สวน Grønningen-Bispeparken ที่ปรับปรุงจากพื้นที่รกร้างในโคเปนเฮเกนให้เป็นสวนที่เหมาะกับทุกสภาพอากาศ

ด้วยสภาพอากาศโคเปนเฮเกนที่มีความแปรปรวนสูง จึงได้มีการปรับปรุงพื้นที่ Grønningen-Bispeparken ให้เป็นสวนสาธารณะที่สอดคล้องกับสภาพอากาศซึ่งทั้งล้ำสมัยและใหญ่ที่สุดของโคเปนเฮเกน โดยแปลงพื้นที่หญ้าโล่งขนาด 20,000 ตารางเมตรที่รกร้างให้กลายเป็นสวนธรรมชาติในเมืองที่มีชีวิตชีวา สนุกสนาน และมีความหลากหลายทางชีวภาพ พร้อมสำหรับการใช้งานของทุกคน เดิมทีพื้นที่นี้เป็นโครงการบ้านพักอาศัยตั้งแต่ปี 1950 ก่อนกลายเป็นสนามหญ้ารกร้างที่ไม่ได้รับการดูแลรักษาจนทรุดโทรม เต็มไปด้วยวัชพืช ดูไม่ปลอดภัย ไม่มีกิจกรรมการใช้งานหรือสนามเด็กเล่นสำหรับเด็กๆ และผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่น และสำคัญที่สุดคือ สนามหญ้าที่มีอยู่เดิมไม่สามารถจัดการหรือรองรับน้ำฝนได้ ปี 2020 เทศบาลเมืองโคเปนเฮเกนจึงเฟ้นหาบริษัทออกแบบให้มาเสนอราคากัน จนได้ SLA สตูดิโอออกแบบแนวธรรมชาติของเดนมาร์กมาปรับปรุงพื้นที่กลางแจ้งกว่า 20,000 ตารางเมตร ให้กลายเป็นสวนภูมิอากาศแห่งใหม่ที่จะช่วยป้องกันพื้นที่จากพายุฝนฟ้าคะนองและน้ำท่วม รวมทั้งยังเพิ่มคุณค่าทางสังคม ธรรมชาติ และวัฒนธรรมให้กับชุมชนและผู้อยู่อาศัยด้วย ด้วยแนวคิดที่ไม่ได้มองว่าฝนเป็นศัตรูแต่เป็นทรัพยากรสำคัญของเมือง SLA จึงพยายามออกแบบวิธีเก็บกักน้ำฝนด้วย ‘ทางน้ำฝน’ และ ‘หลุมต้นไม้’ (BioSwales) จำนวน 18 แห่งเชื่อมต่อกันทั่วทั้งพื้นที่สีเขียวและพื้นที่ลาดเอียง ที่สามารถเก็บน้ำฝนมากกว่า 3,000 ลูกบาศก์เมตรตลอดทั้งปี รวมถึงมีการปลูกต้นไม้ 149 ต้น จาก 23 สายพันธุ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งล้วนเป็นสายพันธุ์พื้นเมืองเพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพในท้องถิ่น ยิ่งไปกว่านั้น พื้นที่แห่งนี้ยังออกแบบให้ใช้งานเชิงสังคมได้อีกด้วย โดยมี Common […]

Waterline Park สวนน้ำสาธารณะในเมืองเฉิงตู ที่ได้แรงบันดาลใจจากแหล่งน้ำตามธรรมชาติ

สภาพแวดล้อมของเมืองที่เต็มไปด้วยตึกสูงทำให้พื้นที่สีเขียวหรือจำพวกสวนสาธารณะนั้นน้อยลงทุกวัน ทว่าในบางย่านก็พบว่ายังมีพื้นที่รกร้างที่แม้จะดูไม่สวยงามน่ามอง แต่ก็สามารถนำมาสร้างให้เกิดประโยชน์กว่าที่เป็นอยู่ได้ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพด้วยโปรเจกต์สวนน้ำ ‘Waterline Park’ ที่เมืองเฉิงตู ประเทศจีน สถานที่แห่งนี้ถูกออกแบบและปรับเปลี่ยนผืนดินที่ถูกลืมให้กลายเป็นพื้นที่ที่นำความสุขมาสู่ชุมชนได้ บริเวณสวนน้ำนี้ถูกปรับปรุงมาจากรางน้ำยาว 1.5 กม. โดยมีความกว้างที่แคบที่สุด 40 ม. มีความสูงที่ต่างกันเฉลี่ย 5 – 7 ม. และขนาบข้างด้วยถนน จุดเด่นของการออกแบบคือ การปรับภูมิทัศน์ที่ตั้งใจเชื่อมต่อผืนดินทั้งสี่ผืนที่แยกส่วนก่อนหน้านี้ผ่านลักษณะทางน้ำที่เชื่อมต่อกัน เกิดเป็นทางเดินและลานกว้างซึ่งได้แรงบันดาลใจจากแหล่งน้ำตามธรรมชาติ เช่น หุบเขา น้ำตก ลำคลอง ชายฝั่ง เกาะ ฯลฯ ทำให้มองเห็นภูมิทัศน์สูงต่ำที่ลดหลั่นหลากหลายมิติ เป็นทั้งทางลาด ทางเรียบ หรือเป็นกำแพงกั้น ฯลฯ พูดได้ว่าไม่มีรูปแบบตายตัวเพื่อให้เกิดการไหลเวียนและการใช้น้ำอย่างหลากหลาย เป็นพื้นที่ที่เชื้อชวนให้ผู้คนเข้ามามีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมต่างๆ ได้มากขึ้น นอกจากบรรยากาศของสวนน้ำแล้ว ที่แห่งนี้ยังมีจุดแวะพักต่างๆ ที่เปิดโอกาสให้ผู้คนได้พักผ่อนหย่อนใจ มีพื้นที่ให้ผู้คนได้นั่งเล่น ถ่ายรูป และเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพโดยรอบ ทำให้ทุกคนเชื่อมต่อกับธรรมชาติและชุมชนได้มากกว่าที่ผ่านมา ที่นี่จึงกลายเป็นพื้นที่สาธารณะที่มีชีวิตชีวาและช่วยส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ทางสังคมไปในตัว Waterline Park เป็นทั้งพื้นที่ให้ได้เล่นสนุกสนาน ได้พักผ่อนกายา เป็นพื้นที่ศูนย์กลางสำหรับทำกิจกรรมของผู้อยู่อาศัยในชุมชน ทั้งยังมีความสวยงามราวหุบเขาสีเขียวในเมือง รวมถึงการออกแบบก็ยังครอบคลุมไปถึงประโยชน์ของระบบนิเวศที่สามารถทำหน้าที่เป็นสวนเก็บกักน้ำในช่วงฤดูฝนได้อีกต่างหาก

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.