WHAT’S UP
ชาวลอนดอนใช้จักรยานเพิ่มขึ้น 50% ในสองปี จากการเพิ่มเส้นทางปั่นจักรยานใหม่ๆ ช่วยลดการใช้รถยนต์และมลพิษภายในเมือง
ลอนดอนเป็นเมืองใหญ่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน แถมยังเคยติดอันดับเมืองที่รถติดที่สุดในโลกเมื่อปี 2565 แต่ในปี 2567 ที่ผ่านมากลับมีสถิติใหม่ที่น่าสนใจ เพราะมีรายงานจาก City of London Corporation ว่า จากปี 2565 ถึง 2567 มีการใช้รถยนต์ในเมืองลอนดอนลดลง 5 เปอร์เซ็นต์ ส่วนตัวเลขการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานเพิ่มมากถึง 50 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว นับว่าเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นมากในระยะเวลาเพียง 2 ปีเท่านั้น หากเจาะไปในรายละเอียดจะพบว่า เดือนตุลาคม 2567 มีคนปั่นจักรยาน 139,000 คนต่อวันใน 30 สถานที่ เพิ่มขึ้นจาก 89,000 คนในปี 2565 และจำนวนคนขี่จักรยานคิดเป็น 56 เปอร์เซ็นต์ของการจราจรทั้งหมดในช่วงเวลาเร่งด่วนตอน 08.00 – 09.00 น. และ 18.00 – 19.00 น. ซึ่งจำนวนการปั่นจักรยานที่เพิ่มขึ้นนี้ยังส่งผลต่อคุณภาพอากาศที่ดีขึ้นด้วย เห็นได้จากปี 2562 ที่มีค่าไนโตรเจนไดออกไซด์มากถึง 15 พื้นที่ในลอนดอน […]
สวนสาธารณะบึงน้ำลาดพร้าว 71 พื้นที่ออกกำลังกาย พักใจให้เต็มอิ่ม ด้วยสวนลอยน้ำบนพื้นที่กว่า 21 ไร่
กำลังมองหาที่ออกกำลังกายใกล้บ้านกันอยู่หรือเปล่า วันนี้ Urban Creature อยากแนะนำ สวนสาธารณะบึงน้ำลาดพร้าว 71 ให้ชาวลาดพร้าวและละแวกใกล้เคียงได้สัมผัสพื้นที่สีเขียวดีๆ อีกหนึ่งแห่งของกรุงเทพฯ ที่นี่เป็นสวนลอยน้ำ แหล่งพักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกายขนาดใหญ่กว่า 21 ไร่ ใจกลางย่านลาดพร้าว มีทั้งสนามเด็กเล่น บึงขนาดใหญ่ พร้อมอาหารปลาขายเพียงขวดละ 10 บาท ให้มาให้อาหารปลากันได้ แถมยังมีลานหินนวดเท้า เรือนเพาะชำ สนามหญ้าเทียมลอยน้ำขนาดกว้าง ให้เด็กๆ มาวิ่งเล่นได้เต็มที่ พร้อมด้วยเครื่องออกกำลังกายหลากหลายแบบ และเส้นทางเดิน-วิ่ง ให้มาออกกำลังกายกันทั้งเช้าและเย็น สวนแห่งนี้เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00 – 21.00 น. จะขับรถยนต์มาก็ได้ มีที่จอดให้พร้อม หรือหากเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลงที่สถานีลาดพร้าว 71 ต่อมอเตอร์ไซค์เข้ามาอีกประมาณ 10 นาทีเท่านั้น (maps.app.goo.gl/7Yon6e6a9kuDcLeg9) Source :Greener Bangkok | tinyurl.com/2xwrc8vh
Simmons Hall ชวนไปส่องหอพักนักศึกษา MIT ที่ถูกโหวตให้เป็นตึกหน้าตาน่าเกลียดที่สุดในอเมริกา
