หากใครเป็นแฟนซีรีส์เกาหลีตัวยง ตั้งแต่การดูผ่านจอแก้วตลอดวันหยุดสุดสัปดาห์ มาจนถึงการสตรีมมิ่งผ่านช่องทางออนไลน์แล้วล่ะก็ คงรู้เกี่ยวกับเทรนด์ ‘ตามรอยซีรีส์เกาหลี’ ที่มีมาตั้งแต่ยุคป๋าเบยองจุน และชเวจีอู จาก ‘Winter Sonata (เพลงรักในลมหนาว)’ ที่ทำเอา ‘เกาะนามิ’ ดังเป็นพลุแตก
หรือจะเป็นยุค ‘Dae Jang Geum (แดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวง)’ ที่เพิ่มความป็อปปูลาร์ให้กับ ‘อาหารเกาหลี’ แถมยังเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวในเกาหลีใต้ ปี ค.ศ. 2003 เพื่อตามรอยแดจังกึมมากกว่า 4.75 ล้านคน จนเกิดเป็นกระแสเกาหลี (Korean Wave) หรือ ฮัลรยู (Hallyu) ให้บูมไปทั่วโลก
โดยมี ‘Korean Tourism Organization (KTO)’ หรือ องค์กรส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี เป็นแรงสนับสนุนสำคัญที่ทำหน้าที่โปรโมทแหล่งถ่ายทำของซีรีส์ดังต่างๆ เพื่อดึงดูดให้เหล่าคอแฟนละครเข้าไปเยือนถิ่นประเทศเกาหลีใต้ และซึมซับวัฒนธรรมผ่านสถานที่จริง จนทำให้เรา ‘อิน’ และ ‘ฟิน’ ไปพร้อมกับซีรีส์ ซึ่งปีนี้มันกำลังเกิดขึ้นอีกครั้งกับเรื่อง ‘The King : Eternal Monarch (จอมราชัน บัลลังก์อมตะ)’
| The King : Eternal Monarch
เรื่องราวโลกคู่ขนานของประเทศเกาหลีใต้ ระหว่าง ‘สาธารณรัฐเกาหลี’ ที่มีการปกครองระบบกึ่งประธานาธิบดี (Semi-Presidential System) และ ‘จักรวรรดิเกาหลี’ ที่เป็นการปกครองรูปแบบระบบรัฐสภา (Parliamentary System) โดย อีกน (แสดงโดย อีมินโฮ) กษัตริย์คนสำคัญแห่งจักรวรรดิเกาหลี ที่มาพร้อมกับบาดแผลในวัยเยาว์ เมื่อ ‘พ่อ’ ถูกฆ่าต่อหน้าต่อตา และตัวเองเกือบโดนฆ่าตายจากแผนก่อกบฏของ ‘อีริม’ ลุงแท้ๆ ที่ใฝ่ขึ้นครองราชย์เพื่อเป็นใหญ่ แต่แผนกลับไม่สำเร็จ
รัชทายาทอีกนถูก ‘บุคคลปริศนา’ ช่วยเหลือเอาไว้ พร้อมกับทิ้งบัตรประจำตัวตำรวจที่มีชื่อของ ‘จองแทอึล’ หราอยู่บนบัตร และไม่ว่าอีกนจะตามหาบุคคลนี้เท่าไหร่ก็ไม่พบในโลก ‘จักรวรรดิเกาหลี’ วันหนึ่งเขาได้เจอ ‘ประตูข้ามมิติ’ ไปยัง ‘สาธารณรัฐเกาหลี’ จักรวาลคู่ขนาน และได้พบกับนักสืบ จองแทอึล (แสดงโดย คิมโกอึน) หญิงสาวบนบัตรตำรวจที่เขาตามหามานานกว่า 25 ปี นอกจากนี้เขายังพบว่าที่โลกคู่ขนานมีคนหน้าเหมือนกับประชาชนในอีกโลกหนึ่ง และเขายังพบว่าอีริมยังมีชีวิตอยู่ โดยใช้ชีวิตผ่านประตูข้ามมิติ
| ตามรอย 6 สถานที่เชื่อมประตูมิติโลกคู่ขนาน
