ในขณะที่สายลมหนาวกำลังเข้าปกคลุม และปฏิทินค่อยๆ ถูกกาทิ้งเพื่อนับถอยหลังสู่เทศกาลปีใหม่ หลายคนกำลังเก็บกระเป๋าเตรียมตัวมุ่งหน้าขึ้นเหนือโดยมีจุดหมายอยู่ที่เชียงใหม่ ในฐานะปลายทางของนักท่องเที่ยวที่หลงมนต์สเน่ห์ของล้านนา กับท่วงทำนองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
เมื่อพูดถึงอากาศเย็นและช่วงเวลาดีๆ เรานึกถึง หมีที่มีหลังเป็นป่าสนที่เคยสร้างปรากฎการณ์โด่งดังไปทั่วประเทศไทยของ Alfred Basha ที่ตอนนี้ได้ตีความหมี Snowy ใหม่ด้วยการเปลี่ยนต้นไม้เมืองหนาวให้กลายเป็นตัวแทนของเมืองเหนือ ผ่านลายเส้นที่โดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ และไม่บ่อยครั้งนักที่เราจะเห็น ศิลปินตัวยง ตวัดปลายปากกาออกมาเป็นสถาปัตยกรรมแบบนี้ เราจึงอดไม่ได้ที่จะพาคุณขึ้นเหนือ มุ่งสู่เวียงพิงค์ในฐานะนครเอกแห่งดินแดนล้านนา ว่าจะสวยกว่าถ้อยคำเสกสรร ที่เหล่าศิลปินเคยพรรณนาเปรียบเปรยไว้จริงหรือเปล่า
ประตูท่าแพ : ปากทางสู่เวียงพิงค์
นอกจากแม่น้ำปิงจะเป็นสัญลักษณ์คู่เวียงพิงค์ที่สุดจะงดงามแล้ว ‘ประตูท่าแพ’ ก็เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กสำคัญที่ทำให้หลายคนนึกถึงเชียงใหม่ นอกจากเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แล้วบริเวณประตูท่าแพก็เปรียบเสมือนพื้นที่ของศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยของเชียงใหม่อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นถนนคนเดิน อาร์ตแกลอรี่ ร้านอาหาร หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่หลับใหลแม้ในยามค่ำคืน ล้วนมีกลิ่นความเป็นเชียงใหม่แฝงอยู่ในทุกอณู จนท่าแพกลายเป็นตัวแทนของเชียงใหม่ได้ทุกแง่มุม
ประตูท่าแพอันเป็นเอกลักษณ์ที่มีฉากหลังเป็นขุนเขาคือสิ่งที่ Alfred Basha เปิดประตูสู่ล้านนาด้วยการเข้าสู่ธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของเชียงใหม่ ทั้งยังสื่อได้ถึงอากาศเย็นสบาย จนหลายคนมองเชียงใหม่เป็นสถานที่ที่แวะมาเยี่ยมเยือนได้แบบไม่มีเบื่อ
ร่มบ่อสร้าง : มนต์เสน่ห์ศิลปะล้านนา
ชุมชนบ้านบ่อสร้างคือหนึ่งในภาพที่แสดงออกถึงความเป็นล้านนาได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะไปถามคนรุ่นพ่อแม่ หรือวัยรุ่นที่ยกก๊วนมาแคมป์ที่เชียงใหม่ ‘ร่มบ่อสร้าง’ ก็เป็นจุดหมายยอดนิยมเสมอมา เพราะนอกจากจะได้เพนท์ร่มเป็นของตัวเองแล้ว ยังอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังแต่อดีตอย่างน้ำพุร้อนสันกำแพง หรือพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยใหม่เอี่ยม ที่โดดเด่นทั้งภาพลักษณ์ภายนอกจากพื้นผิวที่ก่อร่างด้วยกระจกเงา และผลงานชั้นยอดภายในชนิดที่คนรักศิลปะไม่ควรพลาด
ร่มสีสันสดใสที่มีลวดลายเฉพาะแตกต่างกันออกไปตามแต่ความถนัดที่สืบทอดกันในครอบครัวชาวเหนือ หรือกรรมวิธีของแต่ละหมู่บ้าน คือผลงานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่ต่างจากงานของ Alfred Basha ที่มองเพียงปราดเดียวก็รู้ทันทีว่ามาจากฝีมือใคร
หนนี้เจ้าของผลงานหมีที่มีหลังเป็นป่าสนหยิบเอาร่มของล้านนามาตีความด้วยปากกาหัวเล็ก และการแรเงาอันเป็นเอกลักษณ์ ตัวร่มยังคงความอ่อนช้อย แต่แข็งแกร่งตามลักษณะของศิลปิน จนกลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัว พาให้นึกถึงอากาศอันหนาวเย็นของหิมะจากเมืองหนาว และตัดด้วยความเย็นสบายกำลังดีของล้านนา
เรือนกาแล : วิถีชีวิตชาวเหนือ
หากการขึ้นดอยไปชมดอกบัวตอง และลงมาชิมขันโตก พร้อมฟังเสียงซึงยังไม่ทำให้รู้สึกว่าถึงเชียงใหม่เท่าที่ควร การเลือกโรงแรมหรือบ้านพักที่มีลักษณะเป็น ‘เรือนกาแล’ อาจจะช่วยได้
นอกจากการยกใต้ถุนสูง และหลังคาทรงจั่วหรือบ้านแฝดติดกันอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว บริเวณบนสุดของหลังคาที่เป็นไม้แกละสลักทรงไขว้กันก็ที่มีชื่อเรียกว่า ‘กาแล’ คือมนต์เสน่ห์ของล้านนาอย่างแท้จริง โดยลักษณะของกาแลจะแบ่งออกเป็น 3 ชนิดคือ ลายกนก ลายเถาไม้ และลายเมฆไหล ซึ่งลักษณะไขว้กันของกาแลมาจากคำว่า ‘กะแล๋’ ซึ่งแปลว่ากากบาทนั่นเอง
เป็นอีกหนึ่งความท้าทายของศิลปินชาวอัลบาเนียที่ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม เราเห็นเรือนกาแลอันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นและตั้งตระหง่านอยู่บนหลังหมี ทรงกาแล ก็ดูดุดันและแข็งแกร่งตามสไตล์ Alfred Basha จนเราอยากไปเห็นของจริงที่ภาคเหนือ และยกขันโตกในฐานะสำรับของคนเมืองมาแกล้มพร้อมเสพบรรยากาศหน้าหนาว ที่มาพร้อมสายลมเย็นฉ่ำ
Let it snow : Limited Edition
เพราะเชียงใหม่เป็นเมืองที่เรารักและหน้าหนาวทำให้ชีวิตเราดูสดชื่นขึ้นเป็นกอง ไม่ว่าใครก็คงอยากจะเดินทางมาสัมผัสบรรยากาศเฉพาะตัวของล้านนาสักครั้งโดยเฉพาะช่วงปลายปีแบบนี้ หนนี้ยิ่งเพิ่มความพิเศษขึ้นไปอีกเพราะในช่วงปลายปีนี้ ‘หมี’ ที่เราคุ้นเคยจะมีเอกลักษณ์ของล้านนาเข้าไปแฝงอยู่ในรูปแบบ Limited Edition อีกด้วย
ตามไปดูเอกลักษณ์ของล้านนาได้แล้วตั้งแต่วันนี้ที่ 7-11 ทุกสาขา พร้อมติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Snowy