นอกจากมาม่าแล้ว ‘ปลากระป๋อง’ ก็เป็นอีกหนึ่งอาหารที่คนไทยนิยมซื้อตุนไว้กันตาย ไม่ว่าจะตอนสิ้นเดือน ประสบภัยพิบัติ ตลอดจนช่วงล็อกดาวน์โควิด-19 ที่ผ่านมา เพราะด้วยมีรสชาติให้เลือกซื้อหลากหลาย กินง่ายไม่ต้องใช้ไฟ และที่สำคัญราคาไม่แพง
‘ปลากระป๋อง’ คือ ปลาที่บรรจุลงในกระป๋องดีบุก และให้ความร้อนเพื่อทำให้อาหารสุก ถือเป็นวิธีการถนอมอาหารอย่างหนึ่ง เกิดขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ.1795 โดย ‘นิโคลัส แอปเปิร์ท’ คนขายลูกกวาดชาวฝรั่งเศสได้ทดลองนำปลาลงขวดโหลและนำโหลไปต้มในน้ำเดือดในช่วงปีแรกของสงครามนโปเลียน เพื่อใช้เป็นเสบียงอาหารให้แก่ทหารในช่วงสงคราม ก่อนที่ ‘ปีเตอร์ ดูรันด์’ นักประดิษฐ์ชาวอังกฤษจะพัฒนากระป๋องโลหะที่สามารถนำอาหารมาบรรจุและผนึกปิดฝาได้ขึ้นมาซึ่งได้ถูกนำมาใช้จนถึงปัจจุบันนี้
โดยปลาที่นิยมนำมาทำปลากระป๋องหลักๆ คือ ‘ปลาแมคเคอเรล’ ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็คือปลาทูและปลาลัง ลักษณะผิวเป็นเกล็ดละเอียดสีเงินมันวาว ตัวเรียวยาวกลมคล้ายทรงกระบอก หัวแหลมท้ายแหลม เนื้อแน่นและมันมากกว่าปลาซาร์ดีน และ ’ปลาซาร์ดีน’ หรือปลากลุ่มหลังเขียว มีรูปร่างเพรียวยาว ลำตัวกลม มีเกล็ดใหญ่ เนื้อนุ่มและหวานกว่าปลาแมคเคอเรล
ปัจจุบันตลาดปลากระป๋องในไทยมีมูลค่าประมาณ 9,000 ล้านบาทต่อปี และจากการประเมินของ Marketeer Online เมื่อเดือน พ.ค. 2561 ระบุว่าสินค้าปลากระป๋องในประเทศไทยมีเกือบ 20 แบรนด์ โดยแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดมี 3 แบรนด์ ได้แก่ ‘สามแม่ครัว’ มีส่วนแบ่งตลาด 35% ‘โรซ่า’ 15% ‘ซุปเปอร์ ซี เชฟ’ 10% และแบรนด์อื่นๆ ที่เหลือรวมกันอีก 40%
01 | ปลากระป๋อง ‘มงกุฎทะเล’
‘มงกุฎทะเล’ แบรนด์ปลากระป๋องทางเลือกเจ้าเดียวกับผู้ผลิตปลาทูน่ากระป๋องนอติลุส โดยมงกุฎทะเลมาในคอนเช็ปต์ของความ ‘คุ้มค่า’ ด้วยราคาที่ถูกกว่าเจ้าอื่นและที่สำคัญมีรสชาติหลากหลายและแปลกใหม่ ตั้งแต่ปลาแมคเคอเรลในน้ำปลาร้าปรุงรส ปลาแมคเคอเรลในซอสพริกไทยดำ และรสชาติยอดฮิตอย่างปลาแมคเคอเรลในซอสมะเขือเทศ
โดยปลาแมคเคอเรลในซอสมะเขือเทศ มีราคาเพียง 14 บาท น้ำหนักสุทธิ 145 กรัม เนื้อปลา 87 กรัม โซเดียม 330 มก. หรือ 13% กินแล้วให้พลังงาน 80 กิโลแคลอรี ส่วนราคาต่อกรัมอยู่ที่ 0.16 บาท ถูกที่สุดจากทั้ง 7 แบรนด์
02 | ปลากระป๋อง ‘สามแม่ครัว’
