ในตำนานเล่าว่า เมื่อประมาณสองล้านกว่าปีก่อน มีอุกกาบาตขนาดยักษ์ตกลงตรงใจกลางทวีปแอฟริกาในปัจจุบัน อุกกาบาตลูกนั้นอัดแน่นด้วยโลหะจากนอกโลก โดยได้รับการตั้งชื่อว่า ‘ไวเบรเนียม’ ต่อมาได้มีมนุษย์จากห้าชนเผ่าเดินทางมายังดินแดนดังกล่าวเพื่อทำสงครามแย่งชิงแร่ไวเบรเนียมเป็นเวลายาวนาน
จนกระทั่งนักรบคนหนึ่งได้นิมิตเห็นร่างเสือดำ ซึ่งนำพาให้เขาได้พบกับสมุนไพรรูปหัวใจ หลังจากกินเข้าไป เขาได้รับพลังเหนือมนุษย์จนสามารถยุติสงคราม แย่งชิงไวเบรเนียมแล้วรวบรวมชนเผ่าโดยรอบให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้
นั่นคือจุดเริ่มต้นของราชวงศ์ ‘วากานด้า’ โดยประชาชนได้อยู่ร่วมกันภายใต้กษัตริย์เสือดำหรือแบล็กแพนเตอร์ (Black Panther) ผู้ทำหน้าที่คอยปกปักรักษาอาณาจักรแห่งนี้ไว้โดยไม่เปิดเผยการมีอยู่ให้โลกได้รับรู้ เพราะเกรงว่าเทคโนโลยีสุดล้ำจากการใช้แร่ไวเบรเนียมจะแพร่งพรายออกไป จนทำให้วากานด้าอาจถูกศัตรูเข้ามารุกราน เพื่อแย่งชิงทรัพยากรล้ำค่าที่ดินแดนมีไว้ในครอบครอง
แม้วากานด้าจะปิดประเทศแต่ก็มีการส่งประชาชนบางส่วนไปยังประเทศต่างๆ เพื่อศึกษาดูงานและนำองค์ความรู้จากทั่วโลกกลับมาพัฒนาประเทศ จนมาถึงยุคของ กษัตริย์ทีชาลา (T’Challa) บุตรชายของทีชากา ที่ตัดสินใจประกาศเปิดประเทศ เพื่อกระจายแร่ไวเบรเนียมให้นานาประเทศนำไปใช้พัฒนาบ้านเมืองให้มีความยั่งยืนและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
ได้เวลาที่วากานด้าเปิดประเทศแล้ว เราเลยขอใช้ชีวิตเป็นชาววากานเดี้ยนสักหนึ่งวัน เพื่อเดินทางไปศึกษาดูงานว่าในดินแดนแห่งนี้ใช้ไวเบรเนียมทำอะไรบ้าง และมีนโยบายใดที่น่าสนใจนำมาประยุกต์ใช้กับบ้านเมืองของเรา
Eco Futurism Urban Core
ศูนย์กลางเมืองที่ผสมผสานธรรมชาติและเทคโนโลยี
ดินแดนของวากานด้ามีภูเขาลูกใหญ่ที่ลดหลั่นระดับล้อมรอบอาณาจักร ที่ตั้งของเมืองหลวงอยู่ตรงกลางคล้ายแอ่งกระทะ มีช่องลมที่แบ่งโดยระยะห่างของภูเขา วากานด้ามีตึกที่กระจายตัวออกจากเมืองหลวงอยู่หนาตา แต่ไม่ได้หนาแน่นแออัดแข่งกันสูง ทำให้เกิดการระบายอากาศได้ดี
อาคารของวากานด้ามีองค์ประกอบแบบแอฟริกันดั้งเดิม ซึ่งมีลักษณะเป็นหลังคามุงจากและปลูกสวนไว้ด้านบน เมืองแห่งนี้มีพื้นที่สีเขียวที่ช่วยให้เมืองกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม อีกทั้งยังไม่มีพื้นที่ชานเมืองที่ต้องตัดถนนยิบย่อยให้เสียระบบนิเวศใดๆ แถมรอบตัวเมืองยังมีทางเดินให้สายน้ำไหลผ่าน เป็นเมืองที่ติดชายฝั่งทะเล มีท่าเทียบเรือสำหรับธุรกิจประมง ชาวเมืองสามารถใช้ประโยชน์จากผืนดินของธรรมชาติ ซึ่งส่งผลดีต่อการทำเกษตรและการเลี้ยงปศุสัตว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Futurist Transit System
