หากจะพูดถึงประเทศที่มีสุนทรียะและรื่นรมย์กับการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลมากที่สุด คงจะมีญี่ปุ่นประเทศเดียวนี่แหละที่ผุดขึ้นมาทันทีในความคิด และอาหารก็เป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวแห่งฤดูกาลต่างๆ ได้อย่างจับต้องได้
ทุกครั้งที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นแต่ละช่วงเวลา เราจะสัมผัสได้ถึงดอกไม้หลากสีสันที่เบ่งบานตามแต่ละเดือนแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ดอกไฮเดรนเยียในหน้าร้อน ในส่วนของอาหารก็เช่นกัน สำหรับประเทศในเขตหนาวที่มีการเปลี่ยนแปลงของฤดูอย่างชัดเจน ประเภทและคุณภาพของวัตถุดิบที่นำมาทำอาหารก็จะแตกต่างกันออกไปในแต่ละฤดูด้วย และบวกกับความเล่นใหญ่เสมอตามสไตล์ญี่ปุ่น การมาถึงของอาหารประจำฤดูกาลนั้นก็เป็นสิ่งที่ทำให้คนในประเทศเขาตื่นเต้นไม่น้อยเลยทีเดียว
และในที่สุดฤดูการแห่งอาหารหลายรสชาติหลากสีสันก็มาถึง “ฤดูใบไม้ร่วง (あき— Aki)” หรือที่เราเรียกกันอย่างชินปากว่าฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เป็นช่วงเวลาที่อบอวลไปด้วยวัตถุดิบชั้นเยี่ยมสีสันสวยงาม ตั้งแต่สีเหลืองของฟักทอง สีส้มของลูกพลับ ไปจนถึงสีแดงสดของเนื้อปลาทะเล ทำให้เราไม่รอช้าที่จะตอบรับคำเชิญชวนของ 88 Chokudo (Hachi Hachi Chokudo) ซึ่งเป็น Premium Food Hall ชั้น 5 ห้างอิเซตัน (เซ็นทรัลเวิร์ล) ที่รวบรวมร้านอาหารชื่อดัง รวมถึงเชฟเองก็ส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น ราวกับบินไปทานถึงถิ่นซามูไรเลยทีเดียว
Fresh Sunma Oshi Sushi
ข้าวกดหน้าเนื้อปลาซันมะลนไฟอันแสนหอมหวน
เราได้กลิ่นหอมหวนชวนหิวเหมือนกลิ่นของเนื้อปลาเอนกาวะหรือโทโร่แซลมอนไฟลอยมาแต่ไกล
แต่สิ่งที่มาอยู่ตรงหน้าเราคือ Fresh Sunma Oshi Sushi ซูชิสไตล์คันไซ หรือเรียกอีกชื่อว่าข้าวกด ที่มากับเนื้อปลาซันมะลนไฟ ข้าวปรุงสูตรพิเศษ และก้างปลาซันมะทอดกรอบปรุงด้วยซอสโชยุ
ในตอนแรกเราถึงกับแปลกใจว่าปลาซันมะซึ่งเป็นปลาที่คนไทยคุ้นเคยกันดีและมีทานตลอดปี ทำไมถึงมาเป็นอาหารประจำฤดูใบไม้เปลี่ยนสีได้ และในที่สุดเชฟชาวญี่ปุ่นที่เชี่ยวชาญเรื่องปลาเป็นพิเศษและเป็นผู้ปรุงแต่งเมนูชิ้นนี้ก็มาไขข้อข้องใจให้เราว่า ปลาซันมะที่อร่อยที่สุดนั้นจะเป็นปลาที่จับได้แค่ช่วงระหว่างเดือนกันยาถึงตุลา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตัวปลาได้สะสมไขมันในปริมาณที่ดีที่สุด เพราะหลังจากเดือนตุลาปลาซันมะจะนำไขมันที่สะสมไว้ที่เนื้อออกมาใช้เพื่อการวางไข่ ทำให้เนื้อปลากระด้างไม่อร่อยเท่าไหร่
อยากจะบอกว่าเมนูจานนี้ช่างอร่อยสมกับการเสียสละชีพของซันมะน้อยๆ เสียจริง เนื้อปลาที่ลนไฟช่างหอมหวน ละลายไปอย่างช้าๆ ข้าวปรุงรสสูตรพิเศษที่ทำมาทานคู่กันนั้นก็รสชาติอมเปรี้ยวหน่อยๆ เข้ากันกับเนื้อปลาที่หอม หวาน มัน เป็นที่สุด
- จากร้าน ROPPONGI SUSHI KOMATSU
- ราคาจานละ 420-.
