Behind The Smile ศิลปินจากหาดทรายรี จ.ชุมพร - Urban Creature

สวัสดีมิตรรักแฟนเพลงทุกท่าน กลับมาอีกครั้งกับคอลัมน์แกะเพลง วันนี้เป็นคิวของศิลปินจากหาดทรายรี จังหวัดชุมพร หากเอ่ยชื่อออกไปหลายคนคงคุ้นหูในบทเพลงของเขา และมีอีกมากที่อาจยังไม่เคยได้ยินได้ฟัง ก่อนจะเอ่ยนาม เราขอหมุนเวลาย้อนไปเล่าเรื่องของเขาให้ฟังสักนิดพอให้ได้ทำความรู้จักกันสักหน่อย

ตั้งแต่ช่วงประถมฯ จุดเริ่มต้นเส้นทางดนตรีของเขามาจากพี่ชายสองคน คนหนึ่งเป็นแนวเพื่อชีวิต ส่วนอีกคนเป็นสายเฮฟวี น้องคนสุดท้องอย่างเขาจึงมีกีตาร์เป็นเครื่องดนตรีชิ้นแรกที่ได้ลองหัดและมีบทเพลงมากมายที่หลั่งไหลเข้ามาให้ได้ฟัง

ต่อมาอาจารย์ที่สอนอยู่โรงเรียนแถวบ้านได้มองเห็นแววดนตรีของเขา จึงเปิดประตูสู่เส้นทางดนตรีให้ชายหนุ่ม หาเพลงแปลกใหม่ให้ฟัง พาไปดูเวทีประกวด แลกเปลี่ยนวิถีชีวิตศิลปิน และชวนไปเรียนต่อในระดับมัธยมฯ ทำให้เขาได้กลายเป็นนักดนตรีประจำวงดุริยางค์และวงสตริงของโรงเรียนในตำแหน่ง ‘มือกลอง’

“บ้านอยู่หัวกรู๊ดด ชอบฟังยูสสเอฟเอ็ม ชอบฟังดีเจจุ๊บบแจง เก้าสิบสองจู๊ดดเจ็ดห้า ที่ยูสสเอฟเอ็ม” สิ้นสุดช่วงวัยเรียน ดนตรีทำให้เขาได้ทำสิ่งที่ชอบ ได้รับรางวัล และยังทำให้ได้งานที่คลื่นวิทยุแห่งหนึ่งในตัวเมืองหัวหิน ซึ่งจิงเกิลคือหนึ่งในผลงานที่ทำให้รายการวิทยุ ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการแต่งเพลงของเขา

เพลงเด็กหญิงดอกไม้ เพลงมาลัยพวงสุดท้าย Behind The Smile ศิลปินจากหาดทรายรี จังหวัดชุมพร

เขาทำงานที่คลื่นวิทยุเป็นเวลา 10 ปี บางครั้งที่ดีเจไม่ว่างก็ต้องรับหน้าที่แทน ทำให้มีโอกาสสัมภาษณ์ศิลปินชื่อดังในยุคนั้น เขาเริ่มได้ยินเสียงตัวเองมากขึ้น ได้ใช้ไมค์ ได้ทำสปอตโฆษณา คุ้นเคยกับการอ่านข้อมูลหลายๆ หน้าและย่อความให้เหลือเป็นสคริปต์พูด 30 วินาที ฯลฯ

ในเวลาเดียวกันนั้นเขาเริ่มเล่นดนตรีกลางคืน จากมือกลองวงโรงเรียนก้าวไปเล่นดนตรีหลายแนวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพลงร็อก เร็กเก้ สการ์ โซล ฟังกี้ แจ๊ส ฯลฯ และการเดินทางของเวลาก็นำพามาให้พบกับเหล่ามิตรสหายนักเรียนดนตรีจากกรุงเทพฯ ที่ย้ายมาใช้ชีวิตในเมืองหัวหิน

การได้แลกเปลี่ยนบทสนทนากันกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เขาอยากมีผลงานเพลงของตัวเอง ชายหนุ่มเริ่มเขียนเพลงและเป็นมือกลองในวงดนตรีที่ร่วมกันสร้างกับพี่ที่รู้จัก ทว่าความไม่สม่ำเสมอก็ทำให้วงหยุดพักไป เขาเริ่มแต่งเพลงมากขึ้นและส่งต่อให้คนอื่นร้อง แต่ผลลัพธ์ที่ไม่ตรงกับอารมณ์ที่ต้องการ เพื่อนๆ จึงยุให้เขาร้องเองเสียเลย

จากวันนั้นเป็นต้นมา นักดนตรีผู้เริ่มต้นด้วยการเป็นมือกลองมาตลอดและไม่คิดว่าตัวเองจะร้องเพลงได้ กลับพบกับเสียงของตัวเอง ตามด้วยการมาถึงของ ‘เด็กหญิงดอกไม้’ และตัวตนใหม่ของเขาในนาม ‘Behind The Smile’

“เรารู้สึกว่า เบื้องหลังรอยยิ้มให้ความรู้สึกน่าฉงน อาจเป็นความรื่นรมย์หรือการปกปิดอะไรบางอย่าง มันเป็นอะไรก็ได้ รอยยิ้มมีหลายความหมาย น่าค้นหา ยิ้มด้วยความสดใสหรือร้องไห้อยู่ รอยยิ้มมันเป็นอีกความหมายหนึ่ง”

เราขอพาทุกคนเดินทางไปพบกับ ‘ตูน-นราธิป ชูบ่อฝ้าย’ ในนามศิลปิน ‘Behind The Smile’ นักเดินทาง นักดนตรี นักแต่งเพลงผู้สร้างท่วงทำนองอันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น มีคำร้องที่แปลกหู และวิธีการเล่าเรื่องที่ช่างคิด ชวนให้ติดตาม