ระบบขนส่งมวลชนแห่งอนาคต
ทางด้านระบบขนส่งมวลชน ไวเบรเนียมช่วยให้เมืองวากานด้ามีการขนส่งแทบทุกระนาบ (Multidimensional Transit) ทางภาคพื้นดินมีรถรางไร้สายระโยงระยาง เมื่อแหงนหน้าขึ้นมองด้านบนก็มีเส้นทางของพาหนะความเร็วสูงที่ใช้ขนส่งผู้คนและสินค้า ทางน้ำก็มีเรือหลากหลายแบบ ส่วนนักรบใช้ม้ากับแรดในการเดินทางและออกรบ
เท่านั้นยังไม่พอ สำหรับภาคพื้นอากาศ วากานด้าใช้ไวเบรเนียมสร้างวิทยาการที่เรียกว่า Holographic Cockpit หรือระบบขับขี่ให้พาหนะเคลื่อนที่ได้โดยผู้ควบคุมนั่งบังคับอยู่บนตึกในเมือง การสัญจรโดยพาหนะของวากานด้ารวดเร็วทว่าเงียบเสียงและไม่สร้างมลภาวะใดๆ หนำซ้ำยังไม่ทิ้งความเรียบง่ายที่สุดอย่างการมีทางเท้าให้คนเดินได้จริงๆ โดยไม่ต้องระแวงระวังพาหนะอื่นๆ เพราะมีการแยกส่วนไว้อย่างชัดเจน
Ecological Utopia
ดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ
แม้จะเป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีนำหน้าประเทศอื่นๆ ทั่วโลก แต่วิถีชีวิตของผู้คนในวากานด้ายังคงความเป็นมนุษย์ปุถุชน ดังจะเห็นได้จากวิถีเมืองที่ยังมีผู้คนใช้ประโยชน์จากริมน้ำ การปลูกพืชผักผลไม้ที่นำมาขายแลกเปลี่ยนกันในตลาด ผสมผสานด้วยวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ร่วมสมัยจากการที่วากานด้าส่งผู้คนของเขาออกไปซึมซับวิชาความรู้จากประเทศอื่นๆ ทั่วโลก เพื่อนำมาพัฒนาให้ผู้คนในสังคมของวากานด้าก้าวทันโลกทันเวลา ไม่ตกข่าวหลุดยุคสมัย
นอกจากนี้ยังมีอีกสิ่งสำคัญที่บอกเล่าต่อกันมาชั่วลูกชั่วหลานของชาววากานด้าคือ เรื่องความงดงามของประเทศนี้ ว่าด้วยธรรมชาติที่ยังคงเขียวชอุ่ม ลุ่มน้ำที่ยังสะอาด และอากาศปราศจากมลภาวะ เมืองวากานด้าจึงเป็นที่อยู่อาศัยในอุดมคติที่ผู้คนต่างเฝ้าฝันจะมาเยือนให้เห็นกับตาสักครั้ง โดยว่ากันว่าดินแดนแห่งนี้จะสวยที่สุดในช่วงเวลาพระอาทิตย์ตก
Social Equality City
เมืองที่ทุกคนเท่าเทียมกัน
เมืองที่ดีทำให้ผู้คนเท่าเทียมกัน รวมไปถึงสิ่งมีชีวิตต่างๆ ก็สามารถพึ่งพาอาศัยกันได้ จากการสำรวจประชากรของวากานด้า พบว่าประกอบด้วย 5 ชนเผ่าที่อยู่รวมกันเป็นหนึ่งเดียว ดังนี้
1) ชนเผ่าแม่น้ำที่ดูแลการเกษตรและการประมง
2) ชนเผ่าพ่อค้าที่ดูแลการค้าขาย
3) ชนเผ่าชายแดน เป็นด่านหน้าป้องกันเมืองและประเทศ
4) ชนเผ่าเหมือง ดูแลการขุดและพัฒนาการใช้แร่ไวเบรเนียม
