คุณเคยได้ยินเรื่องราวอันโด่งดังของนางเงือกสาวที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อความรัก แต่สุดท้ายกลับไม่สมหวังจนทำให้เกิดเป็นตำนานที่น่าเศร้าใจขึ้นเมื่อเธอตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเองและกลายไปเป็นฟองล่องลอยหายไปในทะเลบ้างไหม? มันคือเรื่องเดียวกันกับที่ Walt disney นำมาทำเป็นการ์ตูนเพียงแต่เปลี่ยนจุดจบให้นางเงือกได้สมหวัง และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จริงๆแล้วจุดกำเนิดของเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่เมืองเล็กๆอันมีเสน่ห์แห่งนี้ โดยฝีมือการประพันธ์ของ ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์สัน ชาวเด็นมาร์ค ยอดนักเขียนนวนิยายสำหรับเด็ก ด้วยบรรยากาศรอบๆของเมือง ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใครๆก็พากันหลงรักเมื่อได้มาเยือน
วันนี้กี่ได้มีโอกาสมาใช้ชีวิต 24 ชั่วโมงที่นี่ บอกเลยว่าไม่ยอมพลาดที่จะนอนคุดคู้ซ่อมเซลล์อยู่แต่ในห้องโรงแรมแน่ๆ (เอ..แต่คิดอีกที ขอนอนชาร์ตพลังสัก 2-3 ชั่วโมงดีกว่า บินหง่อมมาทั้งคืนแล้วกับ 10 ชั่วโมงสุดหรรษาทำเอากี่น้อยอ่วมอยู่เหมือนกัน)
ตื่นแล้วค่ะ วันนี้กี่นัดน้องๆรุ่นใหม่ไฟแรงไว้ (ถ้าเรียกให้ถูกก็.. ขอตามเขาไปนั่นแหละค่ะ อาศัยว่าเอาความบ้าๆบอๆตีเนียนกะเค้าไป ก็แหม่…อายุอานามเราก็ห่างกันแค่รอบเดียวเท่านั้นเอง เรามันเด็กกลางเก่ากลางใหม่ ถ้าไม่ไปกับน้องๆรุ่นเดอะๆเค้าก็ไม่ออกไปไหนกันแล้วค่ะ) วันนี้น้องๆจะพาป้ากี่ไปร้านเฟอร์นิเจอร์ชื่อ Normann โอ่ววว ไม่ค่ะ เราไม่ได้ไปซื้ออะไร แต่ที่นี่เค้าเก๋ตรงที่ เค้ามักจะจัด exhibition เก๋ๆให้คนได้เข้าชมอยู่เสมอ อย่างช่วงก่อนหน้า เค้าจัดห้องทั้งหมดให้เป็นสีชมพู ซึ่งน่ารักมากๆ ส่วนตอนที่เรามาถึงนี้เค้ารังสรรค์ห้องทั้งหมดให้กลายเป็นสีทองค่ะ ตอนเห็นนี่ก็ทำทึ่งอยู่ไม่น้อยเลย
เราแช่อยู่ที่นี่กันนานมว้าาาาาาาาาาาก กะว่าเอาให้คุ้มกับค่ารถที่นั่งมา บอกตามตรงนะคะ ทางไม่ได้ไกลไปกว่าพระราม 4 ไปสะพานสาทรเลย แต่มิเตอร์เค้าขึ้นตามลมหายใจค่ะ ฟืดเข้าก็หมุน ฟืดออกก็หมุน เบ็ดเสร็จก็ 1,000 บาทเห็นจะได้ค่ะ รถไม่มีติดสักนิดเพราะคนที่นี่นิยมจักรยานค่ะ ต่อจากร้านเฟอร์นิเจอร์สุดเก๋ เราก็มาที่ร้านหนังสือน่ารักๆข้างๆค่ะ เราเจอกันโดยบังเอิญแต่น่าเสียดายที่ร้านปิดซะแล้ว ปิดเร็วมากๆ เลยได้แต่ชะเง้อมอง
จากนั้นเราก็ตัดสินใจไปต่อกันแถวย่าน Nyhavn เพื่อไปดูบ้านสีๆที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองเลยก็ว่าได้ค่ะ เราเปิดอากู๋ดูแผนที่การเดินทางกันดิบดี แต่จบไม่ดีตรงเราหลงทางค่ะ
รสชาติของชีวิตมันเริ่มต้นตรงนี้ นั่งรถไปได้สักระยะพร้อมกับ google map ในมือ คุณพระคุณเจ้าเห็นจุดที่เราอยู่มันเลื่อนห่างจากจุดหมายออกไปทุกที…ทุกที เราก็ไม่รอช้ารีบไปฟุดฟิดโฟฟายกับขุ่นพี่คนขับ ขุ่นพี่ก็บอกว่า ที่ๆเราจะไป เค้าไม่ได้ผ่าน แล้วเค้าก็จอดให้เราลงค่ะ น่ารักเป็นที่สุดเลย แต่ทางที่เราจะไปก็ไกลขึ้นกว่าเดิม
มาถึงตรงนี้ พระอาทิตย์ก็ใกล้จะลับฟ้าแล้ว (แต่ก็ถือเป็นเรื่องดีนะคะ เพราะการเดิน ทำให้เราได้เห็นอะไรมากมายเลยจริงๆ ) ค่ารถขนาดนี้เข้าใจเลยว่าทำไมคนที่นี่ถึงนิยมขี่จักรยาน
มาถึงตอนนี้ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้วนับตั้งแต่ตื่น ท้องเริ่มร้อง เจออะไรขายก็กินล่ะค่ะ เราได้ฮอทด็อกมาคนละอัน เดินกินไปเพื่อย่นเวลาจะได้ไปถึง Nyhavn ได้ทันท่วงที
ฟ้าใกล้มืดแล้ว หนทางยังอีกยาวไกล ไหนจะแวะช็อปกันตามร้านรวงอีก
อากาศก็เริ่มจะเย็นเฉียบจับใจ
โอยยย… มีฮอทด็อกอุ่นๆในมือสักอันมันก็เติมพลังขึ้นมาได้หน่อย ฮึบ ฮึบ!
