โออิชี่ คาวาอี้ สุโก้ยยยยยย!
Nikupaku ร้านเนื้อวากิวน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดไปหมาดๆ แต่ต้องปาสามคำข้างต้นให้ทันที
โออิชี่ (อร่อย) – ใช้เนื้อวัวสายพันธุ์ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น จากฟาร์มฝีมือเกษตรกรเมืองโคราช ที่นุ่ม ละมุน ลายสวย ตัดแบ่งพอดีคำในสัดส่วนเท่ากับเนื้อเสียบไม้ที่ญี่ปุ่นเป๊ะๆ การันตีว่ารสชาติ ‘โคตรญี่ปุ่น’ จากปากคนญี่ปุ่นแท้ๆ ในไทย (กลืนน้ำลายแล้วน้า)
คาวาอี้ (น่ารัก) – สร้างประสบการณ์กับลูกค้าตั้งแต่ก่อนสั่งด้วยภาพเมนูกราฟิกสนุกแนว City Pop ที่ได้แรงบันดาลใจจากไฟนีออนกลางชิบูย่า และแพ็กเกจจิ้งที่เหมือนไปเหมาเนื้อในซูเปอร์มาร์เก็ตญี่ปุ่น
สุโก้ย (สุดยอด) – ตอกย้ำความเจแปนด้วยกิมมิกการกริลโดยเลือกระดับความสุกเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน มาพร้อมซอสสูตรเฉพาะที่ใช้วัตถุดิบจากญี่ปุ่น พริกไทยดำ เกลือหิมาลายัน ข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ และวาซาบิ ที่ชาวญี่ปุ่นนิยมกินคู่กับเนื้อเพื่อเพิ่มอรรถรส!
Urban Creature จึงขอป้ายยา ชวนคุณไปคุยกับ Nikupaku ร้านขายเนื้อออนไลน์จากมนุษย์คลั่งเนื้อที่สั่งวันนี้ได้กินพรุ่งนี้ กัดคำแรกปุ๊บ อ้าว เฮ้ย! นึกว่าอยู่ญี่ปุ่น
01 การรวมตัวของมนุษย์คลั่งเนื้อและญี่ปุ่น
10 ขวบ เป็นอายุเฉลี่ยที่เจ้าของร้านทั้งสาม ได้แก่ ปัน-ปาณศานต์ พัฒนกุลชัย ปุ่น-ธีรยุทร จรุงรุ่งเรืองชัย และ ลูกไผ่-กัญชพร เพชรบุตร ได้ลิ้มลองรสชาติอูมามิของเนื้อครั้งแรกจนมีความฝันว่าโตไปจะไปบุก ‘ญี่ปุ่น’ เพื่อกินเนื้อให้ได้สักครั้ง
“ครั้งแรกที่เราได้กินเนื้อมัน Beyond ไปมากกว่าหมู สัมผัสทุกอย่างชัด กลิ่นชัด Texture ชัด รสชาติชัด มีความเฉพาะตัว หลังจากนั้นก็ยาวเลย จากเนื้อไทย ก็เริ่มอยากกินเนื้อญี่ปุ่นดูบ้าง เพราะพวกเราคลั่งรักญี่ปุ่นครับ (หัวเราะ)” ปันบอกยิ้มๆ
ทำไมชอบญี่ปุ่น?
