ถ้าบอกว่าสังคมไหนเปิดกว้างกับความหลากหลายทางเพศ อาจจะไม่ได้ดูแค่สิ่งที่พูดเพื่อประชาสัมพันธ์ แต่คงต้องไปดูตัวกฎหมายที่ออกมามีผลบังคับใช้จริงๆ
ความก้าวหน้าในเรื่องกฎหมายทางเพศนี้ขยับไปอีกก้าวหนึ่งในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา เมื่อรัฐสภานิวซีแลนด์โหวตผ่านกฎหมายที่กำหนดให้ ‘การบำบัดเปลี่ยนเพศวิถี (Conversion Therapy)’ มีความผิด โดยผลโหวตมีมติเกือบเป็นเอกฉันท์อยู่ที่ 112 ต่อ 8 เสียง ซึ่งกฎหมายนี้ช่วยปกป้องสิทธิของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศในนิวซีแลนด์ได้
‘การบำบัดเปลี่ยนเพศวิถี’ คือ การรักษาหรือ ‘บำบัด’ คนที่มีการแสดงออกหรือตัวตนทางเพศที่ไม่ตรงกับความเป็น ‘ชาย-หญิง’ แบบอนุรักษนิยม เป็นแนวคิดที่เห็นว่าเพศวิถีอื่นนอกจากชายหรือหญิงเป็นสิ่งผิดปกติ เป็นโรคภัยไข้เจ็บที่ต้องรักษาให้หาย และไม่ใช่สิ่งที่ควรยอมรับ ในบริบทของประเทศนิวซีแลนด์นั้น มีผู้นับถือศาสนาคริสต์เกือบ 37 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งการบำบัดนี้มักจะเกิดที่โบสถ์ในรูปของการสารภาพบาป และในหลายกรณีก็เป็นการสะกดจิตหรือช็อตไฟฟ้าที่อาจส่งผลร้ายแรงต่อร่างกายของผู้เข้ารับการบำบัด
กฎหมายฉบับใหม่ที่ผ่านการลงมติในวันอังคารที่ผ่านมา โดยมีสาระสำคัญคือ “ห้ามทำการบำบัดให้กับคนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี หรือผู้บกพร่องทางการตัดสินใจ” และ “ห้ามการบำบัดที่อาจส่งผลร้ายแรง” ต่อร่างกายไม่ว่าจะเป็นคนอายุเท่าไรก็ตามโดยเด็ดขาด ทั้งหมดนี้มีโทษจำคุก 3 และ 5 ปี ตามลำดับ
กฎหมายฉบับนี้เกิดขึ้นด้วยการผลักดันของพรรคแรงงาน (Labor Party) ที่มีผู้นำและนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันคือจาร์ซินดา อาร์เดิร์น (Jacinda Ardern) ที่ให้สัญญาไว้เป็นนโยบายหาเสียงตั้งแต่ช่วงเลือกตั้ง
ชานีล ลาล (Shaneel Lal) หนึ่งในผู้ก่อตั้งกลุ่มรณรงค์ต่อต้านการบำบัดเปลี่ยนเพศวิถีกล่าวว่า “กฎหมายฉบับนี้เหมือนการประกาศว่ากลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศนั้นไม่ใช่คนผิดปกติที่ต้องถูกรักษาหรือซ่อมแซม”
ลาลกล่าวต่อว่านี่เป็นชัยชนะสำคัญของมนุษยชาติไม่ใช่แค่สำหรับกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ เท่านั้น เพราะ “สิทธิของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ คือสิทธิมนุษยชน (Queer rights are human rights.)” นั่นเอง
Sources
Vice | https://bit.ly/3BoUpe0
The Guardian | https://bit.ly/3rSRoj0