วันที่ 5 มิถุนายนของทุกปี ถือเป็น ‘วันสิ่งแวดล้อมโลก (World Environment Day)’ เพื่อสร้างความตระหนักและตื่นตัวด้านวิกฤตการณ์สิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นทั่วโลกให้กับทุกคน เพราะแค่เราเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตประจำวันเพียงเล็กน้อย ก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสิ่งแวดล้อมแล้ว
ยิ่งในปีนี้ที่ปัญหาสิ่งแวดล้อมทวีความรุนแรงขึ้นจากภาวะโลกเดือด การรักษาสิ่งแวดล้อมให้อยู่คู่เราไปนาน ๆ การเปลี่ยนแปลงจึงต้องเริ่มตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นผู้มีอำนาจ ตัวเราเอง หรือกระทั่งผู้ประกอบการรายเล็กหรือใหญ่
‘OR’ ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ผ่านแนวทางการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน หรือ OR SDG ด้วยการพัฒนา ‘โครงการพัฒนาการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน (Sustainable Coffee Project)’ ที่มีส่วนช่วยทำให้การดื่มกาแฟเพียงหนึ่งแก้วจาก Café Amazon ก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งในจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้ และนำเสนอผ่านโฆษณา จุดเริ่มต้นของโอกาส บนช่องทางของ OR Official
ว่าแต่ โครงการพัฒนาการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน จะช่วยให้การดื่มกาแฟเพียงแก้วเดียวช่วยขับเคลื่อนสังคมได้อย่างไร Urban Creature ขอพาทุกคนไปหาคำตอบพร้อม ๆ กันในบทความนี้
ก่อนอื่นเราอยากพูดถึงความน่าสนใจของหนังโฆษณา ‘จุดเริ่มต้นของโอกาส’ ที่ชวนให้เราอยากติดตามต่อ กับการเปิดด้วยสองพ่อลูกใน Café Amazon ที่เพียงแค่คนพ่อยกกาแฟแบล็คคอฟฟี่ร้อนขึ้นดื่ม ทันใดนั้นฝุ่น PM 2.5 ที่ปกคลุมวิสัยทัศน์การมองเห็นก็ค่อย ๆ หายไป
หลังจากนั้นก็นำไปสู่สิ่งที่ OR ต้องการนำเสนอ นั่นก็คือ โครงการพัฒนาการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน (Sustainable Coffee Project) ที่ทำให้การดื่มกาแฟเพียงแก้วเดียวสามารถเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้
นอกจากนี้ โฆษณายังสะท้อนให้เห็นถึงแนวคิด ‘OR SDG’ ผ่านความทุ่มเทของพนักงานทุกคนที่ต่อให้เจอปัญหาในระหว่างทางแค่ไหนก็ไม่ย่อท้อ เดินทางขึ้นดอยด้วยรอยยิ้มที่มุ่งหวังลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 สู่การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่ดีขึ้นของประเทศไทย และสร้างอาชีพและรายได้ที่ยั่งยืนให้เกษตรกรในภาคเหนือ
โดยแนวคิด OR SDG ที่ว่า ประกอบด้วย Small (S) ที่มุ่งเน้นการให้โอกาสเพื่อคนตัวเล็ก Diversified (D) ที่มุ่งสร้างโอกาสเพื่อทุกการเติบโตทุกรูปแบบ และ Green (G) ที่มุ่งสร้างโอกาสเพื่อสังคมสะอาด ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกกำหนดมาเพื่อเป้าหมาย OR 2030 Goals ที่ต้องการให้เกิดสังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน และบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2573 รวมถึงปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon) ภายในปี 2593
ส่วนที่มาที่ไปของ โครงการพัฒนาการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน นั้นเริ่มต้นขึ้นที่ตำบลท่าผา อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ก่อนจะขยายไปยังอำเภอปัว จังหวัดน่าน ด้วยเหตุผลที่ต้องการมุ่งเน้นการพัฒนาตั้งแต่ต้นน้ำ ก่อนส่งต่อถึงปลายน้ำของธุรกิจ Café Amazon
