เวลาเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์สำหรับแต่งบ้าน คุณคำนึงถึงเรื่องอะไรบ้าง ความสวยงาม ความสบาย หรือฟังก์ชั่นการใช้งาน
หรือถ้าคุณกำลังแต่งบ้านแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร เราอยากพาคุณไปรู้จักกับ ‘เหมี่ยว-พราวพรรณ เลาหพงศ์ชนะ’ ผู้ก่อตั้ง กรรมการผู้จัดการ และดีไซน์ ไดเร็คเตอร์ของ ‘Quattro Design’ ผู้จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์นำเข้า ออกแบบ และผลิตเฟอร์นิเจอร์ระดับพรีเมียม ที่ทำการตลาดในไทยจนครองใจผู้คนมานานกว่า 15 ปี
แต่การเจอเหมี่ยวครั้งนี้ถือว่าพิเศษกว่าครั้งไหนๆ เพราะเราจะได้พบกับตัวตนใหม่ของ Quattro Design หลังจากรีแบรนด์ดิ้งเป็น ‘qd’ อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของตลาดเฟอร์นิเจอร์ และทำให้ลูกค้ามีประสบการณ์การเลือกซื้อของตกแต่งบ้านที่ดียิ่งขึ้น
เพราะ qd เชื่อว่า ‘บ้าน’ ไม่ใช่เพียงที่อยู่อาศัย ‘เฟอร์นิเจอร์’ จึงไม่ใช่แค่การตกแต่งเพื่อความสวยงาม แต่ยังเป็นความสุนทรีย์ที่มีองค์ประกอบของเรื่องราว ความรู้สึก และฟังก์ชั่นที่ตอบสนองความต้องการ รวมไปถึงสะท้อน ‘ตัวตน’ ของผู้อยู่อาศัยออกมาได้ดีที่สุด
รีแบรนด์ใหม่ เข้าใจตัวตนผู้บริโภคมากขึ้น
เหมี่ยวเริ่มต้นเล่าว่า จากการอยู่ในวงการเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านภายใต้แบรนด์ Quattro Design มานานกว่า 15 ปี ทำให้เธอมองเห็นว่าผู้บริโภคมีมุมมองต่อที่อยู่อาศัยเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยเฉพาะช่วงโควิดระบาด กล่าวคือ พวกเขาหันมาให้ความสนใจและสรรหาความอยู่สบายมากยิ่งขึ้น
“ด้วยความที่ยุคสมัยและโลกเปลี่ยนไป เราเลยตัดสินใจเปลี่ยน Quattro Design ให้กระชับและเรียบง่ายขึ้น จนเกิดเป็น qd เพื่อรองรับเทรนด์ New Luxury ที่นิยามว่าคนยุคนี้ไม่ได้ต้องการแค่ความหรูหรา แต่ต้องมีเรื่องของฟังก์ชั่นการใช้งานและความสวยงามรวมอยู่ด้วย”
เพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบ New Luxury ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งาน ความสวยงาม และความหรูหรา เหมี่ยวและทีมผุดไอเดียและคิดคอนเซ็ปต์ ‘Eclectic Sensible Luxury Lifestyle’ ขึ้นมา โดยมุ่งคัดสรรเฟอร์นิเจอร์ จากสายตาของทีมดีไซเนอร์ เพื่อตอบสนองความต้องการ ที่คำนึงถึงการสร้างความรู้สึกที่ดีในทุกสัมผัส (รูป สัมผัส กลิ่น เสียง) สู่การสะท้อนตัวตนของผู้ใช้งานได้อย่างลงตัวมากยิ่งขึ้น
สร้างความแตกต่าง ผ่านสายตาดีไซเนอร์
“ที่ qd เรามีทีมดีไซเนอร์ของตัวเอง เพราะฉะนั้นเราไม่ได้ทำหน้าที่เป็นตัวกลาง ที่นำเข้าเฟอร์นิเจอร์สวยๆ มาวางไว้ในร้านอย่างเดียว แต่สินค้าทุกชิ้นยังต้องผ่านการคัดสรรโดยเหมี่ยวและทีมด้วย”
กระบวนการคัดเลือกสินค้าที่ว่า อ้างอิงจากแนวความคิด ‘4 Senses’ ที่เฟอร์นิเจอร์หนึ่งชิ้นจะต้องมีให้ครบตั้งแต่การมองเห็น การสัมผัส กลิ่น และเสียง โดยรวมกันอย่างลงตัวภายใต้ความสวยงามและฟังก์ชั่นการใช้งาน เพื่อสะท้อนความต้องการที่หลากหลาย รวมถึงสไตล์ของแต่ละคนได้อย่างเหนือระดับ