แล้วสุดท้ายเราก็ทำสำเร็จ… ฮูเร่!
เป็นไงกันบ้างคะ สีสันของบ้านแต่ละหลังมองไปก็เพลินไป
ที่นี่มีเรือนั่งล่องไปตามจุดสำคัญต่างๆของเมืองด้วยนะคะ ส่วนใหญ่แล้ว ก็อยู่ริมน้ำกันนั่นแหละ อย่างเป็นต้นรูปปั้นของสาวเงือกที่กี่ได้กล่าวทิ้งไว้ข้างต้น ยังไม่มีรูปให้ดูนะคะเพราะพี่กี่ไปตรงจุดนี้ไม่ทันจริงๆ
และที่สำคัญ เรือยังขับผ่านบริเวณที่เรียกว่า nude beach ด้วยนะคะ หึหึหึ… ไม่ค่ะ ไม่… ตอนนี้ไม่มีใครมานู๊ดให้ดูหรอก ต้องรอหน้าร้อนนู่นค่ะ มันจะเพลินตาอยู่ไม่น้อย แต่เราก็ต้องเหล่ๆอย่างมีมารยาทด้วยนะคะ โหะโหะโหะ… ถ่ายรุปเล่นได้สักพัก ฟ้าก็มืดพอดี ตอนนี้เราก็ถึงเวลาต้องกลับ รร. แล้วค่ะ คือขาทั้ง2ข้างมันหนาวและล้าจนไร้ความรู้สึกไปแล้วค่ะระหว่างทางกลับโรงแรม เราเดินผ่านย่าน free town ย่านนี้เป็นย่านที่ค่อนข้างเปิดเสรีให้ผู้คนได้มาสูบกัญชาอย่างเปิดเผย ไม่ผิดกฏหมายค่ะ ระหว่างที่เดินอยู่นั้นเราก็ได้กลิ่นของกัญชากันตลอดทาง
แล้วกลิ่นนี้ก็พาเรามาหยุดอยุ่ที่หน้าทางเข้าของสถานที่แห่งหนึ่ง ลักษณะคล้ายทางเข้าสวนสาธารณะ ด้านหน้าเขียนว่า Kidsania โอ้โห ช่างแตกต่างจาก Kidsania ของบ้านเราลิบลับ คือไม่มีของเล่นอะไรเลยแต่หรรษากว่ามากกกกก แบบว่าจินตนาการไร้ขีดจำกัดกันเลยทีเดียว ทางเราก็อยากสำรวจแต่ก็กล้าๆกลัวๆ จนเห็นว่ามีพ่อแม่เข็นรถลูกเด็กเล็กแดงเดินกันเข้าไปเป็นขบวน เราเลยเดิมตามเข้าไปค่ะ
ที่นี่ห้ามถ่ายรูป กี่เลยไม่มีรูปมาฝากผู้อ่าน แต่ว่ามีลายแทงนะคะ เผื่อใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวที่เมืองนี้ก็ขอกันมาได้ 55555 ค่ะเราก็เดินวนๆอยู่พักนึง ถึงอะไรๆมันจะเย้ายวนชวนให้เข้าไปหา เราก็จำเป็นต้องหลับๆตาเดินผ่านไปค่ะ เพราะว่าเดี๋ยวอีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว พวกเราต้องทำไฟลท์กลับกรุงเทพฯกัน เกรงว่าถ้าเราปล่อยใจไหลไป อาจได้ส่งยิ้มเยิ้มๆให้คุณผู้โดยสารเป็นแน่ วันนี้พี่กี่คงต้องขอจบทริป 24 ชั่วโมงไปแบบซอมบี้ราตรีสวัสดิ์น้าผู้อ่านทุกโคนนนน แล้วพบกันใหม่ฉบับหน้าค่ะ