นับตั้งแต่เริ่มทำงานในฐานะนักแสดงมา 14 ปี นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ไปเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ เราไปในฐานะนักแสดงของ ‘Mongrel’ ภาพยนตร์ร่วมทุนระหว่างไต้หวัน สิงคโปร์ และฝรั่งเศส ที่ได้รับเลือกเข้าฉายในสาย Directors’ Fortnight ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ในปี 2024 นี้
มองเมือง
เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส มีลักษณะและองค์ประกอบคล้ายๆ กับหัวหินของไทย เป็นเมืองพักผ่อนตากอากาศริมทะเลที่ค่าครองชีพค่อนข้างสูง ริมหาดเต็มไปด้วยร้านระดับหรูเรียงราย ในเดือนพฤษภาคมของทุกปีจะมีเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์จัดขึ้น แล้วบรรยากาศของเมืองก็ถูกเปลี่ยนเป็นเมืองแห่งภาพยนตร์
มองเทศกาล
เทศกาลนี้คือพื้นที่ของคนรักหนังของจริง รอบเมืองมีพื้นที่ให้ดูหนังเยอะมาก มีที่ฉายหนังในสายประกวด ฉายหนังกลางแจ้ง โรงหนังบางส่วนอยู่รอบนอกเมือง ต้องเดินทางไปด้วยรถเมล์ มีตลาดซื้อขายหนังที่เปิดให้ประเทศต่างๆ นำหนังมาขาย เพื่อให้ตัวแทนเลือกซื้อไปฉาย ถ้าเห็นใครมีป้ายชื่อคล้องคอเดินอยู่ในเมือง จะรู้เลยว่ามาเข้าร่วมเทศกาล
นอกจากการร่วมกิจกรรมกับหนังที่เราแสดง วันวันหนึ่งเราจะไปดูหนังอย่างเดียว ดูมากสุดเกือบ 10 เรื่องต่อวัน บางทีตื่นมาจองตั๋วตั้งแต่เจ็ดโมง ออกไปดูหนังแปดโมงครึ่ง ดูรอบสุดท้ายห้าทุ่ม กลับตีสอง เป็นเทศกาลที่ดูหนังแบบบ้าคลั่งมาก
พื้นที่หลักของเทศกาลที่เราคุ้นชินคือพรมแดง เป็นทางเข้าโรงภาพยนตร์หลัก ตรงนี้จะมีช่างภาพมากมายมาถ่ายภาพคนในช่วงที่หนังฉายรอบ Premiere หรือฉายหนังรอบแรก นอกเหนือจากทีมงานทำงานหนัง คนดูหนังทั่วไปก็เดินเข้าโรงผ่านพรมแดงเหมือนกัน เพียงแต่ทีมงานทำหนังจะได้รับอนุญาตให้เดินตรงกลาง รวมถึงคนที่ถูกเชิญจากสปอนเซอร์ ส่วนคนอื่นๆ ที่มาดูหนังก็จะเดินทางซ้ายขวาของทางเข้า และบางเวลาของวันก็อาจเดินเข้าตรงกลางได้เหมือนเป็นแค่ทางเข้าปกติ
พรมแดงคือพื้นที่ที่สง่างาม และเป็นแค่ทางเข้าธรรมดาในเวลาเดียวกัน
นอกจากการฉายหนัง เทศกาลก็มีโปรแกรมพัฒนาความสามารถคนทำหนังด้วย เช่น ‘The Residence’ ที่ผู้กำกับหนังที่เราแสดงก็อยู่ในโครงการนี้ด้วย โปรแกรม ‘La Fabrique Cinema’ ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบนิเวศอุตสาหกรรมหนังแบบครบวงจรและแบบข้ามพรมแดน
ในงานนี้มีคนไทยมาร่วมด้วย เช่น พี่มน-ปฐมพล เทศประทีป ผู้กำกับ และ พี่บี๋-คัทลียา เผ่าศรีเจริญ โปรดิวเซอร์ ทั้ง 2 ท่านได้รับเลือกให้เข้าร่วมโปรแกรม La Fabrique Cinema 2024 กับโปรเจกต์ Tremble like a Flower
แต่น่าเสียดายหน่อย เพราะหน่วยงานภาครัฐที่มาเปิด Pavilion ในงาน ไม่ได้โปรโมตเท่าที่ควรว่าบุคลากรจากไทยที่ไปงานปีนี้มีใครบ้าง ไปในฐานะอะไร คงจะดีถ้าประเทศเรามีการสนับสนุนจริงจัง เพื่อให้คนมีความสามารถไปได้ไกลกว่าเดิม
หรือที่จริงแล้วภาพของเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ของเรากับเขานั้นต่างกัน