5) ชนเผ่าขุนเขา เดิมทีเลือกปกครองตนเอง แต่ตอนนี้หัวหน้าเผ่าแห่งขุนเขานำพรรคพวกเข้าร่วมเป็นทหารปกป้องดูแลเมืองและประเทศอีกแรง
ประชากรของวากานด้ามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นไปอีก เพราะได้ไวเบรเนียมช่วยยกระดับให้วิทยาการทางการแพทย์ก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด ยกตัวอย่าง การสร้างกำไลข้อมือที่เป็นได้ทั้งอาวุธและอุปกรณ์สำหรับสมานบาดแผลเมื่อได้รับบาดเจ็บ ครั้งหนึ่งเคยมีนักสู้แขนขาด ฝ่าบาททีชาลาก็ใช้ไวเบรเนียมสร้างแขนเหล็กพระราชทานให้นักสู้ผู้นั้นใช้เป็นอาวุธประจำกายชิ้นใหม่ หรือกระทั่งสมุนไพรรูปหัวใจที่เคยถูกเผาทำลายไปหมดสิ้นในช่วงศึกแย่งชิงบัลลังก์ก็ยังสร้างกลับมาใช้ใหม่ได้
Embraces Its Past
ให้ความสำคัญกับรากเหง้าและวัฒนธรรม
ถึงแม้ว่าไวเบรเนียมจะทำให้เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ ของวากานด้าเจริญรุ่งเรือง แต่ชาววากานเดี้ยนยังคงให้ความสำคัญกับรากเหง้าและวัฒนธรรมของพวกเขาสืบต่อกันมา ดังจะเห็นได้จากภาพของกองทัพนักรบหญิงชาววากานด้าที่เชี่ยวชาญการต่อสู้ระยะประชิด ทุกคนยังสวมใส่ชุดเกราะแบบดั้งเดิม ใช้หอกที่ยังคงซึ่งอัตลักษณ์ของนักรบชนเผ่าที่สง่างาม ทว่าแฝงด้วยพลังทำลายล้างขั้นสูงที่สร้างขึ้นจากไวเบรเนียม
ในวากานด้ายังมีธรรมเนียมที่ว่า หากประชาชนไม่ยินยอมรับการขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์องค์ปัจจุบันก็สามารถออกมาขอท้าประลองพลังได้ และเมื่อได้เป็นกษัตริย์แล้ว พิธีกรรมหนึ่งที่สำคัญซึ่งยังคงถ่ายทอดส่งต่อกันมาคือ การดื่มน้ำจากสมุนไพรรูปหัวใจ เพื่อทดสอบว่าร่างกายของผู้นำว่าจะทนทานต่อพืชวิเศษนี้ได้หรือไม่ หากว่าทนได้ พลังจากสมุนไพรรูปหัวใจจะนำดวงจิตของผู้ทำพิธีกรรมนี้เดินทางไปสู่ห้วงเวลาที่ได้พบปะบรรพชนแบล็กแพนเตอร์รุ่นก่อนๆ ที่ล่วงลับไปแล้ว เพื่อใช้ยึดเหนี่ยวนำทางการปกครอง
หลังจากการประกาศเปิดประเทศขององค์ทีชาลา รวมถึงการตั้งศูนย์วากานด้าไว้เพื่อช่วยเหลือผู้คนทั่วโลกได้ไม่นาน กษัตริย์ผู้เป็นประมุขของปวงชนชาววากานด้าก็สิ้นพระชนม์จากโรคร้ายที่สั่งสมมานาน ดูเหมือนว่าภารกิจหลักในการเปิดประเทศจะกลายเป็นช่องว่างให้นานาประเทศที่เล่นนอกกติกา คอยจ้องหาทางเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรล้ำค่าอย่างไวเบรเนียมจากประเทศวากานด้า แต่เรื่องราวจะดำเนินไปในทิศทางไหน ต้องให้ทุกคนไปติดตามชมกันเอง
วากานด้าจงเจริญ! ขอสดุดีแก่กษัตริย์ทีชาลาผู้ล่วงลับ และ Chadwick Boseman นักแสดงที่จากไป
Source : Marvel Studios