“เราโตมากับ J-pop และ J-rock บ้าวงเอกซ์เจแปน (X Japan) และจอห์นนีส์จูเนียร์ (Johnny’s Jr.) เลยคิดไว้ตั้งแต่เด็กๆ ว่าถ้ามีกำลังทรัพย์ฉันจะไปญี่ปุ่นแน่ๆ” ลูกไผ่ว่า
“เราถูกเลี้ยงมากับโดราเอมอน คุณแม่ชอบมาก (ลากเสียง) จนที่บ้านสะสมสติกเกอร์ไว้เต็มตู้ จะบอกว่าผูกพันกับญี่ปุ่นก็ได้นะ” ปันแทรก
“ตอนเด็กๆ พ่อเราทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่น และมีของฝากติดไม้ติดมือกลับมาเสมอ ทำให้ซึมซับความสนใจทั้งของเล่น เพลง การถ่ายรูป กราฟิก อีกอย่างชื่อเราก็มาจาก ‘ญี่ปุ่น’ ที่พ่อตั้งให้ตอนไปทำงานที่นั่น” ปุ่นตบท้าย
เวลาผ่านไปมนุษย์คลั่ง (รัก) เนื้อและญี่ปุ่น โคจรมาพบกันที่ร้านล้างฟิล์มในวันที่ทุกคนได้ไปลิ้มรสเนื้อถึงญี่ปุ่นมาแล้ว ซึ่งปุ่นกับลูกไผ่เป็นเจ้าของร้านล้างฟิล์มแห่งนี้ โดยมีปันเป็นลูกค้าที่มาใช้บริการบ่อยจนสนิทกัน คุยไปคุยมา ปรากฏว่าคลิก! ชอบกินเนื้อเหมือนกัน ชอบญี่ปุ่นเหมือนกัน โยนไอเดียกันไปมาแรมปี จนเคาะออกมาว่า “เปิดร้านเนื้อกันเถอะ”
เนื้อมื้อแรกในญี่ปุ่นของปันคือสุกี้เนื้อวากิว เขาอุทานออกมาดังๆ ตอนนั้นว่า “เชี่ย สุดยอด สุดยอด สุดยอด”
ส่วนเนื้อคำแรกในแดนอาทิตย์อุทัยของลูกไผ่และปุ่นคือร้านเนื้อเสียบไม้ลับๆ ตามซุ้มหน้าวัด ที่เพื่อนคนญี่ปุ่นแนะนำ
ประสบการณ์การกินเนื้ออันโอชะถูกเอามาถล่มไอเดีย แวบแรกพวกเขาคิดจะทำย่างเนย แต่คิดไปว่าจะซ้ำคนอื่นหรือเปล่า ปุ่นและลูกไผ่จึงคิดเห็นตรงกันว่า “ตอนที่เราไปกินเนื้อเสียบไม้ตามซุ้มที่ญี่ปุ่นมันดีมาก แต่ในไทยกลับไม่ค่อยเห็นเลย ยิ่งช่วงนี้คนโหยการออกนอกประเทศ แสวงหาความอยากไปเที่ยวญี่ปุ่น ถ้าเอาความญี่ปุ่นตรงนั้นมาไว้ตรงนี้ อาจทำให้หายคิดถึงได้บ้าง”
ไอเดียแรกของทั้งสามจึงเป็นการเปิดคีออส (ร้านค้าขนาดเล็กแบบเคาน์เตอร์ตามที่สาธารณะ) ขายเนื้อเสียบไม้เป็นจุดๆ ตั้งแต่เอกมัย ทองหล่อ พร้อมพงษ์ ยาวไปยันข้าวสาร แต่เมื่อพร้อมทุกอย่างแล้ว เจ้าโควิด-19 ตัวร้ายกลับทำให้ต้องชะงัก จะรอจนโควิด-19 หมดก็ไม่ต้องขายกันพอดี จึงเกิดไอเดียใหม่ ปรับมาขายออนไลน์ที่แฝงไอเดียความสนุกตั้งแต่การตัดชิ้นเนื้อไซซ์เดียวกับเนื้อเสียบไม้ที่ญี่ปุ่น สามารถกริลเพื่อเลือกระดับความสุกเองได้ ตกแต่งกราฟิกสไตล์ City Pop และแพ็กเกจจิ้งสุดคาวาอี้!