ปลากระป๋อง ‘ตราสามแม่ครัว’ ถือเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตลาดปลากระป๋องบ้านเรา ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ 2516 จากกลุ่มเพื่อน 5 คนที่ตัดสินใจลาออกจากงานประจำเพื่อมาก่อสร้างธุรกิจ โดยปี พ.ศ 2562 ตราสามแม่ครัวมีรายได้ถึง 3,687 ล้านบาท กำไรอยู่ที่ 272 ล้านบาท โดยสินค้าในเครือสามแม่ครัว มีตั้งแต่ปลากระป๋องในซอสมะเขือเทศ ปลาราดพริก ฉู่ฉี่ มัสมั่น น้ำพริก คั่วกลิ้ง ห่อหมก ผักกาดดอง ไปจนถึงเครื่องปรุงรสต่างๆ
ปลากระป๋องตราสามแม่ครัว ที่หยิบมาเทียบในวันนี้คือสูตร ‘ปลาแมคเคอเรลในซอสมะเขือเทศ’ ในราคา 21.5 บาท มีน้ำหนักสุทธิ 155 กรัม เนื้อปลา 93 กรัม โซเดียม 230 มก. หรือ 12% และให้พลังงาน 90 กิโลแคลอรี โดยมีราคาต่อกรัมอยู่ที่ 0.23 บาท
03 | ปลากระป๋อง ‘ซูเปอร์ซีเชฟ’
ตามมาติดๆ กับแบรนด์ปลากระป๋องรูปพ่อครัวกอดปลาตัวใหญ่ อย่าง ‘ซูเปอร์ ซี เชฟ’ โด่งดังทั้งปลาซาดีนและปลาแมคเคอเรลในซอสมะเขือเทศ รวมถึงยังขยายผลิตภัณฑ์ไปสู่ปลาทูน่า และปีที่ผ่านมายังเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่มอาหารพร้อมทานด้วย
โดยปลาแมคเคอเรลในซอสมะเขือเทศ ของซูเปอร์ ซี เชฟ ขายในราคา 18 บาท มีน้ำหนักสุทธิ 155 กรัม แบ่งเป็นน้ำหนักเนื้อปลา 93 กรัม โซเดียม 450 มก. หรือ 22% และให้พลังงาน 80 กิโลแคลอรี โดยมีราคาต่อกรัมอยู่ที่ 0.19 บาท
04 | ปลากระป๋อง ‘ไมก้า’
ปลากระป๋อง ‘ไมก้า’ อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูคุ้นตาคนส่วนใหญ่มากนัก ยอมรับเองเลยว่าเราเองก็เพิ่งรู้จักแบรนด์นี้เช่นกัน อาจเพราะขายเฉพาะตามห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก
โดยปลากระป๋องไมก้าผลิตจากเนื้อปลาซาร์ดีนและปลาแมคเคอเรล โดยเราเลือกหยิบปลาแมคเคอเรลในซอสมะเขือเทศ ที่มีราคา 15 บาท น้ำหนักสุทธิ 140 กรัม มีเนื้อปลา 84 กรัม มีเกลือบริโภคเสริมไอโอดีน 1% และให้พลังงานแก่ร่างกาย 80 กิโลแคลอรี ราคาต่อกรัมอยู่ที่ 0.18 บาทต่อกรัม
05 | ปลากระป๋อง ‘โรซ่า’
นอกจากปลากระป๋องตราสามแม่ครัวแล้ว ‘โรซ่า’ ก็ถือเป็นหนึ่งแบรนด์ที่รสชาติถูกปากคนไทย แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่าโรซ่าเป็นเจ้าของเดียวกับปลากระป๋องไฮคิว แต่ก่อตั้งขึ้นที่หลัง โดยมีจุดประสงค์เพื่อต้องการที่จะผลิตซอสมะเขือเทศเข้มข้นออกมาสู่ท้องตลาด โดยในเครือของโรซ่า นอกจากปลากระป๋อง ก็มีผักกาดดอง ซอสต่างๆ แล้วก็มีอาหารสำเร็จรูปด้วย