ซีรีส์ ‘The King : Eternal Monarch’ จะพาเราไปเห็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของทั้ง 2 โลกคู่ขนาน โดยสถานที่เหล่านั้นล้วนมีบทบาทกับเนื้อเรื่อง และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในชีวิตจริง ที่ KTO อยากนำเสนอ ‘Unseen Korea’ ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือแม้กระทั่งคนเกาหลีใต้เองอาจไม่เคยได้สัมผัส ให้เราได้บุกเบิกเข้าไปเยี่ยมเยียนสักครั้ง โดยเราได้คัดสรรให้ไปตามรอยสาธารณรัฐเกาหลี และจักรวรรดิเกาหลี มาทั้งหมด 6 สถานที่
สาธารณรัฐเกาหลี
Taepyeong Salt Farm (นาเกลือแทพยอง)
เป็นฉากที่กบฏอีริมใช้เป็นฐานลับรวบรวมกองทัพกบฏ ซึ่งมาจากจักรวรรดิเกาหลีของตัวเอง เพื่อกลับไปยึดครองบัลลังก์ โดยนาเกลือแทพยอง ตั้งอยู่บนเกาะจองโด (Jeungdo Island) เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้เราเข้าไปสัมผัสชีวิตการทำนาเกลือจากน้ำทะเลได้ และที่สำคัญยังเป็นหาดโคลนที่ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่เขตสงวนด้วยอนุสัญญาแรมซาร์ (Ramsar Convention) และ UNESCO
- ที่ตั้ง : Taepyeong Salt Farm | 1053-11, Jidojeungdo-ro, Sinan-gun, Jeollanam-do
- ค่าเข้าชม : ฟรี (รับจองเป็นกรุ๊ป 30 คนขึ้นไป)
- วันเวลา : เปิดเดือนมีนาคม – ตุลาคมเท่านั้น
Saseongam Hermitage (วัดชาซองอัม)
ถึงแม้จะผ่านมาให้เห็นภาพเพียงสั้นๆ แต่ทรรศนียภาพวัดเกาหลีที่ตั้งตระหง่านอยู่บนภาหินกลับงดงามอย่างบอกไม่ถูก ถ้าจำกันได้สถานที่ที่นี้ปรากฎใน Episode 2 ตอนที่กบฏอีริมกำลังมาทาสีวัด พร้อมบทสนทนากับนักบวช ซึ่งวัดชาชองอัม ตั้งอยู่บนเทือกเขาโอซาน อุทยานแห่งชาติ Jirisan โดยทางประวัติศาสตร์ระบุว่า เคยเป็นที่ฝึกฝนการบำเพ็ญตบะของนักบวชชั้นสูงมาก่อน แต่ปัจุบันเป็นเขตท่องเที่ยวพิเศษ มีทรัพยากรดินอุดมสมบูรณ์ และมีทิวทัศน์ที่สวยงาม ซึ่งเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการไฮกิ้งของนักเดินทาง
- ที่ตั้ง : Saseongam Hermitage | 303, Saseongam-gil Muncheok-myeon, Gurye-gun, Jeollanam-do
- ค่าเข้าชม : ฟรี
- วันเวลา : เปิดตลอด 24 ชม.
Gwanghwamun Square (จัตุรัสควางฮวามุน)
เป็นฉากที่อีกนข้ามประตูมิติมาเจอนางเอกอีกโลกหนึ่ง ซึ่งรูปปั้นกษัตริย์เซจงมหาราช บริเวณจัตุรัสควางมุน ด้านหน้าของพระราชวังเคียงบก ถือว่าเป็นศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของกรุงโซล เนื่องจากสร้างเพื่อระลึกถึงผู้ประดิษฐ์อักษรเกาหลี (Hageul) ขึ้น และยังเป็นสถานที่ยอดนิยมในกรุงโซล ที่เหล่านักท่องเที่ยวมักจะไปเช็คอิน
- ที่ตั้ง : Gwanghwamun Square | 172 Sejong-daero, Sejongno, Jongno-gu, Seoul
- ค่าเข้าชม : ฟรี
- วันเวลา : เปิดตลอด 24 ชม.