02 Nikupaku ดินแดนเนื้อ (ดี) ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น
ความช่ำชองในการกินเนื้อของทั้งสามคน ที่กินเยอะถึงขนาดแยกเนื้อดี เนื้อไม่ดีได้ ทำให้พวกเขานำความรู้ตรงนั้นมาสำรวจพฤติกรรมการกินคนไทยว่าแบบไหนพวกแกจะชอบกัน เช่น เนื้อญี่ปุ่นจะวัดเป็น A3 A4 A5 ถ้าดีมากๆ จะนุ่มมาก และมีไขมันแทรกเยอะ แต่คนไทยไม่ชอบกินเนื้อที่เลี่ยนจนเกินไป พวกเขาจึงปรึกษา Butcher หลายคน และเพื่อนชาวญี่ปุ่นแท้ๆ เพื่อเลือกเนื้อระดับนุ่ม แต่ไม่เลี่ยน ซึ่งเหมาะกับการกินได้เรื่อยๆ
‘ไทยวากิว’ จากฟาร์มแห่งหนึ่งในโคราชเป็นเนื้อที่ทั้งสามคนเจอปุ๊บ ว้าวปั๊บ เพราะได้ลองชิมแล้วรู้เลยว่าขุนมาดี เกือบเทียบเท่าญี่ปุ่นได้เลย พวกเขาจึงอยากสนับสนุนฝีมือคนไทยที่ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
“เกษตรกรโคราชเขาพัฒนาการผสมพันธุ์วัวมาเรื่อยๆ ไทยวากิวของเรา 75 เปอร์เซ็นต์เป็นวัวพันธุ์ญี่ปุ่น ที่เอามาผสมกับวัวไทย ซึ่งถูกปรับสูตรอาหารการกิน ใส่ใจวิธีเลี้ยง คำนึงถึงขนาดว่าช่วงไหนกินแบบไหนแล้วลายจะออกมาใกล้เคียงญี่ปุ่น นั่นทำให้เราตัดสินใจเลือกเนื้อของเขามา” ปุ่นอธิบาย
03 ญี่ปุ่นคอนเฟิร์มว่าญี่ปุ่น
เพื่อให้ได้ความญี่ปุ่นขั้นสุด ปุ่นและลูกไผ่ที่เคยกินเนื้อเสียบไม้จนติดใจ รีเควส Butcher ให้สั่งตัดเนื้อไซซ์พิเศษเฉพาะตัวคือ 5 x 3.5 เซนติเมตร และมีความหนา 1 เซนติเมตร ซึ่งเป็นขนาดเท่ากับร้านเนื้อเสียบไม้ตามซุ้มที่ญี่ปุ่น
งับเข้าปาก 1 คำ 1 ชิ้น โอ้ ฟินทันที
ส่วนผสมอื่นๆ ที่ทางร้านเตรียมไว้เพิ่มรสชาติขณะกินก็ไม่น้อยหน้า พวกเขาทำซอสซิกเนเจอร์ที่ไม่เหมือนใครด้วยส่วนผสมจากญี่ปุ่นที่คิดกันขึ้นมาเอง (แถมแปรงทาซอสสีสันจี๊ดจ๊าดให้ด้วย) แนบข้าวญี่ปุ่นเม็ดอ้วนร้อนๆ พริกไทยดำและเกลือหิมาลายัน ช่วยเพิ่มความหอมฟุ้งและรสสัมผัส อีกทั้งยังจำได้ว่าที่ญี่ปุ่นเขานิยมกินเนื้อเสียบไม้กับวาซาบิ อะ งั้นลืมวาซาบิไม่ได้เป็นเด็ดขาด
“ถ้าคุณลองกินเนื้อกับวาซาบิ คุณอาจจะเลิกจิ้มซอสไปเลยก็ได้ครับ เพราะตอนเราทำกันใหม่ๆ ก็ส่งไปให้เพื่อนคนญี่ปุ่นในไทยได้ลองกิน มันบอกว่า ญี่ปุ่นจริงว่ะ (หัวเราะ)” ปันเผย
04 Mood and Tone ทำให้นึกถึงชิบูย่า ชินจูกุ
หากกดเข้าไปในอินสตาแกรม หรือ เฟซบุ๊ก Nikupaku สิ่งที่ดึงดูดลูกค้าได้ไม่น้อย คือความโดดเด่นของสีสันกลิ่นอาย City Pop ที่แฝงอยู่ในกราฟิก
ลูกไผ่บอกว่าเธออยากให้ Nikupaku มีความโมเดิร์น สนุก และทำให้คนนึกถึงย่านชิบูย่า และชินจูกุ เพราะเป็นย่านโปรดของทั้งสามคนอยู่แล้ว โดยย่านเหล่านี้เต็มไปด้วยเสน่ห์ด้วยแสงไฟนีออนแสบสัน ผู้คนกล้าแสดงออกผ่านเครื่องแต่งกายสุดมัน การหยิบเอาเอกลักษณ์เหล่านั้นมานำเสนอใหม่ ยิ่งทำให้ฉีกกรอบร้านอาหารญี่ปุ่นตามท้องตลาดไทยที่นิยมเป็นแนว Izakaya, Traditional หรือ Luxury
