กว่า 1 ปีที่คนไทยต้องสูญเสียกษัตริย์อันทรงเป็นที่รักยิ่ง ความทุกข์นั้นยังคงเป็นสิ่งที่ยากจะพ้นผ่าน แต่ในความเศร้าหมองที่ปกคลุมประเทศไทย เรามองเห็นความรักและศรัทธาที่มิได้สูญหาย พ่อยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้ลูกเสมอไม่ว่าอาชีพอะไร รวมถึงคนในวงการแฟชั่นอย่าง ‘ประภากาศ อังศุสิงห์’ ดีไซเนอร์แบรนด์ Hook’s ที่ตั้งใจสร้างสรรค์คอลเลกชัน ‘Ayara in ๙’ ถ่ายทอดความทรงจำที่มีต่อในหลวง เพื่อน้อมรำลึกถึงพระองค์และส่งเสด็จสู่สวรรคาลัยเป็นครั้งสุดท้าย
“นี่คืออาชีพที่ลูกรักและสามารถทำได้ดีที่สุด วันนี้ลูกขอทำหน้าที่เล่าเรื่องของพ่อ”
งานแฟชั่นโชว์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย Elle Fashion Week Fall/Winter 2017 ปีนี้ถูกพูดถึงและแชร์กันกว้างขวาง โดยเฉพาะโชว์ครบรอบ 10 ปีของ Hook’s ที่นอกจากการออกแบบสุดวิจิตร ยังบอกเล่าเรื่องราวของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้ตระการตาและน่าประทับใจ ผ่านการตัดเย็บอย่างปราณีตทั้งสิ้น 40 ชุด แบ่งการแสดงออกเป็น 9 องก์ เรียงร้อยพระราชประวัติตั้งแต่ทรงพระเยาว์ พระราชกรณียกิจ และพระปรีชาสามารถในงานศิลปะ จวบจนวันที่พระองค์สวรรคต สอดแทรกพระราชดำรัส ทั้งยังแสดงให้เห็นว่าทุกคนสามารถเป็นลูกที่ดีของพ่อได้ ดั่งนิยาม “ช้างเผือก” ในองก์ปิดท้ายที่ซึ้งกินใจจนหลายคนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
องก์ ๑ : วันวาน
เค้าโครงชุดไทยสมัยก่อนบนลวดลายพิมพ์ธนบัตรไทย ได้แรงบันดาลใจมาจากพิธีโสกันต์ (โกนจุก) ของพระราชโอรสหรือพระราชธิดาในพระเจ้าแผ่นดินและเจ้านายระดับพระองค์เจ้าขึ้นไป ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของการก้าวข้ามสู่วัยผู้ใหญ่ แต่ปัจจุบันไม่นิยมให้เจ้านายองค์น้อยๆไม่ว่าจะเป็นพระเจ้าลูกเธอจนถึงหม่อมเจ้าไว้จุกกันอีกแล้ว พระราชพิธีโบราณนี้จึงควรค่าแก่การอนุรักษ์เพราะแสดงให้เห็นประเพณีอันงดงามของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย
องก์ ๒ : วันนั้นคือคำสัญญา
ในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล เสด็จสวรรคต คณะรัฐบาลจึงกราบบังคมทูลเชิญ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จขึ้นครองราชสมบัติสืบราชสันตติวงศ์ แต่เนื่องจากพระองค์ต้องเสด็จพระราชดำเนินกลับไปทรงศึกษาต่อที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์จึงทรงอำลาประชาชน ขณะประทับรถยนตร์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง มีราษฎรส่งเสียงขึ้นมาว่า “อย่าละทิ้งประชาชน” จึงทรงนึกตอบในพระราชหฤทัยว่า “หากประชาชนไม่ทอดทิ้งเราเราจะทอดทิ้งประชาชนได้อย่างไร” ระหว่างที่ประทับศึกษาอยู่ในต่างประเทศนั้นทรงพบรักกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร การออกแบบในองก์ 2 นี้จึงได้แรงบันดาลใจจากฉลองพระองค์สไตล์ตะวันตก นำมาผสมผสานกับลวดลายแสตมป์
องก์ ๓ : รอยยิ้มของพ่อ
ขวัญกำลังใจที่สำคัญที่สุดคงเป็นผู้ใดเสียมิได้นอกจาก “รอยยิ้มของพ่อ” ภายหลังการฉลองพระราชพิธีทรงหมั้น ข่าวใหญ่ก็ปรากฏบนหน้าหนังสือพิมพ์ทุกฉบับในประเทศอังกฤษว่า กษัตริย์ไทยทรงหมั้นธิดาเอกอัครราชทูตไทยในกรุงลอนดอน หม่อมราชวงศ์หญิงสิริกิติ์ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันยังเด็กมากและไม่เคยมีความรักมาก่อน มันทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้นเหมือนกัน” กระทั่งวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2493 ก็เป็นวันพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส
ในองก์นี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากฉลองพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ อันสง่างาม พระองค์ทรงได้รับการจัดอันดับเป็นสตรีที่แต่งพระองค์งามที่สุดในโลก และทรงเล็งเห็นโอกาสในการส่งเสริมผ้าไหมไทยให้เป็นที่ประจักษ์แก่ชาวโลก ผ่านฉลองพระองค์ขณะตามเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เยือนยุโรปและสหรัฐอเมริกา โดยประยุกต์ความเป็นไทยเข้ากับสากลจนเป็นที่กล่าวขวัญในสื่อต่างประเทศ