Creamy Pumpkin Tsukemen
อีกหนึ่งวัตถุดิบสำหรับเมนูประจำฤดูใบไม้ร่วง คงขาดไม่ได้สำหรับ ‘ฟักทองญี่ปุ่น’ ที่เนื้อนุ่ม รสหวาน
เมนูพิเศษสำหรับฤดูใบไม้ร่วงนี้ ทางเชฟจากญี่ปุ่นได้สร้างสรรค์ Creamy Pumpkin Tsukemen (Tsuke-สึเคะ แปลว่าการจุ่ม, Men แปลว่าเส้น)
Tsukemen เมนูนี้ประกอบไปด้วยฟักทองญี่ปุ่นเนื้อนุ่มหวาน ข้าวโพดอ่อน ราเมงเส้นใหญ่ ที่ทานเข้ากันกับเนื้อหมูสามชั้นได้เป็นอย่างดี กับกลิ่นหอมๆ ของข้าวโพดและรสหวานๆ ของฟักทองในตัวซุป ที่เคลือบเส้นราเมงอันแสนเหนียวนุ่มเอาไว้ สามารถถ่ายทอดรสชาติแห่งฤดูใบไม้ร่วงได้สมบูรณ์แบบจริงๆ
- จากร้าน MENYA MUSASHI BUKOTSU
- ราคาจานละ 250-.
Chestnut Pancake
แพนเค้กญี่ปุ่นและครีมเกาลัดสไตล์มองบลังค์
ขาดไม่ได้เลยสำหรับเกาลัด ตัวแทนของฤดูใบไม้ร่วงที่ทุกคนต้องนึกถึง ในคราวนี้ร้าน Wired Café คาเฟ่ขนมหวานและเครื่องดื่มยอดนิยมจากโตเกียวได้นำเอาขนมสองชนิดที่เราคุ้นเคยคือ แพนเค้กเนื้อนิ่มสไตล์ญี่ปุ่น และเค้กมองบลังค์ที่มีสัญลักษณ์เป็นครีมเกาลัดตกแต่งไว้ที่ด้านบน มารวมกันเป็นเมนูที่ชื่อว่า Chestnut Pancake หรือแพนเค้กญี่ปุ่นและครีมเกาลัดสไตล์มองบลังค์
นอกจากเนื้อนุ่มๆ ของตัวแพนเค้ก ครีมเกาลัดเนื้อเนียนที่ไม่หวานจนเกินไป ชิ้นกล้วยหวานๆ วิปปิงครีมสด รวมถึงซอสช็อกโกแลตและเกล็ดอัลมอนด์ ทำให้จานนี้เป็นจานของหวานที่สาวๆ น่าจะชื่นชอบกัน
(ป.ล. มีข้อเสนอแนะสำหรับเมนูนี้ว่า เนื่องจากผู้เขียนเป็นคนไม่ชอบทานกล้วยและขนมที่หวานมาก จึงแนะนำว่าหากใครไม่ชอบกลิ่นหรือความหวานจากกล้วยให้ลองสั่งแบบไม่ใส่เนื้อกล้วยดู ซึ่งน่าจะได้ความเป็นเกาลัดเน้นๆ สมกับชื่อเมนูนี้)
- จากร้าน WIRED CAFE
- ราคาจานละ 230-.
Sweet Potato Smoothie
สมูทตี้มันหวานเนื้อเนียน
เมนูสุดท้ายที่เราจะมาแนะนำกันเป็นเมนูเครื่องดื่มที่นำมันหวานญี่ปุ่นไปปั่นเป็นสมูทตี้เย็นๆ เนื้อเนียนๆ (ขอบอกว่าเนียนสุดๆ) ตกแต่งด้วยแผ่นมันหวานอบกรอบ เราๆ คงเคยทานกันแต่มันหวานเผาหรือมันหวานเป็นชิ้น แต่สมูทตี้มันหวานแก้วนี้เราจะได้รสชาติคุ้นลิ้นในเนื้อสัมผัสที่ต่างออกไป เป็นเมนูที่เหมาะกับคนรักสุขภาพหรือชาวสายคลีนทั้งหลาย เพราะความหวานที่ได้จากเนื้อมันทำให้แทบจะไม่ต้องเติมน้ำเชื่อมเลย หรือใครจะรีเควสแบบไม่ใส่น้ำเชื่อมเลยก็ย่อมได้
นอกจากจานที่เราได้ลองทานด้านบนแล้ว ยังมีเมนูสำหรับฤดูใบไม้เปลี่ยนสีอีกหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น Spicy Mushroom Yakisoba, Salmon and Chestnut Oshazuke, Creamy Mushroom Stew และ Salt-Grilled Sanma Set สำหรับใครที่สนใจจะลองลิ้มรสแห่งฤดูใบไม้เปลี่ยนสีนี้ สามารถมาทานได้ที่ 88 Chokudo (Hachi Hachi Chokudo), Premium Food Hall ชั้น 5 ห้างอิเซตัน (เซ็นทรัลเวิร์ล) แอบบอกดังๆ ว่าเมนูสุดพิเศษเหล่านี้มีให้ลิ้มลองถึงวันที่ 20 กันยายนนี้เท่านั้น