ช่วงที่ทุกคนกำลังอินกับบอลโลก เราขอแหวกกระแสเอาใจแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ต ที่ชอบความเร็วและความตื่นเต้นเร้าใจ ด้วยการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาอย่าง “Chang Super GT Race 2018” แบบใกล้ชิดติดขอบสนาม ซึ่งเป็นปีที่ 5 แล้วที่การแข่งขันจัดขึ้นในประเทศไทย ที่สนามช้าง อินเตอร์ เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เรียกได้ว่าแฟนๆ บ้านเรานี่โชคดีสุดๆ ที่ได้สัมผัสการดวลความเร็วระดับเวิลด์คลาสแบบนี้
พร้อมด้วย “Honda Racing 2018” ที่มาช่วยสร้างสีสันระหว่างการแข่งขัน ซึ่งนับเป็นเวทีของนักแข่งมืออาชีพ และมือสมัครเล่นชาวไทยที่ได้ร่วมลงแข่งขัน ให้แฟนมอเตอร์สปอร์ตได้ร่วมเชียร์กันอย่างสนุกสนานอีกด้วย
ตามไปซึมซับบรรยากาศความมันส์ที่แต่ละทีมต่างขับเคี่ยวกันแบบไม่มีใครยอมใคร ซึ่งเรามีภาพมาฝากรวมไปถึงสรุปผลการแข่งขัน ก่อนจะไปลุ้นกันต่อในสนามหน้า รับรองว่าสนุกสนานขึ้นเรื่อยๆ แน่นอน !
หัวใจลุ้นแทบหยุดเต้น เมื่อเสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์ทำงาน กับการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบระดับโลก “Chang Super GT 2018” เริ่มดวลความเร็วในสนามที่ 4 ของฤดูกาล ไปเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน – 1 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ทำการแข่งขันรวมทั้งสิ้น 66 รอบ ในสนามที่มีความยาว 4.554 กิโลเมตร และมีโค้งทั้งหมด 12 โค้ง รวมระยะทางการแข่งขันกว่า 300 กิโลเมตร
ไฮไลต์ที่ทุกคนเฝ้าจับตามอง คือการเข้าร่วมแข่งขันรายการนี้ครั้งแรกในเมืองไทยของ อดีตแชมป์โลก Formula 1 ชาวอังกฤษอย่าง “เจนสัน บัตตัน” ที่เคยครองแชมป์โลกรถสูตรหนึ่งกับฮอนด้ามาแล้วในปี 2009 จับคู่กับทีมเมทดาวรุ่งชาวญี่ปุ่นอย่าง “นาโอกิ ยามาโมโตะ” ภายใต้สังกัดทีม “คูนิมิตซึ” ด้วยรถแข่ง Honda NSX-GT หมายเลข 100 ซึ่งรั้งจ่าฝูงทีมและนักขับบนตารางก่อนเดินทางมาไทย
มาวอร์มเครื่องกันสักหน่อยกับบทสัมภาษณ์ของ “เจนสัน บัตตัน” อดีตแชมป์ Formula 1 ก่อนที่จะเริ่มการแข่งขันในรายการ Chang Super GT Race 2018
เตรียมตัวอย่างไรสำหรับการลงแข่ง Super GT ฤดูกาลนี้ ?
เจนสัน บัตตัน : ผมว่าการเตรียมตัวมันเป็นสิ่งที่ไม่ยากนัก เมื่อคุณมีประสบการณ์ในการแข่งรถมาแล้ว แม้รถที่ใช้แข่งใน 2 รายการจะต่างกันมาก แต่ผมคิดว่าเป็นเรื่องดีที่ผมได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขับรถหรือการทำงานของรถ อีกทั้งการมีพาร์ทเนอร์ที่ดีในการแข่งขัน ซึ่งผมเชื่อมั่นว่า พวกเราจะทำผลงานได้ดีอย่างแน่นอน
รถยนต์ Honda NSX-GT มีจุดแข็งอะไรที่เข้ากับคุณหรือไม่ ?