องก์ ๔ : พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ในวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2493 เป็นวันสถาปนาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์อย่างสมบูรณ์ พระองค์ทรงมีพระปฐมบรมราชโองการว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” โดยทรงยึดถือทศพิธราชธรรมตลอดการครองราชย์ พระองค์ยังทรงดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย และทรงเป็นขวัญกำลังใจของทหารทุกหมู่เหล่า องก์นี้จึงสื่อถึงชุดของกองทหารรักษาพระองค์ที่มีความเข้มแข็งและจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์
องก์ ๕ : แน่วแน่ในบวรพุทธศาสนา
นอกจากครองราชย์ด้วยธรรมของราชา พระองค์ยังทรงปฏิบัติยึดมั่นอยู่ในหลักของพระพุทธศาสนา โดยเสด็จออกผนวชระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน พ.ศ.2499 และทรงน้อมนำหลักศาสนามาอยู่ในพระบรมราโชวาทและพระดำรัสเสมอ ความตอนหนึ่งในพระบรมราโชวาทพระราชทานแก่พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย “พระพุทธศาสนาแสดงความจริงของชีวิต มีวิธีการสั่งสอนที่ยึดหลักเหตุและผลว่า ทุกสิ่งเกิดจากเหตุ ผู้ใดประกอบเหตุอย่างไรก็ย่อมได้ผลอย่างนั้น”
องก์ ๖ : ไม่ว่าวันไหน
พระองค์ทรงเป็นอัครศิลปินที่เปี่ยมพระปรีชาสามารถ ทั้งในด้านดนตรีไปจนถึงงานจิตรกรรม ในองก์นี้ได้แรงบันดาลใจจากภาพวาดฝีพระหัตถ์สีน้ำมันที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นในช่วงหลัง มีโทนสีฉูดฉาดลักษณะเป็นนามธรรม ส่วนเครื่องประดับศีรษะออกแบบเป็นตัวโน๊ตแทนบทเพลงพระราชนิพนธ์ โดยแนวเพลงที่พระองค์สนใจคือดนตรีแจ๊สท่วงทำนองสนุกสนาน เสมือนเป็นสิ่งที่ช่วยปลอบประโลมชาวไทยให้คลายความโศกในช่วงเวลาที่ทำใจได้ยากลำบากนี้ได้
องก์ ๗ : ทุกวัน ทุกเวลา
นับเป็นเวลากว่า 70 ปีที่พระองค์ทรงงานโดยมิได้ว่างเว้น เสด็จเยี่ยมเยียนประชาชนทั่วทุกภาคในประเทศ แม้จะเป็นถิ่นทุรกันดาร ท่านก็ไม่ทรงย่อท้อ พัฒนาที่ดินแห้งแล้งให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ ช่วยเหลือประชาชนที่ตกทุกข์ได้ยาก โครงการหลวงแห่งแรกได้แก่ “ดอยอ่างขาง” จังหวัดเชียงใหม่ พระองค์มีพระราชประสงค์ให้ชาวไทยภูเขาเลิกปลูกฝิ่น ทำไร่เลื่อนลอย และทรงสอนให้ปลูกพืชผักผลไม้เมืองหนาว ในองก์นี้ได้แรงบันดาลใจจากชุดชาวเขาเผ่าต่างๆ และความใสบริสุทธิ์ของเด็กชาวเขาที่ทำให้คนดูรู้สึกอบอุ่นใจไปด้วย
องก์ ๘ : จากวันนั้น ถึงวันนี้
13 ตุลาคม พ.ศ.2559 วันที่คนไทยทั้งประเทศหัวใจสลาย เป็นวันแห่งความโศกเศร้าอาดูรของพสกนิกรไทยทั่วแผ่นดิน ในองก์นี้ถ่ายทอดความรู้สึกออกมาเป็นชุดโทนสีดำทั้งหมด เมคอัพเป็นหยาดน้ำตา บรรยากาศเป็นไปด้วยความอาลัยอาวรณ์ซึ่งนางแบบ รวมถึงคนดูเองก็ยากจะกลั้นน้ำตา เป็นองก์ที่สะท้อนให้เห็นความรัก ความอาลัยอาวรณ์ และความคิดถึงอย่างสุดซึ้งที่เราทุกคนมีต่อพระองค์ท่าน
องก์ ๙ : วันพรุ่งนี้ และตลอดไป
ในองก์นี้เป็นเสื้อผ้าโทนสีขาวบริสุทธิ์ มีการนำ “ช้างเผือก” มาเป็นสัญลักษณ์แทนคุณความดี ซึ่งเป็นความเชื่อกันมาแต่โบราณว่า ช้างเผือกเป็นเครื่องเชิดชูเกียรติประดับบารมีของพระมหากษัตริย์ มีศักดิ์สูงเทียบชั้นเจ้าฟ้า เป็นการจบโชว์ที่น่าประทับใจ ทั้งยังฝากคติเตือนใจให้เราหมั่นทำดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่พ่อหลวง “เราทุกคนสามารถเป็นผู้สูงค่าเยี่ยงช้างเผือก เพียงเลือกปฏิบัติดี ประพฤติดี สร้างคุณ สร้างประโยชน์แก่ผู้อื่นและประเทศชาติ ยึดมั่นคำสอนของพ่อและจักปฏิบัติตลอดสืบไป”
Photo Credit:
Elle Thailand: http://www.ellethailand.com/signature/hooks-efwfw17/
WINNIEVINZENCE: https://www.facebook.com/pg/winnievinzence.studio/photos/?ta b=album&album_id=1447276652022 820
Shuar Swt, MD Walking on the air: https://www.facebook.com/pg/md walkingonair/photos/?tab=album &album_id=1522939854459286
Viewzfinder: https://www.facebook.com/viewzfinder/posts/10211509480427259