เกิดอะไรขึ้น ทำไมตึกตึกหนึ่งถึงถูกโหวตให้เป็นตึกที่น่าเกลียดที่สุดในอเมริกาประจำปี 2025 ได้ Simmons Hall คือหอพักขนาด 10 ชั้น ของนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีแห่งแมสซาชูเซตส์ (MIT) ที่ออกแบบโดย ‘สตีเวน โฮลล์’ (Steven Holl) โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการก่อสร้างและปรับปรุงรูปโฉมของ MIT ด้วยการสร้างอาคาร สิ่งอำนวยความสะดวก และศูนย์วิจัยต่างๆ ภายในมหาวิทยาลัย ที่มาของการออกแบบอาคารคือ แนวคิด Modernism ที่ได้รับความนิยมในช่วงนั้น ทำให้ตึกมีรูปร่างแปลกตา มีรูพรุนคล้ายฟองน้ำทั่วทั้งอาคาร เพื่อให้แสงลอดผ่านช่องเปิดขนาดใหญ่หลายช่องเข้าไปภายใน อีกทั้งยังช่วยระบายและหมุนเวียนอากาศได้ดีขึ้น กล่าวคือ เมื่อมีแสงแดดส่องในฤดูหนาวจะทำให้ตัวอาคารอบอุ่น ในขณะที่โครงสร้างอาคารจะสร้างร่มเงาและถ่ายเทอากาศให้รู้สึกเย็นสบายในช่วงฤดูร้อน แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไป จากตึกที่ดูโดดเด่นจนหลายคนหยิบยกเป็นหนึ่งในหอพักที่สวยที่สุด ต่อมาในปี 2025 ก็กลับกลายเป็นผู้ชนะรางวัล International Aesthetic Atrocity Awards ที่คณะสถาปนิกและนักผังเมืองนานาชาติกลุ่ม Architectural Uprising ลงความเห็นว่าเป็นตึกที่น่าเกลียดที่สุดในอเมริกา สถาปนิกให้ความเห็นว่า เพราะ Simmons Hall เป็นตึกที่เต็มไปด้วยคุณลักษณะคลาสสิกของ Modernism ทำให้มีโครงสร้างที่ดูไม่สวยงาม และหน้าต่างที่วางอย่างไม่เป็นระเบียบ […]
GUMP’s Cross เจริญนคร สเปซใหม่เอาใจชาวธนบุเรียน ที่พาทุกคนข้ามมาเชื่อมต่อไลฟ์สไตล์กัน
หากใครได้แวะเวียนไปย่านเจริญนคร อาจจะเคยเห็นสเปซใหม่ของชาวธนบุเรียนอย่าง GUMP’s Cross เจริญนคร ตึกสีขาว ดีไซน์เก๋ที่เป็นคอมมูนิตี้สเปซในฝั่งธนฯ ที่ผ่านมาถ้าได้ยินชื่อ GUMP หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับพื้นที่สวยๆ ในย่านอารีย์ แต่ตอนนี้เขาขยับขยายข้ามฝั่งมายังธนบุรีเป็นที่เรียบร้อย ด้วยแนวคิด Crossing Lifestyle Space ที่ตั้งใจเป็น ‘พื้นที่กลาง’ ให้ทุกคนข้ามมาเชื่อมต่อกันได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิต ทำงาน เดินเล่น หรือปล่อยใจสบายๆ ในพื้นที่นี้อย่างไม่มีจุดหมายก็ได้เช่นกัน 👧 ไฮไลต์สำคัญของที่นี่คือ give.me.museums ในรูปแบบ Pop-up Installation ที่จะพาทุกคนเข้าไปอยู่ในโลกของ ‘น้องดื้อ’ ตัวละครภาพจำของแบรนด์ น่ารักจนอยากชวนมาถ่ายรูปเลยละ 🖼️ Canvas & Co. Pop-up Gallery นิทรรศการย่อมๆ จากศิลปินและนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ ทำให้พื้นที่ของชั้น 3 มีสีสันกว่าเดิม 🎨 Soft Corners นิทรรศการกลุ่มของ Timmylilly, Jayaway, Caracream และ Passaraphorn ที่บอกเล่าความรู้สึกละมุนละไม […]
