ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัย บ้าน คือสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์มาโดยตลอด ทุกคนล้วนมีที่พักพิง ทุกคนล้วนมีที่ให้ความอบอุ่นใจ และนั่นคือสิ่งที่บ้านได้ทำหน้าที่ของมันอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งในขณะที่ผู้อยู่อาศัยเติบโตไปตามโลกที่เปลี่ยนผ่าน ตัวบ้านเองก็ต้องปรับตัวให้เข้าใจโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว และไม่หยุดพัฒนาให้ก้าวทันไลฟ์สไตล์ของมนุษย์
บ้านยุคก่อน ผู้อยู่อาศัยต้องเป็นฝ่ายเข้าใจบ้าน
ถ้าจะบอกว่า ‘บ้านต้องเข้าใจผู้อยู่อาศัย’ คงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่สิ่งปลูกสร้างจะสามารถทำได้ เพราะถ้าลองย้อนกลับไปราว 10 ปี เรามองบ้านเป็นเพียงแค่ที่อยู่อาศัย หน้าที่ของแต่ละห้องภายในบ้านก็มีฟังก์ชันตามชื่อเรียก อย่างห้องนอนมีไว้นอน ห้องครัวมีไว้ทำอาหาร หรือห้องนั่งเล่นก็นานทีปีหนกว่าทุกคนจะมีเวลามารวมตัวกัน ทำให้ความสัมพันธ์ของสมาชิกภายในบ้านอาจไม่ได้แน่นแฟ้นเท่าที่ควร
ในแง่ความปลอดภัย ผู้อยู่อาศัยก็ต้องละเอียดถี่ถ้วนอย่างมาก เพราะเราคงไม่มีเวลามานั่งระแวดระวังความปลอดภัย และตรวจตราทุกซอกทุกมุมของบ้าน ทำให้ดีไซน์ของบ้านส่วนใหญ่จึงเป็นแบบรั้วรอบขอบชิด ซึ่งส่งผลถึงความสัมพันธ์กับบ้านใกล้เรือนเคียง ท้ายที่สุดแล้วคนในบ้านเองต้องเป็นผู้ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง รวมถึงเติมแต่งที่อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์ทุกชีวิตในครอบครัว ไม่เช่นนั้นแล้วบ้านอันเป็นสถานที่อันแสนอบอุ่นคงต้องเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา
กาลเวลาเปลี่ยนผ่าน ได้ผสานเทคโนโลยี บ้าน และผู้อยู่อาศัย
ก้าวสู่ศตวรรษที่ 21 เทคโนโลยีก้าวกระโดดไปอย่างรวดเร็ว และได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตของมนุษย์ ทั้งยังมีบทบาทต่อการพัฒนาบ้านที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย กลายเป็นเทรนด์บ้านแห่งอนาคตสุดล้ำที่เกิดจากจุดตัดของทั้ง 3 สิ่ง ได้แก่ เทคโนโลยี บ้าน และผู้อยู่อาศัย บ้านจึงเป็นมากกว่าบ้าน ทำให้ความต้องการของมนุษย์จึงไม่ถูกจำกัดอีกต่อไป
Hybrid Living นวัตกรรมที่เข้าใจชีวิตในทุกมิติจาก AP
“ตัวตนคุณไม่ได้มีแค่หนึ่งคำจำกัดความ ความต้องการของการอยู่อาศัยจึงไม่ได้มีเพียงด้านเดียว”
นี่คือสิ่งที่นวัตกรรม Hybrid Living จาก AP ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ มองเห็นถึงความต้องการของผู้อยู่อาศัยยุคใหม่อย่างแท้จริง เพราะบางคนอยากทำงาน แต่ก็ยังอยากเที่ยวอยู่ บางคนอยากหนีความวุ่นวาย แต่ก็อยากเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ บางคนอยากอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ แต่ก็ชอบความสะดวกสบายของเมือง หรือบางคนอยากพักผ่อนที่บ้าน แต่ก็อยากสังสรรค์กับผองเพื่อน
ความต้องการอันหลากหลายของผู้อยู่อาศัย ได้ผสมผสานเทคโนโลยีด้านพลังงานทดแทนและระบบสมาร์ทโฮมที่มีในโครงการบ้านเดี่ยวจาก AP ทำให้เกิดเป็นนวัตกรรมที่ยกระดับคุณภาพชีวิตสู่ไลฟ์สไตล์แบบ ‘ไฮบริด’ ที่ ให้ความสำคัญกับ 4 ด้าน ได้แก่
1. Cost-Saving
AP ให้ความสำคัญกับการออกแบบที่ทันสมัย และลูกบ้านได้ประโยชน์สูงสุด โดยเชื่อว่า ‘สังคมน่าอยู่คือสังคมแห่งการแบ่งปัน’ จึงเกิดเป็นพื้นที่คลับเฮาส์ที่ทุกคนสามารถมาแชร์สิ่งดี ๆ ร่วมกัน ซึ่งนำนวัตกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Power System) และระบบบำบัดน้ำเสีย (Greywater Recycle System) มาช่วยลดการใช้พลังงานและน้ำประปาทำให้ลูกบ้านได้สนุกกับการใช้ชีวิตกับครอบครัวและเพื่อนฝูงอย่างสบายใจ
2. Security
การมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีเสมือนมีฮีโร่คอยสอดส่องดูแลบ้าน คือสิ่งที่ช่วยให้ทุกคนอุ่นใจไม่ว่าอยู่จะติดบ้านหรือติดเที่ยว ด้วยระบบเซ็นเซอร์ประตูและหน้าต่าง เซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว และกล้อง IP Camera ที่จะช่วยตรวจตราความเรียบร้อยทั้งในและนอกบ้าน รวมถึงสื่อสารกับคนในบ้าน หรือหากลืมกุญแจบ้านก็หายห่วงได้เลย เพราะมี Digital Door Lock ที่สามารถควบคุมเปิด-ปิดประตูได้ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน
3. Comfort
ในแต่ละวัน เรามีสิ่งต่าง ๆ ต้องทำมากมายเต็มไปหมด กลับมาถึงบ้านก็ล้าเต็มทน การมีผู้ช่วยมาดูแลความเรียบร้อยของบ้านจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คุณสบายกายและสบายใจยิ่งขึ้น ผ่านระบบควบคุมไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดในบ้าน อย่างระบบควบคุมแสงสว่างในบ้าน ระบบควบคุมเครื่องปรับอากาศ ไปจนถึงระบบตั้งเวลาสปริงเกอร์รดน้ำผ่านทางแอปพลิเคชัน
4. Community
ความสะดวกสบาย และการดูแลอย่างทั่วถึงไม่ได้มีเพียงแค่ในบ้านเท่านั้น แต่ AP เล็งเห็นว่า การเชื่อมต่อกับสังคมรอบข้างเป็นสิ่งที่ต้องมี ด้วยการสร้างสรรค์แอปพลิเคชัน Katsan เพื่อดูแลช่วยเหลือคุณและครอบครัวตลอดการอยู่อาศัย สามารถแจ้งความต้องการผ่านแอปฯ ซึ่งจะทำหน้าที่สื่อสารกับพนักงานรักษาความปลอดภัยเมื่อมีแขกมาเยือน อีกทั้งในยามคับขันยังสามารถกดเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัย ตำรวจ หรือรถพยาบาลได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
รู้จักนวัตกรรมบ้านเดี่ยวที่ตอบโจทย์ทุกการอยู่อาศัย และเข้าใจชีวิต Hybrid Living ให้มากยิ่งขึ้นได้ที่ apthai.com/HybridLiving
Writer