เจนสัน บัตตัน : Honda NSX-GT แสดงให้เห็นว่า ฮอนด้ามีพัฒนาการในการทำให้รถยนต์สามารถรองรับการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตได้ดีขึ้น ซึ่งผมดีใจที่ได้เห็นว่าปีนี้ฮอนด้าชนะมาแล้ว 2 รายการ เห็นได้ชัดว่าเป็นรถคันนี้ที่ดีมาก เป็นรถที่แข็งแกร่งและพร้อมสำหรับการแข่งขันอย่างมาก
หลังจากที่ลุ้นจนตัวเกร็ง ได้ทึ่งไปกับศักยภาพของตัวรถและนักแข่งระดับโลก ผลการแข่งขันก็น่าประทับใจสุดๆ ที่กองทัพ Honda NSX-GT ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในศึก “Chang Super GT Race 2018” โดย หมายเลข 16 “ฮิเดกิ มูโตะฮ์” และ “ไดซูเกะ นากาจิมะ” จากทีม “มูเก็น” คู่หูนักซิ่งชาวญี่ปุ่น เป็นทีมที่ใช้รถแข่งฮอนด้า ทำผลงานได้ดีที่สุดในสนามนี้ คว้าอันดับ 5 ตามมาติดๆ ด้วย หมายเลข 17 “โคอุดาอิ ซึกาโกชิ” และ “ทาคาชิ โคงูเระ” จากทีม “เคฮิน เรียล เรซซิ่ง” ในอันดับ 7
ขณะที่ทีมตัวเต็ง หมายเลข 100 “เจนสัน บัตตัน” และ “นาโอกิ ยามาโมโตะ” จากทีม “คูนิมิตซึ” ที่ต้องเจอปัญหาการรีดความเร็วของรถแข่งจากการโดนถ่วงน้ำหนักมากที่สุดถึง 64 กิโลกรัม สามารถเข้าเส้นชัยได้ในอันดับ 11 ซึ่งไม่ได้ส่งผลต่อการลุ้นแชมป์ของทั้งคู่ โดยคะแนนรวมยังอยู่ในอันดับ 2 ของตารางตามหลังจ่าฝูงเพียง 1 แต้มเท่านั้น
อีกหนี่งรายการแข่งขันที่เร้าใจไม่แพ้กันก็คือ “Honda Racing 2018” เป็นซัพพอร์ตเรซที่ฮอนด้าจัดขึ้นทุกปี ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยในปีนี้ มีทีมที่ตบเท้าเข้าร่วมการแข่งขันเป็นสถิติสูงสุดรวม 47 คัน ชิงถ้วยเกียรติยศ และเงินรางวัลรวมกว่า 750,000 บาท
การแข่งขันมีทั้งหมด 3 เรซ แบ่งออกเป็น 3 รุ่นการแข่งขัน ได้แก่
- Honda Pro Car Modify รถยนต์ฮอนด้าที่เปิดให้สามารถโมดิฟายเครื่องยนต์ได้ พิกัดความจุ 1500 cc จำนวน 15 คัน
- Honda Pro Car รถยนต์ฮอนด้าเครื่องยนต์สแตนดาร์ด พิกัดความจุ 1500 cc จำนวน 18 คัน
- และรุ่นเล็กอย่าง Honda Brio Cup ที่เปิดสนามให้รถยนต์ในกลุ่ม Eco Car อย่าง Honda Brio และ Honda Brio Amaze มาร่วมประชันฝีมือโดยนักแข่งดาวรุ่ง จำนวน 14 คัน
ซึ่งมันส์ไม่แพ้รายการหลักเลยทีเดียว เพราะบรรดาสิงห์นักแข่งไทยที่กำลังมาแรง ทำเอาผู้ชมเกาะขอบลุ้นสุดตัวไปตามๆ กัน
นอกจากความมันส์ในสนาม รอบบริเวณสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ยังคับคั่งไปด้วยกิจกรรมสนุกๆ ที่ฮอนด้าจัดขึ้นเพื่อแฟนกีฬามอเตอร์สปอร์ตชาวไทยเป็นพิเศษ
ทั้งกิจกรรม Pit Walk เปิดโอกาสให้ผู้ชมลงไปเดินในบริเวณช่องเก็บรถของทีมแข่ง (Paddock) ถ่ายรูปกระทบไหล่นักแข่งอย่างใกล้ชิด พร้อมเบิกบานใจไปกับสาวสวยเรซควีนที่บินตรงมาจากญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว รวมถึงกิจกรรม Grid Walk พาชมรถแข่ง และการทำงานของทีมวิศวกรในการเตรียมความพร้อมรถแข่งที่จุดสตาร์ท หรือกิจกรรมทัวร์สนามอย่าง Circuit Safari
ฮอนด้ายังได้จัดกิจกรรมสุดพิเศษ ที่ทำเอาเราอิจฉาตาร้อน นั่นก็คือ กลุ่มลูกค้ารถยนต์ ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ จำนวน 50 คันที่ได้ลงขับจริงในสนามเดียวกันการแข่งขัน Super GT กับกิจกรรม “Honda Track Experience” ซึ่งได้ผ่านการอบรมหลักสูตรการขับขี่ในสนามแข่งขั้นพื้นฐาน จากกิจกรรม “Honda Driving Clinic” โดยทีมครูฝึกที่เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์การแข่งขันระดับประเทศมาก่อนหน้าแล้ว
ส่วนภายในบูธของฮอนด้าก็คึกคักไม่แพ้กัน เพราะมีเกมประลองความเร็ว ฮอนด้า เรซซิ่ง ให้ทุกคนได้มาร่วมสนุกชิงของรางวัลจากฮอนด้า พร้อมทั้งเลือกซื้อของที่ระลึกจาก ฮอนด้า คอลเลคชั่น ตลอดทั้ง 2 วันของการแข่งขัน เห็นความสนุกตื่นเต้นอัดแน่นแบบนี้แล้ว ครั้งต่อไปใครรู้ตัวว่าตัวเองสวมจิตวิญญาณนักซิ่ง คงพลาดไม่ได้แล้วล่ะ !
ทั้งนี้ ยังสามารถติดตามผลงานของทีมฮอนด้าในการแข่งขัน “Super GT 2018” ในอีก 4 สนามที่เหลือได้ ตามตารางการแข่งขัน
- สนามที่ 5 วันที่ 4-5 สิงหาคม 2018 สนาม Fuji Speedway
- สนามที่ 6 วันที่ 15-16 กันยายน 2018 สนาม Sportsland SUGO
- สนามที่ 7 วันที่ 13-14 ตุลาคม 2018 สนาม Autopolis
- สนามที่ 8 วันที่ 10-11 พฤศจิกายน 2018 สนาม Twin Ring Motegi
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Super GT Race : https://supergt.net