คุณคิดว่าบุคคลเหล่านี้มี ‘สถานะทางสังคม’ แบบไหน และจะยกระดับมันอย่างไร
เด็กหนุ่มที่มีพ่อเลี้ยงเป็นฆาตกร
ลูกชายนอกสมรสของตระกูลเศรษฐี (หรือแชบอล)
หญิงสาวที่ต้องดิ้นรนหลังชนฝาเพราะหนี้สินที่แม่ก่อ
เพราะบรรทัดฐานของสังคมที่มองมา กดทับให้พวกเขาต้องไขว่คว้าหา ‘สายป่าน’ ที่จะพาตัวเองปีนป่ายให้ได้มาซึ่งเป้าหมายที่ต้องการ เพื่อยกระดับชนชั้นทางสังคมโดยไม่สนวิธีการ
The Impossible Heir (2024) คือซีรีส์เกาหลีดราม่าแนวเสียดสีสังคม บน Disney+ Hotstar ที่ทำให้เราเห็นได้ชัดว่า สังคมที่เต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำมันกัดกินตัวตนและพาเราไปสู่อะไรบ้าง
โดยเมสเซจของซีรีส์จะนำเสนอผ่านเรื่องราวการร่วมมือกันของตัวละครหลักที่มาจากชนชั้นล่างสุดของห่วงโซ่ เพื่อยกระดับตัวเองในเกมการชิงอำนาจ หวังเข้าครอบครองตำแหน่งผู้นำทางสังคมบนจุดยอดของพีระมิด
ใครที่อยากสัมผัสเกมการชิงอำนาจสุดเข้มข้น สตรีมได้เลยบน Disney+ Hotstar
“ถ้าอยากได้คำตอบที่ถูกต้อง ให้ดูที่กระบวนการ
หากกระบวนการไม่ถูกต้อง มันจะไม่พาไปสู่คำตอบที่ถูกต้อง” – ฮันแทโอ
แม้มองจากภายนอก ตัวเอกอย่าง ‘ฮันแทโอ’ (รับบทโดย อีแจอุค) เด็กหนุ่มนิสัยเย็นชาที่มีความฉลาดระดับหัวกะทิจนได้รับคะแนนสูงสุด 0.1 เปอร์เซ็นต์จากทั้งประเทศในการสอบจำลอง ดูเหมือนเป็นตัวละครที่มีสถานะทางสังคมที่ไม่แย่นัก
แต่ในความเป็นจริงแล้ว แทโอเติบโตขึ้นมาพร้อมกับปัญหาความรุนแรงในครอบครัวที่เกิดขึ้นจากพ่อเลี้ยง และถูกคำว่า ‘ลูกฆาตกร’ คอยหลอกหลอนและเป็นตัวกดไม่ให้สามารถเลื่อนสถานะทางสังคมได้ตามต้องการ
ความแค้นจากการโดนพ่อทารุณกรรมในช่วงวัยเด็ก และการขู่ฆ่าแม่ผู้ซึ่งเป็นคนในครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวของแทโอที่เหลืออยู่ ทำให้เขาตัดสินใจใช้ความฉลาดและเจ้าวางแผนของตัวเองหากระบวนการที่จะนำไปสู่คำตอบที่ตัวเองต้องการ
ตั้งแต่การร่วมมือช่วยเหลือ ‘คังอินฮา’ (รับบทโดย อีจุนยอง) ลูกชายนอกสมรสที่ไม่มีใครสนใจของคังโอกรุ๊ปให้ขึ้นมามีอำนาจ เข้าไปเป็นครูสอนพิเศษให้กับลูกสาวคนเล็กของคังโอกรุ๊ปเพื่อหาข้อมูลและแทรกซึมเข้าไปในตระกูล ทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับกลยุทธ์ของคังโอ จนไปเข้าตาอาจารย์ที่ปรึกษาและถูกขโมยไปให้กับลูกชายคนรองของคังโอกรุ๊ปที่พยายามจะกุมอำนาจในเกม
จนเวลาผ่านไป 5 ปี ฮันแทโอได้มีโอกาสเข้าทำงานกับคังโอกรุ๊ปในทีมฝึกอบรมผู้นำระดับโลก และเริ่มต้นตามแผนที่วางเอาไว้เพื่อเป้าหมายในการแก้แค้นของตัวเอง