บทเพลงของบีฮายเดอะสไมล์ สะท้อนแง่มุมการเติบโตและความเป็นอยู่ของวิถีชีวิตทั้งเมืองและชนบท ทั้งยังหยิบเอาเรื่องความรักกับความงดงามของผู้คน ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม มาบอกเล่าได้อย่างจับใจ 

ถ้าพร้อมแล้ว เปิดเพลงทั้งสองเกือบสามอัลบั้มของเขา เพื่อสำรวจวิธีคิด แรงบันดาลใจ และวิถีทางของ Behind The Smile ให้มากขึ้น ผ่านบทสนทนาในโค้งสุดท้ายของฤดูฝนนี้กัน

เพลงเด็กหญิงดอกไม้ เพลงมาลัยพวงสุดท้าย Behind The Smile ศิลปินจากหาดทรายรี จังหวัดชุมพร

เพลงเด็กหญิงดอกไม้เกิดขึ้นมาได้ยังไง

เกิดขึ้นตอนช่วงอายุ 28 ปี กำลังตั้งคำถามกับตัวเอง เป็นช่วงที่กำลังคิดถึงชีวิต เวลาแต่งเพลงจะฮัมเมโลดี้เป็นภาษาแปลกๆ ฮัมไปเล่นไป จนมีคำออกมาเป็น มะลิลา มะลิซ้อน…และตรงนั้นก็เป็นตัวตั้งต้นของเนื้อเพลงที่เหลือ ใช้เวลาราวสองวันก็จบเพลง

“ยามเธอเล่นดอกไม้ริมทาง ยามที่เธอกรีดกรายอยู่ในลำธาร ยามที่เธอสร้างบ้านด้วยฟาง ยามเธอหยิบก้อนหินไล่เรียงเป็นทาง
แล้วเธอแว่วยินเสียงคุณยาย พร้อมทั้งกลิ่นอาหารล่องมาบางๆ สิ่งที่ผ่านมาแล้วเนิ่นนาน เธอคะนึงแล้วซึ้งทรงจำจางๆ นึกขึ้นแล้วกลับอ่อนไหว กับเวลาที่ผลัดใบ
มะลิลามะลิซ้อน ก่อนดอกมะลิบาน สนุกสนานรื่นเริงบันเทิงใจ แล้วก็รีรีข้าวสาร อยากเก็บเอาไว้นานๆ สนุกสนานรื่นเริงบันเทิงใจ…”

ยุคนั้นเป็นยุคที่เพลงโฟล์กเริ่มกระแสดี มีวงอย่าง จีน มหาสมุทร, Selina and Sirinya, Into The Air และเป็นยุคที่ค่าย SO::ON DRY FLOWER กำลังได้รับความสนใจ เพลง ‘เด็กหญิงดอกไม้’ ก็มาพอดีกับเพลงโฟล์ก และเราตั้งใจทำเป็นอะคูสติกให้กลืนกับเพลงของวงเหล่านั้นที่ตัวเองชื่นชอบ

อีกเหตุผลที่เลือกทำอะคูสติกเพราะเบื่อกลอง เบื่อความอึกทึกครึกโครม คิดว่าจะทำอัลบั้มแบบไม่มีกลอง มีแค่กีตาร์โปร่งอย่างเดียว ซึ่งก็เป็นการกลับมาเล่นกีตาร์อีกครั้งหลังจากที่ได้เล่นช่วง ป.5 มันเลยได้คอร์ดแบบ…(เล่นอินโทรเพลงเด็กหญิงดอกไม้) ใช้แค่สองนิ้วจับ เพราะจับคอร์ดทาบไม่ค่อยเก่ง ทุกวันนี้ยังจับไม่คล่องเลย แต่ถ้าสังเกตที่มือขวา เราจะได้สกิลจากการเป็นมือกลองมา นั่นคือการเคาะ

และเด็กหญิงดอกไม้เองก็เป็นอีกแรงบันดาลใจหนึ่งที่ทำให้อยากแต่งเพลง มีตัวตนขึ้นมา เพราะเป็นคนไม่ค่อยชอบอยู่ในแสงไฟ แต่ตอนนั้นเลิกกับแฟนที่คบกันมานาน เป็นการอกหักครั้งแรก ซึ่งก่อนหน้านี้มีแต่ไปหักอกเขา พออกหักเองมันเหมือนมีพลังบางอย่าง

เป็นพลังแบบไหน

ก่อนยังไม่อกหักชอบฟังเพลงของค่าย Bakery Music เป็นคนโลกสวย โลกมีแต่ความสุข ไม่มีเรื่องดาร์กเลยในชีวิต พอเริ่มมีความหม่น ผ่านความเจ็บช้ำมาก็อยากมีตัวตน อยากมีอะไรสักอย่างเพื่อช่วยบำบัดตัวเอง เริ่มออกกำลังกาย อ่านหนังสือมากขึ้น เราเป็นแฟนคลับ ‘เสกสรรค์ ประเสริฐกุล’ อ่านเรื่องสั้นต่างๆ ได้เจอคำเยอะขึ้น เจอวิธีการเล่าเรื่อง คิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้เกิดเพลงขึ้นมา

พอทำเพลงเด็กหญิงดอกไม้จบก็ทำเพลงอื่นไปเรื่อยๆ ตอนนั้นแต่งเพลงอะไรได้เก็บมารวมกันหมดเลย เหมือนเป็นการปลดปล่อยเรื่องที่คิดอยู่

