอดีต่อความต้องการของผู้บริโภคแล้ว แต่แทบทุกวัน และแทบทุกร้านจะต้องมี ‘อาหารส่วนเกิน หรือ Surplus Food’ ที่ไม่มีใครซื้อเกินมาเสมอ จนกลายเป็นอาหารเหลือทิ้งหรือเกิด Food Waste ขึ้นเสมอ เพื่อแก้ปัญหานี้ Food Matter แพลตฟอร์มสั่งอาหารที่ต้องการจะช่วยให้โลกมีขยะอาหารน้อยลง จากการลดปริมาณอาหารส่วนเกิน (Surplus Food) และช่วยให้คุณได้กินของอร่อยที่มีคุณภาพและราคาสบายกระเป๋า Food Matter เป็นธีสิสของ กรีน-เมธพร ทุกูลพาณิชย์ นักศึกษาปี 4 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาคออกแบบนิเทศศิลป์ (CommDe) ที่สนใจประเด็นเรื่องอาหารเหลือทิ้ง อยากหาวิธีช่วยลดขยะอาหาร เพราะเชื่อว่าอาหารดีๆ เหล่านี้ควรถูกกิน มากกว่าถูกทิ้งลงถังขยะ เนื่องจากเป็นธีสิส Food Matter จึงอยู่ในช่วงทดลองใช้ และเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 4 – 22 เมษายน 2565 นี้เท่านั้น และเปิดให้เราสั่งซื้อได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ในเวลา 18.00 – 19.00 น. เท่านั้น กรีนเล่าให้ฟังถึงการทำงานหลังบ้านของ […]