ถ้าเปิดบทสนทนาเกี่ยวกับเทคโนโลยี เรื่องที่ทำให้หลายคนตื่นเต้นอาจจะเป็น นวัตกรรมยานยนตร์และพาหนะที่ดูล้ำสมัยขึ้นเรื่อยๆ หรือถ้าใครเป็นสายรักษ์โลกก็คงพูดถึงพลังงานสะอาด คนที่ซีเรียสหน่อยอาจจะพูดเรื่อง Big Data, IoT และ Digital Tranfomation อีกมากมาย ส่วนพวกดูหนังเยอะก็อาจจะพาคุณไปในโลกที่ฟังดูแล้วจะเหมือนอยู่ในภาพยนตร์เรื่อง Tron: Legacy กันเลยทีเดียว
แต่ก่อนที่เราจะพูดถึงเรื่องหัวข้อใหญ่ๆ เหล่านั้น สิ่งที่เทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเรานั้นไม่ได้เกิดขึ้นแต่ในระดับใหญ่ๆ ประเภทเปลี่ยนแบบหน้ามือเป็นหลังมือ เห็นแล้วร้อง ว้าว! แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะแม้แต่ 1 ในปัจจัย 4 อย่าง “เสื้อผ้า” เอง ก็กำลังเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน และถึงแม้คุณอาจจะไม่ได้สังเกตุเห็น มันก็เป็นการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ไม่แพ้เรื่องอื่น
ลองจินตนาการดูสิว่าจะเป็นอย่างไร หากว่าเสื้อที่คุณใส่ในวันที่อากาศร้อนเหลือเกินมีระบบระบายอากาศในตัว หรือถ้าวันไหนเกิดโก๊ะจนทำกาแฟหก แต่เสื้อตัวเก่งกลับไม่เป็นอะไร เพราะทำจากวัสดุที่น้ำไม่เกาะและไม่ซึม ฟังดูแล้วอาจจะเหมือนกำลังอยู่ในนิยายวิทยาศาสตร์ แต่อย่างที่บอกไปข้างต้น อุตสาหกรรมเสื้อผ้ากำลังนำเทคโนโลยีเข้ามาสู่กระบวนการผลิตมากขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ คอตตอน ยูเอสเอ (COTTON USA™) องค์กรโปรโมทเส้นใยฝ้ายสหรัฐอเมริกาในประเทศไทย จัดนิทรรศการ WHAT’S NEW IN COTTON USA™ เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนได้รู้จักกับนวัตกรรมต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นบนตัวเราในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านั่นเอง
แน่นอนว่าโครงการใหญ่ขนาดนี้ ทาง คอตตอน ยูเอสเอ (COTTON USA™) จึงต้องระดมกำลังจากแบรนด์เครื่องแต่งกายชั้นนำ ซึ่งต่างก็ได้นำเอาเทคโนโลยีของตัวเองเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ด้วยเช่นกันโดยแต่ละแบรนด์ที่เข้ามาร่วมด้วยช่วยกันต่างก็เป็นอันดับต้นๆ ของวงการด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น “JOCKEY” แบรนด์ชุดชั้นในและชุดลำลองที่ขึ้นชื่อเรื่องความสบายของเสื้อผ้า พวกเขาได้ใช้นวัตกรรมอาร์แกน ออยล์ (Argan Oil) โดยนําน้ํามันอาร์แกน น้ํามันบริสุทธิ์จากโมร็อคโค ที่ประกอบไปด้วยกรดไขมัน และวิตามินที่มีประโยชน์มาผสมผสานกับผ้าฝ้ายจากสหรัฐอเมริกา ทําให้ชุดชั้นในสามารถมอบความชุ่มชื้นกับผิว และทําให้เนื้อผ้ามีสัมผัสที่อ่อนนุ่ม