‘Al-Mujadilah’ มัสยิดสำหรับผู้หญิงแห่งแรกในโลกที่โดฮา มาพร้อมสภาพแวดล้อมที่โอบรับผู้หญิงทุกคน
เนื่องจากศาสนสถานบางแห่งมีข้อจำกัดสำหรับผู้หญิง ส่งผลให้ผู้หญิงอาจไม่สามารถเข้าถึงแก่นของศาสนาและเกิดเป็นความเหลื่อมล้ำทางเพศได้ เพื่อเป็นการสร้างพื้นที่ทางศาสนาที่โอบรับผู้หญิง จึงเกิดเป็น ‘Al-Mujadilah’ มัสยิดสำหรับผู้หญิงแห่งแรกของโลก ตั้งอยู่ที่เมืองโดฮา ประเทศกาตาร์ Al-Mujadilah ได้รับการออกแบบโดย Diller Scofidio + Renfro (DS+R) ในพื้นที่กว่า 4,600 ตารางเมตร ให้ตอบโจทย์กับสิ่งที่ผู้หญิงมุสลิมต้องเจอ และความต้องการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเป็นผู้นำ การพูดในที่สาธารณะ และความเชื่อมโยงกับศาสนา เพราะมัสยิดนั้นไม่ใช่แค่ศาสนสถานที่เอาไว้ละหมาดเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ที่ใช้ในการพบปะ แลกเปลี่ยนบทสนทนา รวมถึงยังเป็นสถานศึกษาอีกด้วย จุดประสงค์ของมัสยิดแห่งนี้จึงตั้งใจที่จะสร้างเป็นชุมชนและพื้นที่ปลอดภัยให้ผู้หญิง ห้องละหมาดในมัสยิดแห่งนี้มีขนาดประมาณ 875 ตารางเมตร หันไปยังกรุงเมกกะ ซึ่งสามารถรองรับผู้สักการะได้มากถึง 750 คน เมื่อเข้าสู่ช่วงเดือนรอมฎอน ห้องนี้จะขยายไปสู่พื้นที่อเนกประสงค์ ช่วยเพิ่มความจุพื้นที่ให้มากขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นพื้นที่สำหรับผู้หญิง มัสยิดแห่งนี้จะไม่มีอิหม่าม (ผู้นำทางศาสนา) เพศชาย และผู้นำสวดก็จะเป็นผู้หญิงแทน นอกเหนือจากว่าจะมีโอกาสพิเศษที่ผู้ชายได้รับเชิญเข้ามาในพื้นที่ที่สงวนไว้สำหรับผู้หญิงเท่านั้น มากกว่าแค่เป็นพื้นที่ทางศาสนา Al-Mujadilah ยังเป็นศูนย์กลางที่ให้บริการสวน ห้องสมุด ศูนย์การเรียนรู้ และร้านกาแฟ เพื่อให้ผู้หญิงได้เข้ามาใช้งาน รวมไปถึงยังเป็นสถานที่สำหรับการเรียน การประชุม และอภิปรายอีกด้วย […]
ร่วมเป็นอีกเสียงช่วยเปลี่ยนเมืองกับ 13 เรื่องเบื้องต้นครอบคลุม ‘งาน เงิน คน’ ที่ กทม.ขอฟังเสียงคนกรุงผ่านร่าง พ.ร.บ.กรุงเทพฯ