สำหรับโรซ่าปลาซาดีนในซอสมะเขือเทศ มีราคา 17.50 บาท น้ำหนักสุทธิ 155 กรัม มีเนื้อปลา 93 กรัม โซเดียม 340 มก. หรือ 17% และให้พลังงาน 110 กิโลแคลอรี โดยมีราคาต่อกรัมอยู่ที่ 0.19 บาท
06 | ปลากระป๋อง ‘นกพิราบ’
แบรนด์ ‘นกพิราบ’ ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2493 โรงงานที่แรกเป็นห้องแถวเล็กๆ บนถนนเยาวราช โดยเริ่มจากการทำ ‘ผักกาดดอง’ ขายเป็นหลัก ปัจจุบันนอกจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ผักดอง ผลไม้ พืชผัก ก็ยังมีกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเล อย่าง ‘ปลากระป๋อง’ ที่ใช้วัตถุดิบจากทะเลอ่าวไทยและอันดามัน ผ่านการคัดสรรอย่างเข้มข้นเพื่อให้ได้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ
สำหรับปลาแมคเคอเรลในซอสมะเขือเทศ ตรานกพิราบ ขายในราคา 16 บาท มีน้ำหนักสุทธิ 155 กรัม แบ่งเป็นน้ำหนักเนื้อปลา 93 กรัม มีปริมาณโซเดียม 590 มล. หรือ 25% สูงที่สุดจากแบรนด์ทั้งหมด โดยให้พลังงาน 140 กิโลแคลอรี ส่วนราคาต่อกรัมจากการคำนวนอยู่ที่ 0.17 บาท
07 | ปลากระป๋อง ‘ซีเล็ค’
ปลากระป๋อง ‘ซีเล็ค’ เข้าตลาดครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2547 เกิดขึ้นจากความตั้งใจของเจ้าของที่อยากให้ทุกคนได้กินวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ที่ผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัย มีสินค้าทั้งกลุ่มซีเล็คทูน่า และกลุ่มซอสมะเขือเทศรสชาติต่างๆ
ปลาแมคเคอเรลในซอสมะเขือเทศของซีเล็ค ขายแยกในราคากระป๋องละ 18 บาท มีน้ำหนักสุทธิอยู่ที่ 155 กรัม แบ่งเป็นเนื้อปลา 93 กรัม มีปริมาณโซเดียม 450 มก. หรือ 23% และให้พลังงาน 80 กิโลแคลอรี ส่วนราคาต่อกรัมอยู่ที่ 0.19 บาท
08 | แบรนด์ไหนครองตำแหน่ง ‘คุ้มที่สุด !’
เมื่อมองหาความคุ้มค่าคุ้มราคา เราจึงนำราคาของทั้ง 7 แบรนด์ มาหารกับน้ำหนักเนื้อปลา และค้นพบว่า แบรนด์ที่ครองตำแหน่ง ‘คุ้มที่สุด !’ คือ ปลากระป๋อง ‘มงกุฎทะเล’ มีราคาต่อกรัมอยู่ที่ 0.16 บาท
อันดับ 2 ปลากระป๋อง ‘นกพิราบ’ 0.17 บาทต่อกรัม
อันดับ 3 ปลากระป๋อง ‘ไมก้า’ 0.18 บาทต่อกรัม
อันดับ 4 ปลากระป๋อง ‘โรซ่า’ 0.19 บาทต่อกรัม / ปลากระป๋อง ‘ซูเปอร์ ซี เชฟ’ 0.19 บาทต่อกรัม / ปลากระป๋อง ‘ซีเล็ค’ 0.19 บาทต่อกรัม
และอันดับ 5 ปลากระป๋อง ‘สามแม่ครัว’ 0.23 บาทต่อกรัม
แต่ในที่สุดแล้วถ้าเราชอบรสชาติไหน ชอบปลาชนิดไหน ก็เลือกซื้อได้ตามใจกันเถอะ!