ผจญภัยและสำรวจความหมายของความรักอีกครั้งกับ ‘นกก้อนหิน’ โดย ‘บินหลา สันกาลาคีรี’
ย่ำสนธยาวันนั้นฟ้าสีสวย นกหลายฝูงกำลังบินกลับรัง เบื้องหน้าภูเขาสูงซ้อนกัน ดวงจันทร์กลมโตลอยเด่นในวันพระใหญ่ “ความงามทั้งหลายที่เราเห็นต่างบันทึกกันคนละแบบ ช่างภาพลั่นชัตเตอร์ จิตรกรละเลงสีบนเฟรมผ้าใบ ศิลปินบรรเลงเป็นบทเพลง และนักเขียนบันทึกผ่านตัวอักษร” เรานึกถึงประโยคนี้อีกครั้งยามสามนาฬิกา หลังปิดหน้าสุดท้ายของ ‘นกก้อนหิน’ ที่เขียนโดย ‘บินหลา สันกาลาคีรี’ นวนิยายแอ็กชันลุ้นระทึกที่เคลือบด้วยเรื่องรักแสนโรแมนติก นกก้อนหิน พิมพ์ครั้งแรกโดยสำนักพิมพ์วงกลม ในปี 2552 อีกสามปีถัดมาพิมพ์ครั้งที่สองโดยสำนักพิมพ์ไรท์เตอร์ และในเดือนมิถุนายนปีนี้ หนังสือเล่มนี้ก็พิมพ์เป็นครั้งที่สามโดยสำนักพิมพ์บางลำพู (banglumpoo) ของ ‘หนึ่ง-วรพจน์ พันธุ์พงศ์’ “เมื่อคุณบอกว่าอยากพิมพ์ หนึ่ง, ผมดีใจ สอง, ผมต้องกลับไปขวนขวายอ่าน ประเมินมัน ว่ามันยังอยู่ในวิสัยที่คนจะเสพสุนทรียะหรือเสพความคิด เรื่องเล่าที่เราต้องการส่งมอบและตั้งคำถามให้เขาได้อยู่มั้ย ถ้าได้ก็โอเค…กับ ‘นกก้อนหิน’ ผมไม่คิดว่ามันจะมีคำถาม หรือมีปัญหาในเรื่องที่ผมกังวลอยู่ โดยสรุปก็คิดว่าน่าจะยังผ่านอยู่ ยังอ่านได้ แต่บางทีผมก็ไม่กล้าพูดตรงๆ” – บางบทสนทนาของบินหลา ที่วรพจน์บันทึกไว้ในช่วงท้ายเล่มนกก้อนหินพิมพ์ครั้งล่าสุดว่าไว้แบบนี้ จากการสอบถามผู้อ่านหน้าใหม่วัยละอ่อน หลายคนเห็นด้วยกับข้อความของนักเขียนว่านิยายเล่มนี้ยังไม่ตกยุคสมัย และยังทำหน้าที่มอบสุนทรียะระหว่างบรรทัดให้ผู้อ่านได้เป็นอย่างดี แม้ว่าเรื่องเล่านี้จะเกิดขึ้นเมื่อ 14 – 15 ปีที่แล้ว “เบรกแตก, รวดเดียวจบ, […]