เหมี่ยวเน้นย้ำว่า แนวคิด 4 Senses นี้อยู่กับ qd ในทุกๆ ขั้นตอน ตั้งแต่การเฟ้นหาเฟอร์นิเจอร์จากโรงงานในต่างประเทศ การแต่งร้าน การให้คำแนะนำ ไปจนถึงการให้บริการหลังการขาย
“เวลาเลือกของ เราต้องบินไปดูสินค้าจริงๆ บุกไปถึงโรงงาน รวมถึงไปเดินตาม งานแฟร์ต่างๆ จากนั้นถึงจะนำเข้าสินค้ามา และสร้างเรื่องราวให้ตัวโปรดักต์ผ่านการคำนึงถึง Senses ทั้ง 4 ในการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ จนทำให้เรามีความแตกต่างจาก คนอื่น”
โดย qd ได้ทำการคัดสรรเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านที่ทุกชิ้นมีรายละเอียด และคุณค่าของเรื่องราว สะท้อนผ่าน 8 แบรนด์ชั้นนำ เพื่อตอบสนองความต้องการและสไตล์แต่ละบุคคลได้อย่างแท้จริง เหมือนมี Interior Designer ส่วนตัวที่คอยให้คำแนะนำตลอดการเลือกซื้อ
ไม่ว่าจะเป็น แบรนด์ ‘qd Selected’ เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งบ้าน ที่ qd คัดสรรมาจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งเน้นความหลากหลายและมีเอกลักษณ์ สวยงามหรูหรา ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ แบรนด์ ‘Eichholtz’ (ไอค์โฮลท์) เฟอร์นิเจอร์จากประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่เน้นภาพลักษณ์หรูหรา ‘Prizmic & Brill’ (พริซมิค แอนด์ บริล) ที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์สัญชาติอเมริกันผู้ได้รับแรงบันดาลใจจากการเดินทาง ‘101 Copenhagen’ (101 โคเปนเฮเกน) แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ Lighting และ Home Accessories สไตล์ Japandi จากเมืองโคเปนเฮเกน ‘Natūralios idejas’ (นาทูยาฮูส ซิเดฮาส) แบรนด์เทียนหอม Soy Wax และผลิตภัณฑ์เครื่องหอมออร์แกนิก ที่มีดีไซน์สวยงาม เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งหมดนี้คือตัวอย่างแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่ qd ตั้งใจคัดสรรมาเป็นอย่างดี
ส่วนใครที่เดินทางมาถึง Flagship Store แล้วยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกเฟอร์นิเจอร์ชิ้นไหนติดไม้ติดมือกลับไปดี ทาง qd เองก็มีบริการในส่วนของงานโปรเจกต์ต่างๆ แบบ ‘One-stop Design Service’ ที่จะมีทีม Designer และ Product Specialist ที่ให้คำแนะนำในการเลือกสินค้า การลงแปลน ให้เหมาะสมลงตัวได้ตั้งแต่ต้นจนจบเข้ามาซัพพอร์ตส่วนของการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์และให้คำปรึกษาตั้งแต่ต้นจนจบด้วย
มาที่เดียวครบทุกเรื่องการแต่งบ้าน
“เวลาเราเลือกซื้อเสื้อผ้า มันใส่วันนี้ พรุ่งนี้เปลี่ยนได้ แต่เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านจะอยู่กับเรานานกว่านั้น ดังนั้นการเลือกเฟอร์นิเจอร์แต่ละครั้งจึงต้องอาศัยความเข้ากันระหว่างผู้อยู่อาศัยและสิ่งของที่สูงมาก”
ในส่วนนี้เองที่เหมี่ยวบอกกับเราว่า บริการแบบ One-stop Design Service จากทาง qd จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น และเป็นอีกบริการที่สร้างความประทับใจจนมีลูกค้าหลายคนกลับมาใช้บริการอยู่บ่อยครั้ง
เพราะตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาใน ‘qd Flagship Store’ เราจะพบกับ ‘Product Specialist’ ที่พร้อมให้คำแนะนำและเสนอแนวทางการแต่งบ้านทันที นอกจากนี้ ทาง qd ยังมีดีไซเนอร์ประจำอีกมากมายที่คอยให้ความช่วยเหลือลูกค้า เพื่อดึงความต้องการและตัวตนของผู้อยู่อาศัยออกมาผ่านผลงานให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นงานประเภทออกแบบภายใน (Interior Design), เฟอร์นิเจอร์แบบสั่งทำพิเศษ (Furniture & Custom Made), การก่อสร้างแบบครบวงจร (Turnkey Construction) หรือการออกแบบของตกแต่ง (Prop Styling) เองก็ตาม
“ลูกค้าบางคนเข้ามาที่ร้านโดยที่ไม่รู้อะไรเลย เราจึงมีหน้าที่ดึงความต้องการและความสนใจของเขาออกมา เพื่อทำให้พื้นที่นั้นๆ เข้ากับตัวตนของเขาให้ได้มากที่สุด ผ่านมุมมองและสายตาของดีไซเนอร์อย่างเรา”
แต่งร้านแบบเข้าใจ ใครมากี่ครั้งก็ประทับใจ
ปัจจุบัน qd Flagship Store มีทั้งหมด 2 สาขา ได้แก่ สาขากรุงเทพฯ ที่ซอยสุขุมวิท 26 และที่ภูเก็ต โดยทั้ง 2 แห่งมีพื้นที่ประมาณ 900 ตารางเมตรที่ครบครันไปด้วยเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน รับรองว่าทุกครั้งที่แวะมาที่ร้าน ลูกค้าจะได้ประสบการณ์การแต่งบ้านในรูปแบบใหม่ๆ กลับไปทุกครั้ง
“เราบอกได้เลยว่า ของในร้านที่แม้จะเป็นของชิ้นเดียวกัน แต่พอกลับมาอีกครั้งคุณจะไม่ได้เห็นมันตั้งอยู่ตรงที่เดิมแล้ว เพราะเราจะเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ในแต่ละจุดของร้านไปเรื่อยๆ เหมือนเป็นการสร้างเรื่องราวให้กับมัน”
เหมี่ยวอธิบายเพิ่มเติมว่า แม้กระทั่งการจัดร้านในแต่ละสาขา ทาง qd ยังจัดวางสินค้าในรูปแบบที่แตกต่างออกไป โดยสาขากรุงเทพฯ จะเน้นไปที่การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน ส่วนสาขาภูเก็ตจะเพิ่มการจัดวางในรูปแบบกลางแจ้ง และส่วนของไลน์สินค้า Outdoor Furniture ขึ้นมา เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ต่างกันของทั้งสองสาขา
“กลุ่มลูกค้าของสาขากรุงเทพฯ ประมาณแปดสิบเปอร์เซ็นต์เป็นคนไทย แต่ที่ภูเก็ต เก้าสิบเปอร์เซ็นต์เป็นชาวต่างชาติ เพราะฉะนั้นแม้ตัวสินค้าจะไม่ต่างกันมาก แต่มุมมองในการจัดวางสินค้าต้องแตกต่างกัน เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคทั้งสองกลุ่ม ค่อนข้างต่างกันโดยสิ้นเชิง”
และอีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจคือ ในบรรดาลูกค้าของ qd ทั้งหมด มีจำนวนมากถึง 50 เปอร์เซ็นต์ที่เป็นลูกค้าเก่าที่ติดใจในการตกแต่งร้านและการให้บริการ จนต้องแวะเวียนกลับมาเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหม่ๆ อยู่บ่อยครั้ง
“เราให้ความสำคัญกับการจัดร้านมากๆ เห็นได้จากการจัดร้านที่ไม่ซ้ำเดิม มีการเปลี่ยนแปลงเรื่อยๆ มีสินค้าใหม่เข้ามาตลอด เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงแรงบันดาลใจและความรู้สึกของเราจริงๆ จนลูกค้าบางคนอยู่กับเรามานานเกือบสิบปี ด้วยความที่เขาอาจจะมีคอนโดฯ เพิ่ม มีบ้านหลังใหม่ที่เขาใหญ่ หรือมีการแนะนำปากต่อปากออกไปเรื่อยๆ”