“เอกลักษณ์ของญี่ปุ่นคือความกล้าเป็นตัวเองแบบสุดโต่ง เราเลยพยายามเอาจุดนั้นมาทำเป็นไอคอนของร้านเราด้วย นั่นก็คือ ‘หมวกเนื้อ’ เพราะที่ญี่ปุ่นถ้าเดินไปตามท้องถนนเราจะเห็นหมวกลักษณะต่างๆ วางขายมากมาย ทั้งหมวกภูเขาไฟฟูจิ หรือหมวกปลา เราก็เลยพยายามดึงความสนุก ปั่นๆ นี้มาด้วย จริงๆ ผมทำหมวกเนื้อเสร็จก่อนทำเนื้อขายอีก (หัวเราะ)” ปันเล่า
ลูกไผ่เสริมต่อความสนุกนี้ว่า ถ้าคิดตามไม่ออกให้ลองเปิดซีรีส์เรื่อง Kantaro: The Sweet Tooth Salaryman ใน Netflix ดู เป็นเรื่องราวของคนคนหนึ่งที่ตามหาร้านขนมในญี่ปุ่น แล้วขณะกินซีรีส์จะใส่ความเวอร์วังไว้ เช่น อร่อยจนหัวกลายเป็นถั่วดำเลย เช่นเดียวกับหมวกเนื้อ ที่อยากให้ลูกค้าอร่อยจนเนื้อขึ้นหัว
05 กินเนื้อที่ไทย ใจอยู่ญี่ปุ่น
ทั้งแพ็กเกจจิ้งที่ทางร้านตั้งใจออกแบบมาเพื่อให้คนรู้สึกว่ากำลังช้อปปิงอยู่ใจกลางซูเปอร์มาร์เก็ตญี่ปุ่นคุณภาพไทย วากิวราคาเอื้อมถึงที่ละม้ายคล้ายญี่ปุ่น หรือแม้กระทั่งการทาวาซาบิลงบนเนื้อที่คนไทยไม่ได้ทราบกันทุกคนว่าญี่ปุ่นเขากินกันแบบนี้ นั่นทำให้ไม่แปลกที่ลูกค้าหลายคนจะส่งข้อความกลับมาหลังกินว่าทำให้นึกถึงตอนไปญี่ปุ่นเลย
นอกจากนี้ Nikupaku ยังเสริมเมนูใหม่ที่เพิ่มความเป็นไทยแต่ดูญี่ปุ่นเข้าไป ด้วยเมนู ‘พะแนงเนื้อสูตรโอบะซัง’ ซึ่งเป็นสูตรของคุณยายแท้ๆ ของปัน (เจ้าของเพจ คุณยายแกะกล่อง)
“เมื่อก่อนปันเคยทำเพจคุณยายแกะกล่องที่พาคุณยายมาเล่าเรื่องต่างๆ แต่ตอนนี้ปันรับงานเยอะ ก็เลยไม่ค่อยได้ถ่ายคุณยายแล้ว แต่ทุกครั้งที่ไปบ้านคุณยาย แกมักจะทำพะแนงเนื้อสูตรพิเศษฉบับแกให้เรากิน พอเรากินติดต่อกันมาหลายๆ ปี ก็คิดว่าทำไมพะแนงบ้านเรามันอร่อยจัง ชวนเพื่อนมากินก็ติดใจ งั้นขอสูตรคุณยายมาใส่เนื้อวากิวดู คนน่าจะชอบ”
เนื้อวากิวนู่มมมๆ ที่เคี่ยวมาอย่างดีช่วยเสริมรสพะแนงที่มีเครื่องเทศคล้ายกับแกงกะหรี่ญี่ปุ่น ยิ่งเพิ่มความดีงามจนเป็นอีกหนึ่งเมนูที่อยากแนะนำ
ทุกวันนี้ ปัน ปุ่น และลูกไผ่ ยังนั่งลุ้นกันอยู่ว่ากิจการที่เปิดในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ของพวกเขาจะเป็นอย่างไรในอนาคต และยังชื่นใจทุกครั้งที่ผลตอบรับออกมาดีเกินคาด
ฝากเอ็นดู Nikupaku ด้วยนะทุกคน!
Facebook : Nikupaku
Instagram : hi.nikupaku
ร่วมแจมโปรเจกต์ Urban Guide : Survive Together เพียงส่งเรื่องราวร้านเด็ด แบรนด์ดีมาหาเราได้ที่ : http://m.me/UrbanCreatureTH
Writer
