ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกไอเดียระหว่างวัน หรือจัดตารางงานประจำปีที่กำลังมาถึง หลายๆ คนก็ยังคงโปรดปรานและคุ้นเคยวิธีการบันทึกแบบเดิมๆ บนหน้ากระดาษที่สามารถจับต้องได้อยู่ แม้ทุกวันนี้เราจะมี Software มากมายที่ช่วยจัดการและจัดเรียง กิจธุระเหล่านั้นบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตแล้วก็ตาม
สมุด Planner เป็นอีกหนึ่งของใช้ที่ผู้คนนิยมซื้อกันในช่วงปลายปีเก่าถึงเริ่มต้นปีใหม่ ซึ่งเป็นเวลาที่หลากหลายแบรนด์เครื่องเขียนต่างแข่งขันกันออกแบบสมุด Planner ให้โดดเด่นทั้งหน้าตาและความหลากหลายของการใช้งาน เพื่อที่จะดึงดูดแฟนคลับเดิมและกลุ่มลูกค้าหน้าใหม่ สำหรับสัปดาห์แรกๆในการทำงานของปี ถือเป็นโอกาสอันดีที่เราจะแนะนำสมุด Planner ประจำปีจากแบรนด์เครื่องเขียนชั้นนำ บางแบรนด์อาจเป็นที่รู้จักดีและหาซื้อได้ง่ายอยู่แล้ว ส่วนบางแบรนด์ก็อาจจะต้องอาศัยการขวนขวายเพิ่มขึ้นอีกสักหน่อย แต่ก็นับเป็นเรื่องที่คุ้มค่า เพราะว่า Planner ที่เหมาะสมกับอุปนิสัยส่วนตัว ย่อมจะช่วยให้คุณสามารถบันทึกและจัดการเป้าหมายประจำปีนี้ได้สะดวกราบรื่นยิ่งขึ้น (ส่วนจะสำเร็จตามเป้าหรือไม่นี่อีกเรื่อง)
1.Moleskine
เริ่มกันที่ Moleskine แบรนด์เจ้าพ่อสมุดบันทึกสัญชาติอิตาลีที่ขึ้นชื่อทั้งด้านประสิทธิภาพและราคาที่สูงปรี๊ด ด้วยรูปลักษณ์ที่เรียบง่ายแต่สมบูรณ์ในรายละเอียด ทำให้ Moleskine เป็นอีกหนึ่งแบรนด์สมุดบันทึกในดวงใจตลอดกาลของนักออกแบบและศิลปินทั่วโลก Planner ในปีนี้ก็มีหน้าตาไม่ต่างจากสมุดบันทึกแบบมาตรฐาน ด้วยวัสดุปกแบบ Soft Cover และขนาดที่กะทัดรัดเหมาะมือทำให้พกพาติดตัวได้ง่าย อ่านเขียนได้สบายตาด้วยความเข้มของน้ำหมึกที่ไม่กระด้างจนเกินไป ส่วนของปฏิทินก็สามารถวางแผนระยะยาวได้ถึงปี 2019 และยังมี Features ที่เป็นประโยชน์ต่อการเดินทางอย่าง Time zone และมาตรวัดของแต่ละพื้นที่ทั่วโลก เหมาะสำหรับผู้รักความเรียบง่ายแต่มากในประโยชน์การใช้งาน
2.Leuchtturm
(ภาษาเยอรมันความหมายว่า Lighthouse) Leuchtturm เป็นอีกหนึ่งแบรนด์เครื่องเขียนที่เก่าแก่ เมื่อมาจากประเทศเยอรมันก็ย่อมไว้ใจได้ถึงการออกแบบที่เน้นไปยังประสิทธิภาพการใช้งานเป็นหลัก Leuchtturm อาจจะมีหน้าตาที่ดูไม่แตกต่างจากสมุดบันทึกอื่นๆ แต่เมื่อลองได้ใช้งานดูก็จะพบกับ Function ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจุดขายอย่างกระดาษ Ink Proof ที่กันไม่ให้น้ำหมึกจากปากกาชนิดคอแร้งไหลซึมไปสัมผัสกระดาษหน้าที่ยังไม่ใช้งาน ลักษณะเล็กๆ น้อยๆ อย่างการเรียงเลขหน้าที่ไม่พบบ่อยนักในสมุดบันทึกต่างๆ สิ่งพิเศษอีกอย่างหนึ่งของ Planner ประจำปีนี้ ก็คือ Seperate Notebook เล่มน้อย ที่แถมมาให้ในท้ายสมุดสามารถหยิบมาใช้งานได้อย่างอิสระโดยไม่ได้ถูกเย็บติดกับตัว Planner เล่มหลัก
3.Muji
แบรนด์ไร้แบรนด์จากแดนอาทิตย์อุทัยไม่ยอมน้อยหน้าในศึกครั้งนี้เช่นกัน Muji เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ใช้ปรัชญาการออกแบบเน้นการใช้งานเป็นหลัก สมุด Planner ของ Muji จึงโดดเด่นที่ความใช้ง่าย มี Features ให้ผู้ใช้เพียงเท่าที่จำเป็น เนื้อกระดาษอ่านง่ายสบายตาและยังมีให้เลือกหลากหลายขนาด สำหรับปี 2018 Planner ของมูจิมีให้เลือกสามสี ทั้งสีขาว สีดำ และสีแดง ที่สำคัญคือมีราคาที่ถือว่าไม่แรงมากเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ
4.Rifle Paper
หากเป็นคนชอบพกเครื่องใช้หน้าตาสดใสไว้ใกล้ๆ ตัว ขอแนะนำให้รู้จักกับ Rifle Paper ; แบรนด์ LifeStyle เล็กๆ ใน Florida ที่เริ่มต้นเติบโตมาจากการทำการ์ดอวยพร , สมุดทำมือ , งานพิมพ์ และเครื่องเขียนต่างๆ Rifle Paper มีลายเซ็นเป็นงานออกแบบตกแต่งด้วยภาพพิมพ์ดอกไม้สุด Craft และลวดลายสไตล์ Botanical แสนรุ่มรวยที่ใครเห็นก็ต้องอยากจะใช้เวลาพินิจในความคราฟท์ Planner ในปีนี้ของ Rifle Paper มีให้เลือกมากถึง 8 Edition มีทั้งการเข้าเล่มแบบปกติและแบบสันห่วง บาง Edition ก็ออกแบบปกเป็นลายดอกไม้ปั๊มฟอยล์ทอง ให้ความรู้สึก Festive และเหมาะจะเป็นของขวัญปีใหม่เอามากๆ
5.Hobonichi Techo
หากหลงรักกลิ่นอายตะวันออก และมูจิยังไม่แกรนด์พอสำหรับคุณ ขอแนะนำ Planner ปี 2018 จาก Hobonichi Techo ที่ร่วมกันออกแบบกับ Sonya Park เจ้าของแบรนด์ Art & Science ชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น สมุดของแบรนด์ Hobonichi Techo นั้นมากคุณสมบัติเหลือเกิน ทั้งอ่านง่าย เขียนง่าย พลิกหน้าง่าย แหกได้ 360 องศาแม้จะเป็นเล่มหนา เพราะว่าใช้กระดาษสูตรลับที่ชื่อว่า Tomoe River Paper มี Layout ในหน้าปฏิทินประจำวันที่ไม่ซ้ำซากจำเจ แถมยังมี ‘Daily Quotes’ ที่ประกอบไปด้วยปรัชญาญี่ปุ่น และข้อคิดคนดังพิมพ์อยู่ในทุกหน้า ราวกับว่าเป็นการโต้ตอบของตัวสมุดกับผู้ใช้งาน แต่ข้อเสียก็คือสำหรับคนที่ไม่ชอบก็อาจจะคิดว่าสมุดเล่มนี้มันพูดมากไปหน่อย
6.Leather Daily/Weekly Manager
สำหรับคนที่ดำเนินชีวิตในปีนี้ด้วยการเก็บหอมรอมริบทีละเป้าหมายระยะสั้นๆ แต่สม่ำเสมอ Planner ที่เหมาะกับ Lifestyle ของคุณจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก Leather Daily/Weekly Manager ที่ซอยเล่มละเอียดลงมาจาก Planner รายปีทั่วๆ ไปให้เหลือรายเดือน และรายวันแทน แม้จะเล่มจะไม่บางลง แต่หน้าตาดูเรียบหรู สีสันสดใส หยิบมาใช้งานได้ไม่อายใคร และยังมี Function เล็กๆ น้อยๆ อย่างซองกระเป๋าเล็กท้ายเล่ม สำหรับใส่นามบัตรและเอกสารขนาดเล็กทั้งหลาย
7. Today is the Day
ส่วนคนที่อยู่กับปัจจุบันมากกว่านั้น Planner สำหรับคุณเหลือเพียงหนึ่งเดียว ; Today is the Day ตัวชื่อก็บอก Concept ชัดแจ้งแข็งแรงอยู่แล้วว่าใช้ชีวิตรายวันแค่ไหน เอาเข้าจริงมันไม่ใช่สมุด Planner ด้วยซ้ำ แต่เป็นนวัตกรรมในรูปแบบสมุดฉีก (notepad) มากกว่า ลักษณะภายนอกดูน่ารักน่าใช้ ตัว Features เองก็ใส่มาให้เพียงพอต่อหนึ่งวันทำงาน เริ่มตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าจนถึงสามทุ่ม หากใครที่ต้องการใช้ชีวิตเลยไปจากสามทุ่มก็จะพบเพียงประโยค ‘Let’s call it a day’ โอ้โฮ ชีวิตมันก็เท่านี้ หรือจริงๆ แล้วมนุษย์อาจไม่ต้องการสมุด Planner เล่มหนาปึ้กที่อัดแน่นไปด้วยเป้าหมายลมๆ แล้งๆ ไปจนจบปี แต่จะเหมาะสมกว่าหากเรามองให้เห็นถึงความสำคัญของเวลาเล็กๆ ทีละวัน ทีละนิด ที่ประกอบขึ้นเป็นหนึ่งปีของชีวิต ตั้งเป้าหมายสั้นๆ แล้วทำให้สำเร็จ พยายามเจริญสติอยู่ในปัจจุบันขณะ หายใจเข้ารู้ หายใจออกรู้ เจริญพร…
Writer