ในความคิดเหล่านั้นมีเรื่องแบบไหนบ้าง

ส่วนใหญ่มาจากการอ่านหนังสือหรือเป็นเรื่องที่หมกมุ่นอยู่ในความคิด มีเรื่องที่คาใจบางอย่างกับสังคม เพราะเป็นคนไม่ค่อยพูดหรือบ่น มันก็เลยวนเวียนอยู่ในหัว แต่พอมีเมโลดี้ขึ้นมา เราถือว่าเป็นโอกาสที่ได้เอาเรื่องที่วนอยู่มาใส่ในเมโลดี้เพื่อสื่อสารอะไรออกไปบ้าง โดยใช้เทคนิคจากที่เคยทำงานวิทยุ คือคิดเมโลดี้ก่อนแล้วเอาคำในหัวปะติดปะต่อให้เป็นประโยคและเกิดเรื่องราวใหม่ขึ้นมา

เพลงเด็กหญิงดอกไม้ เพลงมาลัยพวงสุดท้าย Behind The Smile ศิลปินจากหาดทรายรี จังหวัดชุมพร

อัลบั้มแรกชื่อ ‘Ma Hope O Ka Smile’ มีความหมายว่าอะไร

ชื่อของอัลบั้มแรกเป็นภาษาอะไรไม่รู้ เราเสิร์ชกูเกิลและขึ้นมาเป็นภาษาต่างประเทศ เราลองใส่คำว่าบีฮายเดอะสไมล์เข้าไป กูเกิลทรานสเลตคงเปลี่ยนประเทศให้ พอเห็นว่าตรงกับความรู้สึกก็เอาชื่อนี้เลย

อัลบั้มแรกเกิดในปี 2017 มี 7 เพลง เด็กหญิงดอกไม้เป็นเพลงแรกของอัลบั้ม ส่วนเพลงที่สองของอัลบั้มชื่อ ‘สี่พันห้าร้อย’ เป็นเพลงที่แต่งเร็ว เพลงนี้เป็นความประทับใจในราคา 4,500 บาท เนื้อหาของเพลงมาพร้อมเมโลดี้

“สิ่งนั้นยังคงหอมรัญจวน ข้างในความรู้สึกที่มันยังซ่อนอยู่ ผ่านเวลา หลากหลายความคิดใคร่ครวญ วันที่ได้สัมผัส ยามที่ฉันได้กลิ่นกระดังงา
When you calling in love I’m ready for you. ไม่น่าจากไปเลยนะ อยู่กับฉันได้ไหม…”

เพลง ‘เกินไพร’

ช่วงนั้นมีคนทำ Vlog ท่องเที่ยวกันเยอะ หลายคนบอกว่าการท่องเที่ยวช่วยบำบัดคนอกหักได้ ช่วงแต่งเพลงนี้เป็นช่วงที่คำว่าฮิปสเตอร์กำลังได้รับความนิยม เพลงเกินไพรเป็นเหมือนขบถ เพราะรู้สึกว่าการท่องเที่ยวและการเดินทางไม่ได้ช่วยอะไรหรอก มันอยู่ที่ใจต่างหาก

ไม่มีจริงเป็นจริงหรอกความวุ่นวาย ทุกสิ่งมันอยู่ลึกๆ ลงไปข้างในจิตใจ หากคุณกระวนกระวาย ก็คงไม่มีแหล่งน้ำใดๆ ให้คุณได้กลืนลงไปบรรเทาความทุกข์ระทม หากใจคุณมันยังขมเกินไพร กระทบกับเสียงปลอบโยนที่ฟังแล้วไม่เข้าใจ ก็คงไม่มีความหมายใดๆ…

เพลง ‘หมีผู้น่าสงสาร’

นั่งดูทีวี มีข่าวเกี่ยวกับคนไปบุกรุกพื้นที่ป่าและเผชิญหน้ากับหมี คนก็ยิงหมีทิ้งเพื่อป้องกันตัวเอง แต่จริงๆ แล้วพื้นที่แห่งนั้นมันเป็นบ้านของหมี เป็นการเล่าเรื่องให้เห็นความผิดที่ผิดทางของโลกใบนี้ เราสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว เพราะหนังสือที่อ่านพูดเรื่องพวกนี้ คนที่เป็นฮิปสเตอร์ก็พูดเรื่องโลกร้อน

“หมี หมีในป่า หนีไปเสียเถิด เพราะว่ามนุษย์แสนประเสริฐเข้ามา…”

เพลง ‘ฉำฉา’

เพลงนี้พูดถึงแฟนเก่า เป็นการบอกว่าพอเวลาผ่านไปแล้วการเลิกกันก็ดีเหมือนกัน ต่างคนต่างเติบโต รู้สึกดีใจที่ได้คบกับเขา แต่การเลิกกันมันสวยงาม เหมือนต้นไม้ที่ถูกตัดและแตกออกเป็นสองกิ่ง แต่ใช้คำว่าฉำฉาเพราะคุ้นเคยกับคำนี้และทุกคนน่าจะเคยเห็นต้นจามจุรี

“หากว่าหนทางที่เธอเลือกเดิน สุขสมยิ่งกว่าสิ่งใด แค่อยากให้เธอนั้นสบายอุ่นใจ และฉันขอเป็นผู้ชม สิ่งที่เธอคว้ามาแล้วมันจะดีเสียกว่า เหตุนั้นฉันคงไม่ตรม เพราะในสุดท้าย ไม่เสียดายที่ครั้งหนึ่งเคยชื่นชม…”

เพลง ‘ฟรีดาวน์’

เห็นคำนี้อยู่ที่ร้านมอเตอร์ไซค์ รู้สึกว่ามันเป็นค่านิยมของยุคนี้ คือการที่เราเอามาใช้ก่อนแล้วค่อยผ่อนจ่ายทีหลัง แต่เพลงนี้เล่าเกี่ยวกับการทิ้งลูกทิ้งเด็กๆ เอาไว้ที่ต่างจังหวัด และตัวเองก็มาทำงานในกรุงเทพฯ ซึ่งมันคือฟรีดาวน์อย่างหนึ่ง 