จักรวรรดิเกาหลี
Woljeonggyo Bridge (สะพานวอลจองกโย)
ฉากที่องครักษ์โจยองกำลังเดินพูดคุยกับโนซังกุง ถึงการหายตัวไปของอีกน เราจะเห็นถึงสถาปัตยกรรมโดดเด่นจนต้องเสิร์ชหาว่าคือที่ไหน ! ซึ่ง ‘สะพานวอลจองกโย’ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวประจำจังหวัดคยองจู ที่ใช้การออกแบบสถาปัตยกรรมเกาหลีแบบดั้งเดิม โดยมีการสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 แต่ได้ถูกทำลายลงช่วงสงคราม และได้มีการจำลองสะพานขึ้นมาใหม่อีกครั้ง โดยมันยังได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกจาก UNESCO อีกด้วย
- ที่ตั้ง : Woljeonggyo Bridge | 48 Gyo-dong, Gyeongju-si, Gyeongsangbuk-do
- ค่าเข้าชม : ฟรี
- วันเวลา : เปิดตลอด 24 ชม.
Gyesan Catholic Church (โบสถ์กเยซาน)
ฉากที่อีกนต้องเข้าร่วมพิธีงานศพของอดีตผู้บัญชาการกองทัพเรือ ผู้ฝึกอีกนสมัยเป็นนักเรียนนายเรือ จะเห็นถึงความงดงามจากการตกแต่งภายในด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โรมาเนสก์ที่สะดุดตา ซึ่งเป็นโบสถ์คาทอลิกแห่งแรกของประเทศ และยังเหลือเพียงแห่งเดียวในเมืองแดกู นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1899 และยังเป็นเป็นสถานที่ส่งเสริมศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกในยองนัมอีกด้วย
- ที่ตั้ง : Gyesan Catholic Church | 10, Seoseong-ro, Jung-gu, Daegu
- ค่าเข้าชม : ฟรี
- วันเวลา : เปิดตลอด 24 ชม.
Ahopsan Forest (ป่าอาฮบซาน)
ฉากสำคัญที่หลายๆ คนมักจะเห็นเวลากษัตริย์อีกนขี่ ‘แม็กซิมุส’ ม้าคู่ใจ ผ่าน ‘ประตูข้ามมิติ’ ที่รายล้อมไปด้วยป่าไผ่สูงชะรูด ซึ่งป่าแห่งนี้อยู่ในจังหวัดปูซาน มีพื้นกว่า 5.22 ตารางกิโลเมตร ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลอนุรักษ์ของเอกชน โดยก่อนหน้านี้ทางเจ้าของสวน และครอบครัวไม่เคยเปิดให้คนนอกเข้าชมมานานกว่า 400 ปี ทำให้พันธุ์ไม้ที่อยู่ในพื้นที่นี้มีอายุตั้งแต่ 100 – 300 ปี เรียกว่าเป็นผืนป่าที่ยังคงอุดมสมบูรณ์มากแห่งหนึ่งในประเทศเกาหลี
- ที่ตั้ง : Ahopsan Forest | 37-1, Midong-gil, Cheolma-myeon, Gijang-gun, Busan
- ค่าเข้าชม : 5,000 วอน
- วันเวลา : ปิดทุกวันจันทร์ | 09.00 – 18.00 น.
แนะนำสถานที่โลกคู่ขนานขนาดนี้แล้ว ใครที่เป็นแฟนซีรีส์เกาหลี ‘The King : Eternal Monarch’ และกษัตริย์อีกนตัวยง ต้องห้ามพลาดไปตามรอยถึงถิ่นเกาหลีใต้ให้ได้สักครั้งหนึ่ง
Sources :
Forbesthailand
Culture Heritage Administration
Korea Tourism Organization
Writer
