Animal and Wildlife Friendly City เมื่อคนกับสัตว์ต้องอยู่ร่วมกันในเมืองใหญ่ จะออกแบบป่าคอนกรีตยังไงให้เกิดสมดุล
ไอจีสตอรีคือพื้นที่ที่เราพบหมาแมวจรจัดมากที่สุด เพื่อนเราบางคนถ่ายภาพเจ้าขนปุยแสนน่ารัก พี่ที่รู้จักนำขนมไปให้ หรือกระทั่งเราเองที่ถ่ายวิดีโอเกาพุงให้น้อง แต่อย่าลืมว่าหลังจากมนุษย์แสนใจดีจากไป สัตว์จรเหล่านี้ต้องกลับไปเผชิญความโหดร้ายในสังคมเช่นเดิม ทั้งจากการถูกทำร้าย โรคติดต่อ หรืออุบัติเหตุ เมื่อการขยายตัวของเมืองผลักให้สัตว์ตาดำๆ กลายเป็นผู้ร้ายโดยไม่รู้ตัว ไม่ใช่เพียงหมาแมวจรจัดเท่านั้นที่กำลังเผชิญกับปัญหา เพราะสัตว์ในป่าคอนกรีตที่มาอาศัยอยู่เต็มเมืองอย่างหนูท่อ กระรอก อีกา นกพิราบ หรือแม้แต่ตัวเหี้ย ล้วนสร้างความไม่น่าอภิรมย์ในชีวิตประจำวันให้ชาวเมือง แถมยังเป็นพาหะเชื้อโรคหรือส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ อีกข้อน่ากังวลคือ ‘พฤติกรรมของสัตว์เมือง’ ที่กำลังเปลี่ยนไป และนับวันจะยิ่งก่อเรื่องปวดหัวมากขึ้น ทั้งกระรอกที่เปลี่ยนจากกินพืชมากินเนื้อและทิ้งซากศพไว้ทั่วเมือง หรือตัวเหี้ยที่เริ่มออกหาอาหารในบ้านคนแทนการลากไก่ไปกินในน้ำ ซึ่งหนึ่งในสาเหตุของพฤติกรรมเหล่านี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่า เกิดจากการที่เราไปพรากธรรมชาติในการใช้ชีวิตของพวกมัน หลายเมืองจึงเริ่มจริงจังกับการจัดการพวกสัตว์เหล่านี้ โดยมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุอย่างการเพิ่มพื้นที่สีเขียว การสร้างระบบนิเวศธรรมชาติ และการจัดการขยะ เพื่อทำให้คนกับสัตว์ในเมืองอยู่ร่วมกันได้ คำถามคือ ทำไมสัตว์ทั้งหมดทั้งมวลถึงมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเมืองต้องจัดการเพื่อหาสมดุลอย่างไร มาร่วมหาคำตอบในคอลัมน์ Curiocity ไปพร้อมๆ กัน ป่าคอนกรีตที่อุดมไปด้วยสัตว์เมือง ‘พื้นที่ตรงนี้เคยเป็นของเรา’ คำตอบและความจริงจากเหล่าสัตว์ผู้วิมลที่ถูกมนุษย์ผู้มาทีหลังยึดครองบ้านมาเป็นของตน ในยุคที่ความเจริญของเมืองขยายตัวอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ธรรมชาติ กระทบต่อระบบนิเวศและชีวิตของสัตว์ป่าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กรุงเทพฯ ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นบ้านของสัตว์หลากชนิด ปัจจุบันกลับเหลือเพียงเศษเสี้ยวของความหลากหลายทางชีวภาพที่เคยมีอยู่ เมื่อป่าเดิมถูกแทนที่ด้วย ‘ป่าคอนกรีต’ อาหารที่เคยมี ต้นไม้ที่เคยอยู่กลับอันตรธาน ทำให้พื้นที่สีเขียวในเมืองกลายเป็นแหล่งชุมชนเล็กๆ ของสัตว์ป่าอย่างเต่า ตัวเหี้ย […]