“หนูรอคอย คอยหวังให้เขากลับมา หยอกล้อถ้อยคำวาจา ภาษาของความรู้สึก ที่จะช่วยชุบวิญญาณอับเฉาให้กร้าวคำราม ด้วยรู้สึกถูกต้องการ ด้วยรักไม่ใช่เงินทองจองผ่อน…”

เพลง ‘ไม่อยาก’

เป็นอารมณ์ที่ไม่อยากได้อะไรแล้ว แต่ตอนนี้ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นแล้ว

“เติบโตเพื่อพบความสวยงาม เบ่งบาน ร่วงโรยและพลิ้วบาง หลับตากลับพบว่าสวยกว่า ไม่เหลือในสิ่งใดที่อยาก…”

เพลงเด็กหญิงดอกไม้ เพลงมาลัยพวงสุดท้าย Behind The Smile ศิลปินจากหาดทรายรี จังหวัดชุมพร

จากอัลบั้มแรก Behind The Smile มอบอะไรให้คุณบ้าง

ก่อนหน้านั้นมีตัวตนเป็นมือกลอง เป็นชีวิตแห่งการซัพพอร์ต ต้องดูว่าขาดเหลืออะไรแล้วเราจะช่วยอะไรได้บ้าง พอได้ทำ Behind The Smile เพลงที่พูดมาทั้งหมดได้กลายเป็นตัวตนใหม่เลย

อีกอย่างรู้สึกว่าอัลบั้มแรกเป็นการทำเท่าที่ทำได้ ได้รู้เรื่องการร้องเพลงที่ชัดเจนขึ้น เพราะไม่เคยรู้ว่าตัวเองจะร้องเพลงได้และมีคนอื่นชอบ ได้รู้เรื่องของภาษาที่ตัวเองใช้ เพราะมีคนชมว่าดี และเรื่องของการเล่าเรื่องที่ไม่ค่อยชัดเจนแต่ได้อารมณ์ หลักๆ ก็เป็นฟีดแบ็กที่ทำให้เดินต่อ เราไม่รู้ว่าเพลงของเราเป็นยังไง แค่รู้สึกว่ามันเพราะ แต่ไม่ได้มองมุมอื่น พอฟังคอมเมนต์ก็รู้ว่าเรามีสิ่งพวกนี้

ช่วงอัลบั้มแรกเป็นช่วงฮีลลิ่งตัวเอง ได้เพลง ได้มีแฟนอีกครั้ง และพอมาถึงช่วงที่ทำอัลบั้มสองก็กำลังจะเลิกกับแฟน เพลงมันชอบมาเวลาแบบนี้ (หัวเราะ) ก็อยู่คนเดียวเยอะ อยู่กับความคิด อยู่กับการบำบัด อ่านหนังสือ หาแรงบันดาลใจอีก

แล้วเพลงในอัลบั้มที่สองต่างจากอัลบั้มแรกยังไง

อัลบั้มที่สองชื่อ ‘On The Other Hand’ (2019) เราแต่งเพลง ‘แด่เธอ’ ใช้เวลาสองวัน เมโลดี้มาพร้อมเนื้อร้อง มันคือการพ่นออกมาจากความดาร์กในใจ

“เก็บความเจ็บช้ำที่ซ่อนอยู่ ฉันคงจะไม่เปิดดูตามเรี่ยรายทาง ฉันคงไม่เปิดดู ไม่เปิดดูก่อนเวลา ไม่แอบมอง…”

เพลงที่สองชื่อ ‘Neon’ ได้เมโลดี้ก่อน ตอนนั้นชอบฟังเพลงญี่ปุ่นและค่อยๆ ใส่เนื้อเข้าไป บวกกับดูสารคดี ‘ไขเหตุปมแห่งความมืด’ ที่พูดถึงความมืดกับมนุษย์ มีอยู่ตอนหนึ่งเขาพูดถึงการดูดาวว่า คนสมัยก่อนจะเห็นดวงดาว 90 เปอร์เซ็นต์ด้วยตาเปล่า แต่คนยุคนี้จะเห็นได้แค่ 60 เปอร์เซ็นต์เพราะมีแสงจากเมืองแยงตาเรา ถ้าอยากเห็นได้ 90 เปอร์เซ็นต์ก็ต้องออกเรือไปในทะเล 500 กิโลเมตรขึ้นไป เรื่องนี้เป็นสารตั้งต้นในการใส่เนื้อเพลง โดยอัลบั้มสองจะมีการวางคอนเซปต์มากขึ้น

“ลองมองโลกใบนี้ หลังคาช่างกว้างไกลเธอดูซิ ทุกสิ่งมีความหมายแม้มันจะไกลแสนไกล จะอีกกี่ปีแสงฉันจึงจะได้เห็นดาวดวงนั้น ยิ่งไกลยิ่งคาดคั้น ยิ่งยากก็ยิ่งต้องการ
เวลาที่ลองนับดาวดูสักดวง เธอได้ยินเสียงคำสักหนึ่งคำ เสียงที่ไม่อาจได้ยินมันอีกครา เพราะอาจไม่มีที่มืดพอสำหรับดาว
ได้โปรดเถอะไฟนีออน แปลกจริงๆ ที่ตัวเธอนั้นไม่นอน ฉันอยากเฝ้ามองหมู่ดาว ช่วยลดแสงนีออนดวงนั้นลงหน่อย…”