รู้หรือไม่ว่า พ.ร.บ.กรุงเทพฯ ฉบับเดิมนั้นใช้มานานตั้งแต่ พ.ศ. 2528 หรือเป็นเวลากว่า 40 ปีแล้ว และเพื่อแก้ปัญหาให้ทันสมัย ตรงจุดมากขึ้น กทม.จึงเปิดให้ประชาชนร่วมแสดงความคิดเห็นเพื่อนำไปเป็นแนวทางแก้ไข พ.ร.บ.นี้ ซึ่งหลังเปิดให้แสดงความคิดเห็นได้เพียง 4 วัน ก็มีผู้เข้าร่วมกว่า 10,000 เสียงแล้ว เว็บไซต์ กทม. 2528 เป็นช่องทางแสดงความคิดเห็น และโหวตเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอจากปัญหา 13 เรื่องเบื้องต้น เพื่อนำไปเป็นแก้ไขร่างพระราชบัญญัติกรุงเทพฯ ฉบับใหม่ และนำเสนอต่อกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีเนื้อหาครอบคลุม 3 ประเด็นหลักอย่าง ‘งาน เงิน คน’ ประเด็นแรก งานหรืออำนาจหน้าที่ โดยเฉพาะเงื่อนไข ปัญหา หรืออุปสรรคในการดำเนินงานของหน่วยงานภายใต้พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 เป้าหมายที่จะดำเนินภารกิจภายใต้อำนาจหน้าที่ของหน่วยงานเพื่อพัฒนากรุงเทพมหานคร เงิน คือรายได้และงบประมาณ ส่วนคนหรือโครงสร้างการบริหารราชการ ทั้งหมดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเมือง นอกจากจะเป็นประชามติ รับฟังความคิดเห็นปัญหาเมืองๆ ของชาวกรุงเทพฯ แล้ว เว็บไซต์นี้ยังเป็นแหล่งรวบรวมปัญหาที่คนกรุงให้ความสำคัญ รวมถึงทำให้รู้ว่าเราไม่ใช่คนเดียวที่มองว่าประเด็นเหล่านี้เป็นปัญหา เพราะยังมีเพื่อนชาวเมืองอีกกว่า 9,000 คนที่เห็นว่าปัญหาทางเท้า […]
ชวนไปชมพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน พร้อมการแสดงศิลปวัฒนธรรมและหนังกลางแปลง กับงานเฉลิมฉลอง 243 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ 23 – 27 เม.ย. 68 ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
หากใครยังไม่เคยสัมผัสกับการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ครั้งนี้ถือเป็นฤกษ์งามยามดีที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร จะเปิดให้เข้าชมช่วงค่ำคืนกับกิจกรรม ‘Night at The Museum ยลพิพิธภัณฑ์ยามค่ำ’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงาน ‘ใต้ร่มพระบารมี 243 ปี กรุงรัตนโกสินทร์’ ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 – 27 เมษายน พ.ศ. 2568 นี้ ทุกคนเข้าชมพิพิธภัณฑ์ในส่วนของ Night at The Museum โดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ตั้งแต่เวลา 16.00 – 20.00 น. นอกจากนี้ ทางกรมศิลปากร โดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ยังจัดกิจกรรมนำชมในหัวข้อ ‘รัตน์ฯ แรกเริ่ม : ประวัติศาสตร์กรุงรัตนโกสินทร์’ ในวันที่ 23 – 27 เมษายน พ.ศ. 2568 และหัวข้อ ‘ชีวิต (แรก) กรุง : วิถีชีวิตคนต้นกรุงรัตนโกสินทร์’ ในวันที่ […]
คุณก็เป็นได้นะ ฮีโรน่ะ Bangkok Keepers เหล่าฮีโรพลังวิเศษ เล่าเรื่องเมืองหลวงที่ส่งต่อเรื่องราวและความสำคัญของคนทำงานขับเคลื่อนเมือง