มากไปกว่านั้น หลังจากที่รีแบรนด์ดิ้งเป็น qd ทางร้านยังนำเข้า Home Accessories ชิ้นเล็กๆ เช่น แจกัน หมอนอิง และผลงานศิลปะ ที่มีลายเส้นหรือโทนสีสันสดใสและน่าสนใจเข้ามา จนเกิดเป็นห้องใหม่ในคอนเซ็ปต์ ‘Dopamine Décor’ ขึ้นใน qd Flagship Store
รวมไปถึงการมี Material Library หรือโซนวัสดุอุปกรณ์ไว้ภายในร้าน เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถสัมผัสพื้นผิวและวัสดุจริงของวอลล์เปเปอร์ ผ้าม่าน รวมไปถึงสั่งทำเฟอร์นิเจอร์ประเภทตู้ Built-in ได้ตามความต้องการ โดยเลือกวัสดุจากที่นี่ได้โดยตรง พร้อมมีดีไซเนอร์ให้คำแนะนำ จนกลายเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ลูกค้าประทับใจในความใส่ใจในทุกรายละเอียดของ qd
ตอบโจทย์การใช้งานด้วยการบริการอย่างจริงใจ
“แม้ในอนาคตเราจะเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าในออนไลน์มากขึ้น แต่เรายังอยากให้หน้าร้านทั้งสองสาขาเป็นทางเลือกอันดับแรกของลูกค้าในการเข้ามาเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์สำหรับแต่งบ้าน หรือมาสำรวจดูเพื่อหาแรงบันดาลใจก่อนก็ยังได้”
เหมี่ยวเชื่อว่า การบริการที่จริงใจของ qd ที่อยากให้คำแนะนำและบริการแก่ลูกค้าแต่ละรายอย่างเต็มที่ คือจุดแข็งที่สร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ของเธอ
“เรื่องของการติดตั้งสินค้า เราเคยหาคนมายกโต๊ะหินด้วยมือเปล่าขึ้นคอนโดฯ ลูกค้าที่อยู่ชั้นสามสิบเพราะไม่สามารถยกขึ้นลิฟต์ได้ก็มีมาแล้ว ที่สำคัญ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ถ้าเฟอร์นิเจอร์มีปัญหาอะไรเราก็ยินดีให้ความช่วยเหลือลูกค้าของเราอยู่เสมอ”
ในอนาคต เหมี่ยวและ qd มีแพลนขยายธุรกิจออกไปสู่ตลาดเอเชียเพิ่มด้วย หลังจากที่อยู่ในวงการเฟอร์นิเจอร์ไทยมานานกว่า 15 ปี ทำให้เห็นลู่ทางที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตขึ้น โดยเธอตั้งใจที่จะคงคอนเซ็ปต์การเป็นแบรนด์ที่คัดเลือกเฟอร์นิเจอร์และ ของตกแต่งบ้านจากมุมมองของดีไซเนอร์ รวมถึงเดินหน้ายกระดับบริการ One-stop Design Service และยังคงย้ำจุดยืน ‘Less is More’ หรือ ‘น้อยแต่มาก’ เพราะสินค้าทุกชิ้นล้วนผ่านกระบวนการคิดให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างเหมาะสมที่สุด ทั้งในเรื่องของความสวยงามและฟังก์ชั่นการใช้งาน
“เวลาเราทำงานดีไซน์มันเหมือนจะน้อยแต่มาก เพราะในคำว่าน้อย ทุกอย่างมันผ่านกระบวนการความคิดและการคัดสรรที่ดีมาหมดแล้ว” ผู้ก่อตั้ง qd ทิ้งท้าย
มาร่วมค้นหาสไตล์ที่เป็นตัวตนของคุณ ผ่านประสบการณ์การดีไซน์ที่อยู่อาศัยด้วยเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน จากการออกแบบและแนวคิดของดีไซเนอร์ได้ที่ qd Flagship Store สาขาสุขุมวิท 26 และสาขาภูเก็ต หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ www.quattro-design.com พร้อมรับสิทธิพิเศษส่วนลดสูงสุดถึง 40 เปอร์เซ็นต์ เมื่อแอดไลน์ @QuattroDesign และช้อปสินค้า qd outlet ลดสูงสุดถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ภายในเดือนนี้
Writer