เพลงต่อไป ‘Midnight Sunshine’ เป็นเหมือนภาคต่อของเพลง Neon แม้กระทั่งคอร์ดก็ยังเหมือนกันเลย คอนเซปต์เพลงนี้พูดถึงพระอาทิตย์เที่ยงคืนที่ประเทศนอร์เวย์ ช่วงนั้นรู้สึกอยากเขียนเพลงเกี่ยวกับ Climate Change เพราะเห็นภาพหมีขาวที่ลอยอยู่กับน้ำแข็งก้อนนิดเดียว เลยสนใจเรื่องพระอาทิตย์ที่ขึ้นทั้งวัน แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่งก็เป็นเรื่องที่แปลก คล้ายเป็นการเตือนจากพระเจ้าว่าโลกไม่เหมือนเดิมแล้ว มันมีคำของคริสเตียนที่บอกว่ายุคสุดท้ายคือยุคที่จะมีไฟมาเผาโลกและเราจะตายกันหมด

“กาลเวลาคงแสดงถ้อยคำ เมื่อโลกเรียนรู้ถึงน้ำตาหยดสุดท้าย อยู่ที่ว่าใครจะฟัง รับรู้สัญญาณด้วยแสงของตะวันฉายตอนกลางคืน นั้นเหมือนการเตือนโลกเริ่มโรยรา รุ่งแสงระงมหลงลืมเวลา หาไม่เจอ
แสงเที่ยงคืนอันสื่อความหมาย ว่าไม่มีใครที่จะหยุดสายลมลงได้นอกจากคนที่สร้างมันมา และจะมารับคืนมันไปเช่นกัน…”

เพลงเด็กหญิงดอกไม้ เพลงมาลัยพวงสุดท้าย Behind The Smile ศิลปินจากหาดทรายรี จังหวัดชุมพร

‘ตลาดเช้า’ เป็นเพลงที่ตกค้างจากอัลบั้มแรก เป็นอารมณ์ที่พยายามจะดึงคนอกหักออกมาใช้ชีวิต ที่จริงก็เป็นการบอกตัวเองด้วยว่าโลกยังมีอะไรสวยงามอยู่อีกนะ

‘Sleep’ เป็นเพลงที่แต่งก่อนเด็กหญิงดอกไม้ เรียกว่าเป็นเพลงแรกเลยก็ว่าได้ เป็นโมเมนต์ที่อกหักครั้งแรก เพลงนี้ไม่ได้ร้องเองเพราะเป็นเรื่องความรักที่เราไม่อินแล้ว เลยขอให้ ‘ซอส-ฐนิสสร ทิมกระจ่าง’ เพื่อนที่มาช่วยเล่นดนตรีร้องให้

‘On The Other Hand’ เพลงนี้มาทีหลังแต่เกิดจากการเอาหนังสือเพลงมาลองเล่นคอร์ดมั่วๆ ไป จนเปิดไปเจอเพลงแสงจันทร์ ของมาลีฮวนน่า (ร้องเพลงแสงจันทร์ในทำนองของ On The Other Hand ให้ฟัง) แล้วเราชอบทำนองก็เลยแต่งเนื้อเพลงใหม่ เล่าเรื่องความเปราะบางของความรัก รู้สึกว่ามันยากที่จะสรุปและดักทางไม่ได้ ความรักมันฟรีฟอร์ม ซึ่ง On The Other Hand แปลว่าในทางกลับกัน มันคืออีกทิศทางหนึ่งของสิ่งที่เราเห็น ความหมายคล้าย Behind The Smile จะดีหรือร้ายก็ได้

‘สมอโพรง’ เป็นที่อยู่อาศัยที่หัวหินที่เราอยู่มานาน ทุกวันนี้ก็ยังอยู่ สมอโพรงเป็นหมู่บ้านธรรมดา แต่เราภูมิใจที่ได้อยู่ตรงนี้ สงบดี ไม่วุ่นวาย ไม่ต้องไปอยู่ในเมืองหลวง อยากมีเพลงที่เกี่ยวกับวัฒนธรรม ความผูกพัน ความคุ้นเคย และสมอโพรงก็เป็นถิ่นที่เกิดเพลงต่างๆ ของ Behind The Smile รวมถึงอยากสื่อสารกับคนหัวหินด้วย เพราะคนหัวหินไม่รู้จักเรา ถ้ามีเพลงที่ชื่อสมอโพรงก็น่าจะทำให้เข้ามาฟังได้

“ดีกว่าต้องทรมาน ต้องอยู่ในบรรทัดฐานของเมืองใหญ่ ต้องถูกผู้คนรุกรานเพื่อกำไร และใช้เงินสั่งการ ฉันจึงได้มีวันนี้ที่สมอโพรง…”

‘ยายนุ้ย’ เราจำภาพยายนุ้ยได้ตั้งแต่เด็ก แกจะใส่ผ้าถุง ยืนฉี่ ขึ้นรถเมล์ฟรีไม่จ่ายเงิน น่าจะเป็นอิทธิพลจากเพลงโฟล์กและเพลงเพื่อชีวิตที่ฟังมาตั้งแต่เด็ก ทำให้อยากมีเพลงที่เล่าเรื่องคนเพื่อสะท้อนอะไรบางอย่าง 

“โอ้ยายนุ้ยเมื่อตอนสาวๆ แกเป็นคนสวย ปล่อยกู้เงิน มีแชร์ มีท้าว เป็นบ้านคนรวย แต่เพราะเข็มนาฬิกาเลี่ยมทองก็ต้องผ่าน เปลี่ยนชั่วโมง
เมื่อไม่นานได้ยินยายนุ้ยแกไปบวชชี ส่วนลูกสองต้องเป็นกำพร้าพ่อวายชีวี ต้องขายนาฬิกาเลี่ยมทองเพื่อผ่าน เปลี่ยนชั่วโมง…”

เพลงเด็กหญิงดอกไม้ เพลงมาลัยพวงสุดท้าย Behind The Smile ศิลปินจากหาดทรายรี จังหวัดชุมพร

ทั้งสองอัลบั้มที่ทำมา คุณใช้วิธีการเขียนเพลงแบบไหน

หลักๆ ถนัดการฮัมเมโลดี้ก่อนและมาเขียนเนื้อ หรือไม่ก็มีเมโลดี้มาพร้อมกับเนื้อ แต่ไม่เคยเขียนเนื้อก่อนแล้วมาใส่ทำนองเลย ส่วนตัวรู้สึกว่า ‘เมโลดี้’ เป็นอิทธิพลแรกที่มาสู่คนฟัง รองลงมาคือ ‘เนื้อเพลง’ เมโลดี้เป็นเหมือนหน้าบ้าน เราจะจัดหน้าบ้านยังไงให้น่าเข้า ส่วนเนื้อเพลงเหมือนส่วนในบ้าน

พอจบอัลบั้มสอง Behind The Smile มีความเคลื่อนไหวอะไรบ้าง

เริ่มได้ทัวร์ ไปเล่นดนตรีที่ต่างจังหวัด ระหว่างนั้นก็รับงานตีกลอง เล่นดนตรีกลางคืนเป็นงานเลี้ยงชีพ

คุณเป็นศิลปินอิสระที่อยู่รอดในยุคนี้ได้อย่างไร

สำคัญที่สุดคือต้องมีผลงานที่ดี กระดุมเม็ดแรกคือผลงานของตัวเอง ถ้าเราออกแบบมันไม่ได้ เราก็ออกแบบอะไรอย่างอื่นไม่ได้ ต้องทำแบบจริงใจ ทำมันอย่างสุดความสามารถ เชื่อว่าตรงนั้นจะเป็นเครดิตให้เราเกิดอาชีพที่สองสาม ได้เงินจากทางอื่นเพื่อมาบาลานซ์ การเป็นศิลปินอินดี้อย่างเดียวอยู่ไม่ได้ ไม่มั่นคงแน่นอน เมืองไทยไม่ได้สนับสนุนขนาดนั้น วัฒนธรรมมันยังไม่ดีพอ

แล้ววันนี้คุณมีอาชีพที่สองสามหรือยัง

ตอนนี้ยังตีกลองอยู่เป็นปกติ แต่คิดว่าจะมีอาชีพอื่นด้วยคือการทำผลิตภัณฑ์ของบีฮายฯ หรือทำงานศิลปะที่เชื่อมโยงกับดนตรีของเรา นอกจากนี้ก็มีเป้าหมายที่อยากทำพื้นที่เกี่ยวกับบีฮายฯ เช่น คาเฟ่ โฮมสเตย์ ใครอยากฟังเพลงบีฮายฯ ก็มาที่นี่ และเปิดพื้นที่ให้ศิลปินหน้าใหม่ได้มีงานมีพื้นที่เล่นดนตรี

เพลงเด็กหญิงดอกไม้ เพลงมาลัยพวงสุดท้าย Behind The Smile ศิลปินจากหาดทรายรี จังหวัดชุมพร
เพลงเด็กหญิงดอกไม้ เพลงมาลัยพวงสุดท้าย Behind The Smile ศิลปินจากหาดทรายรี จังหวัดชุมพร

ในวันนี้ตัวตนของ Behind The Smile เปลี่ยนไปยังไงบ้าง

ก่อนหน้านี้เป็นโฟล์ก คนโฟล์กจะชอบฟังเพลงบีฮายฯ เพราะมันไม่ค่อยโฟล์กดี มีความอะคูสติกที่แตกต่าง แต่เป้าหมายของเราตอนนี้คืออยากทำให้คนกลุ่มอื่นฟังด้วย ทำดนตรีที่งัดเอาความเป็นมือกลองออกมาใช้ เพื่อให้คนที่ฟังดนตรีแนวอื่นได้ฟังมากขึ้น

โดยส่วนตัวชอบดนตรีสไตล์ Soul Funk Pop ยุค 2000, Psychedelic และ World Music หรือดนตรีพื้นบ้านต่างๆ คิดว่าจะผสมผสานแนวดนตรีที่ชอบเข้าไปอยู่ในอัลบั้มใหม่ให้ได้

วางแผนอัลบั้มใหม่ไว้ยังไงบ้าง

คอนเซปต์คือการได้ทำแนวเพลงที่ชอบ ปล่อยซิงเกิลแรกไปชื่อ ‘ลินดามาทา (Linda Mata)’ มีอิทธิพลเรื่องดนตรีหรือซาวนด์มาจากวงที่ชอบคือ The Babe Rainbow เป็นวงจากออสเตรเลีย มีความไซคีเดลิก ใช้เครื่องดนตรีซีตาร์ มีความเป็นโฟล์ก แอฟริกัน และโมเดิร์น อีกวงที่ชอบคือ Songhoy Blues เป็นวงประเทศมาลี เป็นบลูส์ มีความเป็นเทรดดิชัน เราเองอยากทำเพลงให้มีความเป็น World Music และมีอารมณ์ของดนตรีสมัยใหม่ด้วย

เนื้อเพลงลินดามาทา พูดถึงผู้หญิงอ้วนที่อยากดูดี อยากได้แฟนดีๆ แรงบันดาลใจการแต่งเพลงเกิดมาจากเลื่อนดู TikTok แล้วมีคนผิวดำอัดคลิปอธิบายว่าทำไมเขาถึงชอบสาวไทยที่อ้วนๆ นั่นเพราะแม่และพี่สาวของเขาเป็นคนอ้วน และมองว่าผู้หญิงที่มีรูปร่างอ้วนเป็นความสวยงาม เลยได้ข้อคิดที่ว่า ของบางอย่างต้องอยู่ในที่ที่ใช่แล้วมันจะมีค่า บางคนอาจต้องเดินทางไกลหรือหาที่ที่เหมาะสมกับตัวเองเพื่อให้มีค่าขึ้นมา