ต่อมาคือ “Hush Puppies” ที่หลายๆ คนอาจจะคุ้นเคยกับรองเท้าของพวกเขามากกว่า แต่พวกเขาก็ไม่ยอมน้อยหน้า เพราะเอาไม้เด็ดอย่าง เทคโนโลยีซูเปอร์ แคร์ (Super Care) ที่ใช้ส่วนผสมจากสารสกัดคอลลาเจนบนผ้าฝ้ายทําให้เนื้อผ้ามีสัมผัสที่นุ่มลื่น นอกจากจะเป็นเครื่องแต่งกายแล้ว ยังทำหน้าที่เหมือนเครื่องสำอางนิดๆ เพราะสารสกัดนี้จะช่วยคงความชุ่มชื่นให้กับผิว และยังสามารถช่วยป้องกันรังสี UV ได้อีกด้วย
สําหรับ “John Henry” ซึ่งขึ้นชื่ออยู่แล้วกับ Casual Look ของคุณผู้ชาย มาพร้อมกับเทคโนโลยีดีโอกรีน (DEOGREEN) ซึ่งเป็นประโยชน์มากกับเสื้อผ้าแบบ Everyday Look เพราะเทคโนโลยีนี้จะช่วยยับยั้งแบคทีเรีย และกําจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ที่อาจเกิดกับเสื้อผ้าที่ถูกใช้งานบ่อยๆ
เดี๋ยวจะหาว่าลำเอียง มีแต่แบรนด์จากฝั่งอเมริกัน จริงๆ แล้วไม่ใช่อย่างนั้น เพราะ “GUNZE BODY WILD” แบรนด์ชั้นในสุดฮิตจากญี่ปุ่นก็เข้าร่วมด้วยเช่นกัน โดยพวกเขาใช้เทคโนโลยีคัท-ออฟ (CUT-OFF®) ซึ่งแสดงตัวตนความเป็นญี่ปุ่นอย่างเต็มที่ เพราะมันคือเทคโนโลยีไร้ตะเข็บที่ผู้สวมใส่สามารถ ตัดความยาว ของแขน ลําตัว หรือความกว้างลึกของคอเสื้อได้ตามที่ต้องการโดยที่เนื้อผ้าจะไม่ม้วน หรือ หลุดลุ่ย อีกทั้งยังสามารถคงความนุ่มไม่หยาบกระด้างของเนื้อผ้าแม้ผ่านการซักมากกว่า 25 ครั้ง
ในขณะที่ “FROLINA” แบรนด์ผ้าขนหนูก็มาพร้อมกับเทคโนโลยีนาโนเพิร์ล (NANO PEARL) ที่ผสมผงไข่มุกลงบนเส้นด้าย มีคุณสมบัติช่วยประทินผิว ให้สัมผัสที่นุ่มนวล ละมุนผิว พร้อมซึมซับและระบายน้ําได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งแน่นอนว่าแบรนด์ที่ต้องทำผ้าชนิดเปียกน้ำบ่อยๆ อย่าง FROLINA เชี่ยวชาญอยู่แล้ว
นอกจากจะมีการแสดงเทคโนโลยีของแต่ละแบรนด์แล้ว คอตตอน ยูเอสเอ (COTTON USA™) ก็ยังขนเอานวัตกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผ้าฝ้าย ยกตัวอย่างเช่น ZERO-D ซึ่งเป็นนวัตกรรมการพิมพ์ลายเสื้อ Digital แบบที่ไม่ก่อให้เกิดผลเสียกับสิ่งแวดล้อม หรือ Life Natural ที่ช่วยควบคุมแบคทีเรีย ลดปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์บนเสื้อผ้าได้แบบเด็ดขาด เป็นต้น
แน่นอนว่าไม่ได้มีเพียงแค่นี้ สำหรับนวัตกรรมน่าสนใจต่างๆ ถ้าใครสนใจว่าเสื้อผ้าของเราจะเปลี่ยนแปลงหน้าตาไปขนาดไหนในอีกสิบปีข้างหน้า สามารถมาชมนิทรรศการ WHAT’S NEW IN COTTON™ พร้อมกับสามารถมาช้อปปิ้งสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมพิเศษได้ที่ COTTON USA™ WHAT’S NEW IN COTTON™ POP-UP STORE ณ ลานบีคอน (Beacon) ชั้นหนึ่ง ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งแต่วันที่ 12 – 25 กันยายน 2561 นี่ก็ว่าจะไปเดินดู เผื่อมีเสื้อที่ใส่แล้วเขาจะตอบไลน์เร็วๆ บ้าง ใครไปก็เจอกันนะ