“ถึงจะเป็นคนกรุงเทพฯ มาตั้งแต่เกิด แต่พอมาทำโปรเจกต์นี้ก็ได้รู้ว่าเราไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับกรุงเทพฯ เลย เพราะที่ผ่านมาเราไม่เคยตั้งใจดูเมืองของเรา” ‘ซัน-ชาคร ขจรไชยกูล’ เจ้าของ SUNTUDIO ผู้จบจากภาควิชาการออกแบบอุตสาหกรรม (Industrial Design) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ปัจจุบันทำงานเกี่ยวกับ Character Design วาดภาพประกอบและงานปั้นโมเดล เล่าถึงตนเองกับชีวิตในกรุงก่อนเริ่มต้นทำโปรเจกต์ Bangkok Keepers จุดเริ่มต้นของเหล่าฮีโร โปรเจกต์ Bangkok Keepers เริ่มต้นจากการเป็นธีสิสที่ซันมีความสนใจเรื่องเหล่าซูเปอร์ฮีโรมาตั้งแต่เด็กๆ ประจวบเหมาะกับช่วงนั้นเป็นเวลาที่ Marvel กำลังดังพอดี เขาจึงลองมาคิดว่าถ้าไทยมีฮีโรจะเป็นอะไรได้บ้าง ซึ่งตัวซันเองไม่ได้อยากตีความไปทางความเป็นไทยแบบดั้งเดิมเพราะมีคนทำกันเยอะแล้ว เลยอยากเล่นกับความเป็นไทยในรูปแบบอื่นๆ ที่ใกล้ตัวมากกว่าอย่างฮีโรกรุงเทพฯ หลังจากได้โจทย์ฮีโรกรุงเทพฯ ซันก็มาต่อยอดว่าสิ่งหรือบุคคลที่เหมาะกับการเป็นฮีโรของเมืองเราคือ พี่ๆ พนักงานทำความสะอาดของกรุงเทพฯ ทั้งพนักงานกวาดถนน พนักงานเก็บขยะ และพนักงานสูบสิ่งปฏิกูล เพราะเป็นกลุ่มอาชีพที่เหมือนดั่งฮีโรช่วยเหลือเมืองแต่กลับถูกมองข้ามอยู่บ่อยครั้ง สามฮีโรยอดนักดูแลเมือง ฮีโร 3 ตัวที่ซันอยากเล่าภายใต้โปรเจกต์นี้คือ Sweeprine ฮีโรสาวกวาดถนน ซึ่งเป็นฮีโรตัวแรกที่ออกแบบ เธอเป็นคนกวาดถนนที่โดนสารเคมีบางอย่างเข้าจนทำให้มีพลังวิเศษ สามารถสะสมความร้อนจากการทำงานกวาดถนนกลางแดดทั้งวันแล้วปล่อยกลับออกมาเป็นเปลวไฟได้ ตัวที่สองคือ The Plunger Man ฮีโรสูบส้วมรุ่นลุง […]
The Domcenter ส่วนต่อขยายจากอาสนวิหารใหม่เมืองลินซ์ ประตูเชื่อมคนรุ่นใหม่เข้าหาศาสนา
ด้วยกาลเวลาและการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปของผู้คน ทำให้ศาสนาถูกลดบทบาทลง ปัจจุบันเราจึงเห็นหลายศาสนสถานที่พยายามปรับตัวเข้ากับโลกใบใหม่ที่ทันสมัยขึ้น เพื่อดึงดูดและเชื่อมโยงคนให้กลับมาใกล้ชิดศาสนามากขึ้น หนึ่งในนั้นคือ ‘อาสนวิหารใหม่เมืองลินซ์’ หรือ ‘New Cathedral, Linz’ สถาปัตยกรรมนีโอกอทิก หนึ่งในอาสนวิหารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรีย ถึงแม้สังฆมณฑลได้เฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีไปเมื่อปี 2024 ที่ผ่านมา แต่ชุมชนคาทอลิกยังต้องเผชิญกับความท้าทายจากการที่จำนวนสมาชิกลดลงเรื่อยๆ มาโดยตลอด ความโชคดีของอาสนวิหารใหม่เมืองลินซ์คือ การมีอัครสังฆมณฑลแห่งลินซ์ที่เปิดกว้างและยอมรับการเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิด ‘The Domcenter’ ขึ้นบริเวณฝั่งตะวันออกของตัววิหาร เพื่อทำหน้าที่เป็นร้านกาแฟและร้านหนังสือที่ทันสมัยและอบอุ่น เชิญชวนให้คนเข้ามาใช้บริการ การออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากหลังคาเต็นท์เบาแบบดั้งเดิมและแผงขายของในตลาดเก่าแก่ที่คล้ายกับโครงสร้างหลังคาโค้งแบบกลับด้าน อีกทั้งยังใช้โครงสร้างคอนกรีตที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดอายุการใช้งาน และถึงแม้จะพูดกันว่า The Domcenter คือส่วนต่อขยายจากตัววิหาร แต่ในความเป็นจริง ด้วยเหตุผลด้านการอนุรักษ์มรดก อาคารส่วนต่อขยายนี้ไม่เชื่อมต่อกับตัววิหารโดยตรง แต่มีเสาค้ำยันเดี่ยวและยื่นออกไปทางด้านหน้าโดยไม่สัมผัสกับเสาค้ำยันเดิม ปัจจุบันนอกจาก The Domcenter จะเป็นร้านกาแฟและร้านหนังสือแล้ว ที่นี่ยังทำหน้าที่เป็นสถานที่พบปะสำหรับกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริสตจักรและงานฆราวาส รวมไปถึงให้บริการเก็บของ ห้องน้ำ และล็อกเกอร์อีกด้วย Source : Peterhaimerl | peterhaimerl.com/projects/1-1-domcenter-linz
Sigmund Fraud’s Fake Bookshop นิทรรศการร้านหนังสือปลอม (?) เสียดสีโลกทุนนิยม ในบ้านเก่าที่เคยเป็นร้านขายน้ำตาลปี๊บ ย่านท่าเตียน
ตอนที่เห็นโปสเตอร์งานนี้ครั้งแรก เรายังไม่ค่อยแน่ใจว่าคืออะไร จะเป็นนิทรรศการศิลปะ? หรือร้านหนังสือจริงๆ? แต่ชื่อก็บอกอยู่นี่นาว่า เป็นร้านหนังสือปลอม ไม่ปล่อยให้สงสัยนาน เราเลือกใช้วันสุดท้ายของวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์เดินทางไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเองที่สเปซจัดงานแถวท่าเตียน ก่อนจะพบว่างานนี้คือนิทรรศการของ Sigmund Fraud ศิลปินที่ทวิสต์ชื่อล้อเลียนกับ ซิกมุนด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud) นักจิตวิทยาชื่อดังที่หลายๆ คนรู้จักเขาจากศาสตร์จิตวิเคราะห์ แม้จะใช้ชื่อคล้ายกัน แต่ Sigmund Fraud คนนี้เป็นนักจิตวิทยากำมะลอ ที่จะขอบำบัดตัวเองและสังคมแบบปั่นๆ ชวนหัว แต่ในขณะเดียวกันก็มีความตลกร้าย ขำขื่นจนต้องหัวเราะหึๆ กับการเปิดร้านหนังสือปลอมๆ ที่ขายหนังสือปลอมๆ กว่าร้อยเล่ม เพื่อบอกเล่าความแซดและโหดร้ายของโลกทุนนิยม ที่ทำให้ใจเราป่วยไข้ไปกับการแข่งขันในสังคมที่จะต้องโปรดักทีฟ ทำงานที่สองที่สาม มีเงินเก็บหลายล้าน