“ลินดามาทา เธอมีชีวิตสมบูรณ์ ร่างกายของเธอมันก็เลยสมบูรณ์ เขาจึงเดินทางไปอเมริกา เขาจึงเดินทางไปแอฟริกา เพื่อจะค้นหาความสุขสมบูรณ์…”

เพลงเด็กหญิงดอกไม้ เพลงมาลัยพวงสุดท้าย Behind The Smile ศิลปินจากหาดทรายรี จังหวัดชุมพร

เพลงที่สอง ‘Neon (New Version)’ ให้ ‘แน็ต-สรรพวิท สร้อยคำ’ วง Summer Dress เป็นคนช่วยอะเรนจ์ทั้งหมด เราอัดร้องกับกีตาร์ไปให้ จริงๆ อัลบั้มที่สามคือการปลดปล่อยตัวเองมากขึ้น หาคนมาช่วยงาน ทำให้มันง่ายขึ้น สร้างจุดร่วมให้คนอื่นมาทำเพื่อลดบทบาทตัวเองลงบ้าง

เพลงที่สาม ‘สิมิลัน’ จงใจจะทำให้เป็นเพลงที่เราฟังกันในห้องน้ำตามห้างฯ ตามโรงแรม เนื้อเพลงได้จากการไปเที่ยวเหนือแล้วชอบสาวชื่อสิมิลัน แต่ไม่ได้คิดจะคบหรอก เพราะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ ก็เลยรู้สึกว่าคงไม่ต้องเข้าไป เพียงชื่นชมก็พอ เพลงนี้ทำเองเกือบหมด ลองฝึก Mix & Mastering ยังไม่ดีเท่ากับมืออาชีพทำ แต่ก็ถือว่าได้ลองทำ

เพลงที่สี่ ‘The Last Malai (มาลัยพวงสุดท้าย)’ ไอเดียมาจากขนมอินเดียที่ชื่อ ราสมาลัย (रसमलाई – Ras Malai) มาเปลี่ยนเป็นมาลัยพวงสุดท้าย เพลงนี้ได้เมโลดี้แล้วมาใส่เนื้อ เป็นช่วงโสดพอดี เพลงนี้พูดถึงมาลัยพวงสุดท้าย ถ้าไม่รีบซื้อก็จะหมดแล้ว เชื้อเชิญให้คนมาเอามาลัยนี้ มารับความรักนี้ไป (หัวเราะ)

“มีตังค์ให้ใช้เป็นปี หน้าตาไม่ถึงกับร้ายแต่มีโปรไฟล์มาโชว์ อยากจะชวนเธอไปทรมานหัวใจกันด้วยขวดแชมเปญ หวังว่าเธอจะสนใจ เขาว่ารักจริงๆ คือประสบการณ์ แต่ฉันคงเป็นผู้ประสบภัยอยู่ในเหตุการณ์…”

อัลบั้มสามเป็นการหมกมุ่นเกี่ยวกับความรัก เหตุเนื่องมาจากการที่เราขาด และเราอยากมีโอกาสทำเพลงเกี่ยวกับความรัก อยากสร้างจุดร่วมให้เข้าถึงคนมากขึ้น เป็นความป็อปมากขึ้น แต่ยังอยู่ในพื้นฐานความชอบของเรา

เพลงเด็กหญิงดอกไม้ เพลงมาลัยพวงสุดท้าย Behind The Smile ศิลปินจากหาดทรายรี จังหวัดชุมพร

ฟังดูคุณเป็นคนหมกมุ่นในความรัก แท้จริงแล้วคุณมองความรักแบบไหน

ความรักเป็นสารตั้งต้นของครอบครัว ถ้าเราออกแบบเรื่องครอบครัวไม่ได้ แล้วเราจะใช้ชีวิต ทำงานได้ยังไง ถ้าเรายังต้องทะเลาะ ขัดแย้ง ลุ่มๆ ดอนๆ จะมีเวลาไปสร้างงานได้อย่างไร

ส่วนตัวมีคำคำหนึ่งที่ใช้ตลอดคือ Spirit is Art จิตวิญญาณคือศิลปะ ความรักเป็นส่วนหนึ่งของเรา มันอยู่ข้างใน เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ของศิลปินเลยด้วยซ้ำ เป็นเรื่องที่มีอิทธิพลมากๆ ถ้าทำไม่ได้มันก็พัง ส่วนตัวรู้สึกว่าความรักประกอบไปด้วยอารมณ์และเหตุผล ต้องบาลานซ์ทั้งสองสิ่งนี้ให้สมดุลกัน

เวลาเศร้ามันช่วยให้สร้างงานได้ก็จริง แต่เสียสุขภาพจิตในระยะยาว เป็นเรื่องที่ไม่ดี เราอาจจะแต่งเพลงได้ดี แต่ในชีวิตเราไม่ได้ให้อะไรกับใครเลย เรื่องจิตวิญญาณเป็นสิ่งที่เราต้องออกแบบเป็นอย่างแรกก่อนจะทำอย่างอื่น

ปีนี้คุณอายุ 36 ปีแล้ว จิตวิญญาณของคนวัยนี้เป็นแบบไหน

รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นได้ชัดคือเรื่องร่างกาย เพราะร่างกายมันสั่งให้เราคิดเรื่องสุขภาพ ก่อนจะมาเรื่องสุขภาพก็ต้องดูเรื่องอาหาร เราเคยไปเป็นช่างภาพใช้ชีวิตกับ ‘พี่โจน จันใด’ เขาเอาเรื่องการเดินทางของเมล็ดพันธุ์ไปนำเสนอที่อินเดีย เมื่อยิ่งโตเรายิ่งเข้าใจว่าอะไรที่กินเข้าไปล้วนส่งผลต่อสุขภาพของเรา และสุขภาพส่งผลต่อระบบความคิดของเรา