“ที่เมืองมาจู ไม่ว่าฉันจะทำอะไร คนที่นี่ก็จะทำเป็นไม่เห็นและทำเป็นไม่รู้จักฉัน
เหมือนเป็นกฎที่ไม่ได้เขียนไว้” – คังอินฮา
แม้ว่าอินฮาจะใช้นามสกุลคังของคังโอกรุ๊ป แต่ด้วยความที่ถูกแปะป้ายว่าเป็น ‘ลูกนอกสมรส’ ทำให้สถานะทางสังคมของเขามีความคลุมเครือ เพราะแม้จะอยู่สูงกว่าคนทั่วไป แต่ลึกๆ กลับถูกมองอย่างเหยียดหยามจากคนภายนอก จึงต้องพยายามทำตัวให้ถูกมองเห็นไม่ว่าจะในแง่ดีหรือร้ายก็ตาม
ทำให้ในช่วงมัธยมฯ คังอินฮาพยายามทำตัวเกเร ทั้งการขโมยของหรือทำตัวกร่าง เพื่อเรียกร้องความสนใจจากผู้คนอยู่เสมอ หวังให้ตัวตนลูกนอกสมรสตระกูลคังที่แสนจะเลือนรางถูกมองเห็นอีกครั้ง
จนกระทั่งเขาได้มาพบเข้ากับฮันแทโอ จึงได้เริ่มความสัมพันธ์ในรูปแบบของพันธมิตร เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ของทั้งคู่
ถ้ากล่าวว่าฮันแทโอใช้คังอินฮาเป็นเชือกป่านให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ ตัวคังอินฮาเองก็ใช้ฮันแทโอเป็นเชือกป่านในการชิงอำนาจในคังโอกรุ๊ป เพื่อถีบสถานะตัวเองจากลูกนอกสมรสให้กลายเป็นหนึ่งในทายาทของตระกูลคังเช่นเดียวกัน
วิธีการที่ว่านั้นคือ การแสดงออกว่าตัวเอง ‘ไร้เดียงสา แต่ไม่อ่อนต่อโลก’ เพื่อหลอกล่อพ่อว่าตัวเองง่ายต่อการควบคุม และพร้อมที่จะเป็นหมากในกระดานเกมของพวกเขา
“ฉันไม่เคยเลี่ยงหรือหนีเลยสักครั้ง
เพราะพอวิ่งหนีมันจะรู้สึกว่าฉันยอมรับผู้หญิงคนนั้นเป็นครอบครัว” – นาฮเยวอน
‘นาฮเยวอน’ (รับบทโดย ฮงซูจู) เป็นอีกหนึ่งตัวละครหลักผู้เต็มไปด้วยความจนตรอกของชีวิตที่ต้องดิ้นรนแก้ปัญหาหนี้สินที่แม่ของตัวเองก่อ ไปพร้อมๆ กับการตะเกียกตะกายตัวเองขึ้นมาจากความจน
ในช่วงมหาวิทยาลัย นาฮเยวอนอาศัยอยู่ในบ้านตรงข้ามกับฮันแทโอ ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ที่แม่ของนาฮเยวอนบุกรุกบ้านและพยายามจะไถเงิน ทำให้ทั้งคู่ได้มีโอกาสทำความรู้จักกันมากขึ้น ในขณะที่ตัวคังอินฮาเองก็มีความสนใจในตัวเธอ
ฮเยวอนที่ต้องการดึงตัวเองให้หลุดจากขุมนรกที่เรียกว่าแม่และความจน จึงใช้ทั้งสองคนเป็นเชือกป่าน จนตัวเองกลายเป็นอีกหนึ่งนักวางแผนที่แทรกซึมไปในโลกเกมธุรกิจของคังโอกรุ๊ป โดยเริ่มจากการเป็นนักข่าวสายสังคมในเขตฮวามุน และก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งเลขาสำนักงานเขตเลือกตั้งพรรคฮันมี
ฮเยวอนเป็นหนึ่งในตัวละครที่น่าสนใจ ที่ยังไม่เปิดเผยความต้องการและความรู้สึกเท่าไหร่นัก แต่เนื่องด้วยเป็นตัวกลางระหว่างแทโอและอินฮา ทำให้เธอกลายเป็นคนสำคัญในการดำเนินเรื่องที่คาดเดาไม่ได้และชวนให้ติดตาม