ไปจนถึงการไม่ปล่อยให้เวลาสูญเปล่า เวลาว่างก็ต้องห้ามว่าง ในบรรดาหนังสือปลอม มีหลายเล่มที่แปลงมาจากหนังสือที่มีอยู่จริง แต่พอเป็นคอลเลกชันของตาซิกมุนด์ตัวปลอมก็กลายเป็นหนังสือขายดีเวอร์ชันจ๋อยๆ ชีวิตบัดซบไปเสียอย่างนั้น ส่วนใครที่ไม่รู้ว่าจะอ่านเล่มไหนก่อนดี ภายในงานก็มีควิซสั้นๆ ให้ทำเพื่อแนะนำหนังสือที่เหมาะกับเราด้วย (เราได้เล่ม How to not become an adult you hated โดย Greta Thunbear) […]
Unexpected Growth โปรเจกต์งานศิลปะ ซีน และกระดาษจากวัชพืชในเมือง จากการเดินสำรวจพื้นที่และเก็บข้อมูล
ปกติแล้วหอศิลปกรุงเทพฯ จะจัดนิทรรศการ โครงการบ่มเพาะและสร้างเครือข่ายศิลปินรุ่นใหม่ (Early Years Project : EYP) เป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้มาในแนวคิด ‘Be Your Own Island-ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน’ หลังจากที่ไปเดินดูมา งานที่จัดแสดงล้วนมีคอนเซปต์ที่สะท้อนสังคม และนำเสนอผลงานได้สวยงาม ตั้งแต่ประเด็นสิ่งแวดล้อม เพศ ข่าวสารข้อมูล ไปจนถึงเรื่องปมวัยเด็ก แต่หนึ่งงานที่เราในฐานะคนทำงานเมืองสะดุดตาสุดๆ คือ โปรเจกต์ Unexpected Growth ของ ‘อภิสรา ห่อไพศาล’ ตั้งแต่โครงสร้างอิฐที่เรียงราย ดูเป็นสิ่งที่ถ้าเดินลัดเลาะตามตรอกซอกซอยของเมืองจะพบเห็นได้เป็นปกติ ก่อนจะสังเกตเห็นต้นหญ้าเล็กๆ แซมอยู่ และถ้าไปสังเกตแผ่นที่มีลวดลายคล้ายเชื้อราแบคทีเรียใกล้ๆ จะพบว่า จริงๆ แล้วมันคือใบหรือชิ้นส่วนของวัชพืช และได้รู้ในเวลาต่อมาว่าแผ่นๆ ที่เห็นคือกระดาษที่ทำจากวัชพืชในเมืองที่ศิลปินเก็บมาทดลองทำกระดาษกับผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตกระดาษ มากไปกว่านั้น ตรงแท่นอิฐที่ก่อตัวสูงยังมีซีนหรือหนังสือทำมือของศิลปินแนบอยู่ พอหยิบมาเปิดอ่านเนื้อหาข้างในก็จะเห็นการนำเสนอภาพในขั้นตอนระหว่างทำงานโปรเจกต์นี้ รวมไปถึงการจัดเรียงข้อมูลเพื่อนำเสนอกระบวนการเก็บรวบรวมแพตเทิร์นของวัชพืชที่ขึ้นในเมือง และสังเคราะห์ข้อมูลออกมาเป็นอินโฟกราฟิก อ่านเข้าใจง่าย “โปรเจกต์นี้เริ่มต้นจากความพยายามทำความเข้าใจและตั้งคำถามถึงความเชื่อมโยงระหว่างสิ่งรอบตัวกับความรู้สึกภายในที่ต้องการหลีกหนีหรือก้าวผ่านสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ทำให้เธอเริ่มต้นสำรวจเมืองที่อาศัยอยู่ เป็นเมืองที่ให้ความรู้สึกแห้งแล้งและแข็งกระด้าง “ระหว่างการสำรวจ ศิลปินได้พบเจอมุมมองของนักสิ่งแวดล้อมที่มีต่อเมือง ทำให้มองเห็นสิ่งที่ไม่เคยมองเห็นมาก่อน เช่น พืชขนาดเล็กจนแทบมองไม่เห็นอย่างลิเวอร์เวิร์ต เสียงของสัตว์หลากชนิดที่สามารถจำแนกเสียงได้ไม่ซ้ำเมื่อยืนฟังใต้ร่มไม้ใหญ่ ความสัมพันธ์ของต้นแม่และต้นลูกที่กระจายพันธุ์ใกล้ๆ […]