อย่างเพลงเด็กหญิงดอกไม้ที่พูดถึงเด็กที่สามารถมีความสุขได้กับสิ่งรอบตัว เช่น ดีใจกับฝนตก หรือแค่ได้เล่นก็แฮปปี้แล้ว มันมาจากที่เราได้ดูคลิปเด็กคนหนึ่งที่เห็นน้ำขังอยู่ในถนน เด็กคนนั้นกระโดดเล่นน้ำ สนุกกับช่วงเวลาตรงนั้น แต่ผู้ใหญ่จะมองว่าเป็นปัญหาของระบบราชการ ซึ่งมุมมองมันต่างกัน

ส่วนตัวไม่เชื่อเรื่องการผ่านโลกมาเยอะน้อยต่างกัน ที่เราไม่สามารถมีความสุขกับวันนี้หรือกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเราได้อีกต่อไป เพราะความเสื่อมของร่างกาย จิตวิญญาณ ระบบประสาท และสมองมากกว่า

เพลงเด็กหญิงดอกไม้ เพลงมาลัยพวงสุดท้าย Behind The Smile ศิลปินจากหาดทรายรี จังหวัดชุมพร

คุณยังหลงเหลือจิตวิญญาณที่มองโลกแบบเด็กอยู่บ้างมั้ย

มีอยู่ แต่มันต้องผ่านการฝึก ก็วนกลับไปที่ Spirit is Art การฝึกในที่นี้ก็เหมือนที่หลายๆ ศาสนาทำ คือการฝึกจิตให้กลับมารับรู้ความงาม โดยเฉพาะศาสนาพุทธที่พูดถึงเรื่องความงาม การที่เรารับรู้ถึงปัจจุบันขณะ

วิธีการคือเราเลือกที่จะไม่รับอิทธิพลที่มันไม่ใช่ หรือการที่เราเอาตัวเองไปอยู่ในจุดที่ถูกต้องอย่างเพลงลินดามาทา ที่บอกว่าเราจะมีค่าก็ต่อเมื่อเราอยู่ในที่ที่เหมาะควร ในปัจจัยแวดล้อมที่ใช่ เพราะมนุษย์ปรับตัวอยู่ตลอดเวลา ทุกอย่างจะปรับให้เข้ากัน อยู่แบบไหนก็เป็นแบบนั้น

อายุ 36 ยังโลกสวยอยู่มั้ย

สิ่งที่ยังเหลือคือเหมือนเราได้เปิดประตูเข้าไปเห็นแล้วว่าสิ่งนั้นเป็นยังไง ได้เห็นแล้วว่าวัยเด็กเรามองโลกยังไง เรามีเป้าหมายว่าเราจะต้องเป็นเหมือนเพลงเด็กหญิงดอกไม้ให้ได้มากที่สุด เหลือไว้ให้ได้เยอะที่สุดจนวันสุดท้าย

เราไม่ได้โตมาในกรุงเทพฯ หรือในเมืองมาก ถือว่าเป็นเด็กบ้านนอกคนหนึ่งก็เลยรู้ตัว ยังพอกู้ตัวเองกลับมาได้ หรือแม้กระทั่งความผิดหวังในชีวิตก็ไม่ได้มากมายเหมือนคนอื่น ไม่เคยแย่เท่าคนอื่น มันก็เลยยังเหลือศรัทธากับความงาม ยังมีความโลกสวยอยู่ แต่จะไม่ไปยึดติดกับความเป็นเด็กไว้จนสิ้นหวังกับมัน เพราะถ้าไปสุดโต่งเราจะผิดหวัง เพราะมันมีการเปลี่ยนแปลง

คุณอยากฝากอะไรถึงใครที่กำลังลุยไปตามทางของตัวเอง

ยุคเมื่อก่อนนี้ยาก แต่เดี๋ยวนี้ง่ายขึ้นแล้ว เข้าถึงข้อมูลให้ได้มากที่สุด ยิ่งถ้าเข้าถึงข้อมูลได้ลึกซึ้งกว่าก็จะทำให้เราไปในทิศทางที่ถูกได้โดยไม่ต้องใช้เงินมาก ถ้ามีความรู้มากจะพลิกแพลงหรือเรียนรู้ด้วยตัวเองได้

อีกสิ่งสำคัญที่มาพร้อมกับโซเชียลมีเดียคือ เรามีตัวเลือกเยอะขึ้นก็จริง แต่มันอาจเป็นปัญหา เราต้องรู้จักเลือก ต้องเข้าใจตัวเองแล้วค่อยเลือก สังเกตตัวเองว่าชอบอะไร หาเหตุผลให้เจอ ในขณะที่รับหลายสิ่งจากภายนอกเข้ามาก็ต้องมองตัวตนด้วย สืบประวัติตัวเองให้ได้ หาให้เจอว่าโตมายังไง ทำไมถึงทำแบบนี้ ชอบแบบนี้ ถ้าหาเจอจะรู้และตัดสินใจได้ว่าจะเปลี่ยนมั้ยหรือเอาแบบเดิม สำรวจตัวเองให้แน่ใจ อย่าไปตามใคร เลือกสิ่งที่เหมาะกับตัวเอง

เพลงเด็กหญิงดอกไม้ เพลงมาลัยพวงสุดท้าย Behind The Smile ศิลปินจากหาดทรายรี จังหวัดชุมพร

Writer

Graphic Designer

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.