ความโชคดีของโครงการคือ ชุมชนบ้านสามสบ และบ้านแม่ยางส้าน ตำบลท่าผา อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เคยได้รับการส่งเสริมให้ปลูกกาแฟสายพันธุ์อะราบิกากันเกือบทุกครัวเรือนมาก่อนอยู่แล้ว แต่ติดตรงเส้นทางเดินทางเข้าหมู่บ้านที่ค่อนข้างลำบากมาก ทำให้ในอดีตไม่ค่อยมีพ่อค้า และตลาดเข้าไปรับซื้อผลผลิตในพื้นที่
พอเป็นแบบนั้น ผลผลิตกาแฟที่ขายได้ก็มักถูกกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง จนชาวบ้านส่วนใหญ่เลิกปลูกกาแฟ หันไปทำไร่ข้าวโพด ฟักทอง หอมแดง และข้าวไร่แทน เกิดเป็นการถางป่าในพื้นที่ป่าต้นน้ำเป็นจำนวนมาก อีกทั้งมีการใช้ปุ๋ยเคมี และยาฆ่าแมลงอย่างรุนแรงเพื่อเร่งปริมาณผลผลิต ส่งผลต่อการสะสมของสารเคมีในดิน และตามมาด้วยปัญหาด้านสุขภาพของตัวเกษตรกร
ตัวโครงการที่มุ่งหวังอยากให้แก้ไขปัญหานี้ จึงเริ่มต้นตั้งแต่การลงพื้นที่ศึกษาปัญหาจริง ให้ความรู้แก่เกษตรกรให้ปลูกกาแฟร่วมกับไม้ร่มเงา (พืชเศรษฐกิจ) เพื่อช่วยลดการเผาป่าทำไร่เลื่อนลอย ลดการใช้สารเคมียาฆ่าแมลง ทำให้ลดมลพิษต่าง ๆ ส่งผลให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น
เมื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ นำไปปรับใช้จริง จนได้ผลผลิตที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม ก็เกิดเป็นโรงแปรรูปเมล็ดกาแฟ Café Amazon ตั้งอยู่ที่อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ จุดรับซื้อผลผลิตเมล็ดกาแฟ ‘กะลาอะราบิกา’ ในพื้นที่ภาคเหนือ จากเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟโดยตรงในราคาที่เป็นธรรม (Fair Trade) และเป็นสถานที่แปรรูปเป็นกาแฟสารที่มีคุณภาพ เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคง และยั่งยืนให้กับเกษตรกร ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนผ่านสู่วิถีการเกษตรอย่างยั่งยืน ก่อนจะจัดส่งเมล็ดกาแฟต่อให้โรงคั่วกาแฟเพื่อคั่ว และจัดจำหน่ายไปยังร้าน Café Amazon ทั่วประเทศ
และเมื่อได้รับผลตอบรับที่ดี OR ได้ขยายการดำเนินโครงการไปยังพื้นที่อำเภอปัว จังหวัดน่าน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง OR กระทรวงเกษตร และสหกรณ์ เพื่อพัฒนา และส่งเสริมการปลูกกาแฟควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ธรรมชาติ มอบโรงเพาะกล้า โรงตากกาแฟ และระบบท่อน้ำ เพื่อส่งเสริมการปลูกกาแฟให้แก่เกษตรกร
จากการเข้าไปมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำนี่เอง OR ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างสังคมที่พึ่งพาตนเองได้ สู่อนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้น นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 และมลพิษทางอากาศในระยะยาวอีกทางหนึ่ง
จากความตั้งใจและการลงมือทำอย่างเข้าใจ ทำให้การกินกาแฟสักแก้วของเรา ช่วยเติมรอยยิ้มบนใบหน้าของเกษตรกร เติมลมหายใจบริสุทธิ์ให้กลับคืนมา เติมเต็มรสชาติความสุขให้อยู่ในทุก ๆ แก้ว และสร้างโอกาสเพื่อทุกคนอย่างยั่งยืน
ใครที่อยากรู้ว่าเรื่องราวเบื้องหลังกาแฟหนึ่งแก้วจาก Café Amazon และจุดเริ่มต้นของโอกาสที่เราพูดมาทั้งหมดมีหน้าตายังไง ไปติดตามกันได้ที่