‘Qanarn’ แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ไทยน้องใหม่ที่หยิบเอาเรขาคณิตแบบไทยมาใช้สร้างความยูนีก
การจะมองหาเฟอร์นิเจอร์สักชิ้นสำหรับใช้งานในบ้าน นอกจากดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์แล้ว ก็คงเป็นคอนเซปต์แบรนด์ที่ดึงดูดความสนใจให้เราอยากทำความรู้จัก หนึ่งในนั้นคือ ‘Qanarn’ (ขนาน) แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ไทยที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2567 เฟอร์นิเจอร์ที่เกิดจากการบรรจบกันของเส้นขนาน แบรนด์ Qanarn เกิดขึ้นจากสองพาร์ตเนอร์ ‘ขนุน-ตรัยวิศว์ พงษ์บูรณกิจ’ และ ‘กานต์-กานต์ เทพสถิตย์’ ที่เคยทำงานออกแบบภายใน และคลุกคลีกับงานตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ จนเกิดความสนใจในงานออกแบบ แล้วลงมือเรียนรู้ลองผิดลองถูกปลุกปั้นแบรนด์ Qanarn ขึ้นมา ชื่อ Qanarn นั้นมาจากการตีความระหว่างนักออกแบบทั้งสองคนที่เป็นเหมือนเส้นขนานที่ไม่อาจบรรจบกันเนื่องจากความคิดเห็นที่อาจแตกต่างกัน แต่สุดท้ายแล้วทั้งคู่จะมุ่งหน้าไปยังทิศทางเดียวกันเพื่อให้ผลงานออกมาสมบูรณ์แบบ มากไปกว่านั้น ชื่อแบรนด์ยังครอบคลุมไปถึงผลงานสินค้าที่ผสมผสานกันระหว่างความเป็นไทยและความร่วมสมัยที่เป็นเหมือนเส้นขนานระหว่างกันอีกด้วย ตีความความเป็นไทย และนำมาผสมผสานกับรูปทรงสากล ตรัยวิศว์บอกกับเราว่า โจทย์ในการออกแบบแบรนด์นี้คือ การทำเก้าอี้ของไทยให้มีความไอคอนิก เรียบง่าย ชัดเจน ไม่ซับซ้อนเกินไป ทำให้นึกไปถึงรูปทรงเรขาคณิตหรือรูปทรงที่มีความเป็นสากล คนเห็นแล้วเข้าใจ และใช้งานได้ง่าย ท้ายที่สุดก็ออกมาเป็นเก้าอี้ที่นำลักษณะของหมอนขิด หรือที่รู้จักกันในชื่อของหมอนสามเหลี่ยม มาออกแบบเฟอร์นิเจอร์คอลเลกชันชื่อ Qidi Outdoor ส่วนเหตุผลการนำวัฒนธรรมไทยที่เราคุ้นชินมาใส่ในตัวงานนั้น เขาอธิบายว่า หลายแบรนด์ก็มีการนำวัฒนธรรมไทยมาตีความเป็นงานออกแบบต่างๆ แต่ส่วนใหญ่จะออกมาในรูปแบบของงานหัตถกรรมหน่อย เป็นหวาย เป็นจักสานที่มีความคราฟต์สูง แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในความชื่นชอบ และออกจะห่างไกลจากตัวของผู้ก่อตั้งแบรนด์ทั้งคู่ พวกเขามองหาสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวมากกว่า และเห็นว่าวัฒนธรรมไทยมีสิ่งของที่เป็นรูปทรงเรขาคณิตอยู่มาก […]