ขึ้นปีใหม่แบบนี้สถานที่ที่น่าไปเดินถ่ายรูปและถือว่าเป็นการเก็บบรรยากาศความเป็นคนไทยเราก็คงจะหนีไม่พ้นการไหว้แก้ชงตามวัดต่างๆ แต่คราวนี้ผมจะมานำเสนอวัดที่เค้าลือชื่อมากเรื่องไหว้แก้ชงเลยละกัน นั่นก็คือ วัด เล่งเน่ยยี่ แถวเยาวราชกันก่อนเลยละกันนะครับ ที่วัดเล่งเน่ยยี่ (หรืออีกชื่อเรียกว่า วัดมังกร) นี้เนี่ยมีจุดแสงลอดเป็นช่วงๆ บางจุดจะมีควันของธูปลอยฟุ้ง ถ้าไปแล้วโชคดีเจอช่วงที่ควันธูปเยอะๆ เราก็จะได้เห็นลำแสงพุ่งตรงลงมา ถึงอย่างนั้นก็ตาม เราก็ลองมองหาตัวแบบดีๆ ดูบรรยากาศโดยรวม เตรียมกล้องให้พร้อม ตั้งค่าอะไรไว้ก่อนเลย พร้อมกดถ่ายได้เลย เพราะบางทีอะไรหลายๆ อย่างมันเหมาะเจาะเกิดขึ้นพร้อมกับเพียงเสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้น
อย่างภาพใบนี้พี่คนที่อยู่ข้างหลังเค้ายกมือขึ้นมาแค่เสี้ยววินาทีเดียวจริงๆ แต่การที่พี่เค้ายกมือนั้นทำให้ตัวแบบแนวหลังนั้นมีโมเมนต์ที่มีการเคลื่อนไหวขึ้นมา มีการแสดงอารมณ์สื่อผ่านท่าทางออกมา พอดีกับคนหน้าขวาคอปกเสื้อมีแถบสีเหลืองซึ่งเป็นคู่สีกับสีแดงในฉากหลังด้วย มันเลยทำให้ภาพนี้เกิดบาลานซ์ในเรื่องสีขึ้นมา บวกกับอารมณ์สีหน้าของแบบหลักคนกลางและท่าทางการยกมือขึ้นทำให้การเล่าเรื่องราวของภาพมันมีอะไรที่มากขึ้นด้วย
ทีนี้เราไปเล่งเน่ยยี่ที่เยาวราชมาแล้วจะไม่ไป เล่งเน่ยยี่ 2 ที่นนทบุรีได้อย่างไร ที่วัดนี้เค้าตั้งใจสร้างมากๆ ใหญ่โตสุดๆ มีมุมให้ถ่ายภาพเยอะแยะ มาเริ่มกันเลย
ใครไปที่นี่ก็น่าจะเจอขวดเทียนเล็กๆ ตั้งเป็นแถวๆ ที่เค้าเอามาไว้ให้ไหว้กัน ทีนี้เราจะถ่ายแค่ตัวเทียนมันก็ธรรมดาไป เราลองมาเพิ่มอะไรสักหน่อยให้กับภาพกันหน่อย โดยที่คราวนี้ผมลองถ่ายแบบ Low Key คือการถ่ายแบบเน้นตัว Highlight ของภาพ พอดันภาพให้เน้น Highlight แล้วส่วนที่เป็นเงาก็จะมืดลง เป็นเงาๆ ทีนี้เราก็สามารถสร้าง illusion กับส่วนที่เป็นเงาได้มากยิ่งขึ้น อย่างใบนี้นี่ผมรอจังหวะที่ ตัวแบบหัวหน้าด้านข้างเพื่อที่จะได้รูปทรงหน้า side-profile เพื่อที่จะมองให้ได้เห็นชัดๆ ว่าเป็นคน ไม่ใช่แท่งอะไร (ในกรณีอาจจะถ่ายมาให้งงเล่นเลยก็ได้นะว่านี่มันแท่งอะไร แต่ส่วนอื่นของร่างกายอาจจะต้องชัดเจนมากกว่านี้) จังหวะนี้นอกจากที่จะรอตัวแบบหันข้างแล้วก็กดไปตอนที่ตัวแบบกำลังบิดตัว แล้วพอดีมีคนเดินมาทางด้านหลัง มันเลยสร้าง illusion ที่ดูเหมือนว่าเป็นส่วนตัวของตัวแบบหลักของเรานี่แหละ ทีนี้มันก็เลยทำให้ดูทรงคอเค้าแปลกๆ ไป ดูยาวกว่าปกติ
ใบนี้เกิดจากการสะท้อนของเราและตู้กระจก เมื่อเห็นอะไรที่สามารถสะท้อนได้แล้วนั้น ผมก็ลองหาอะไรแถวๆ นั้นที่จะเพิ่มซับซ้อนเข้าไปให้กับภาพอีกต่อ ถ้าได้หลายต่อก็ยิ่งดีซึ่งภาพนี้ มันเกิดจากการที่พื้นที่วัดมันใสมาก แสงจากนอกหน้าต่างมันตกลงมาสะท้อนกับพื้น บวกกับตรงนั้นเค้ามีตู้ให้หยอดใบเสร็จมันสะท้อนกับเงาที่พื้นพอดี ตอนแรกเงามันก็ตีหลังกา ทีนี้ผมก็รอคนมาเติมเฟรมนี้เข้าไป รออยู่นานมาก แต่สุดท้ายก็มา เห็นรูปร่างหน้าตาชัดเจน พอได้ภาพมาก็เลยกลับภาพเพื่อจะได้มองเห็นว่าคนเป็นคน อีกอย่างที่ชอบคือสีของภาพที่มีหลากหลาย คู่สีแดง-เหลือง(ออกทองๆ หน่อย จากเส้นทะแยงมุมของตู่นั่นเอง) และเส้น geometry ที่มีเส้นแรงพอสมควรมาอีกด้วย
ยัง ยังไม่จบกับตู้นี้ ที่วัดเล่งเน่ยยี่ 2 เค้ามีตู้นี้อยู่หลายที่ ผมก็ไปเจออีกตู้อยู่เกือบๆ จะนอกอาคารหน่อย เลยลองไปส่องดู ทีนี้ต้องส่องแบบเสยๆ หน่อยนะ ไม่งั้นเราจะไม่เห็นอะไรและติดเงาเราเองเข้าไปข้างในตู้จนไม่เห็นอะไรอย่างอื่นเลย คราวนี้ผมเน้นการใช้การสะท้อนของเงาคนจำนวนนึง คือภาพแบบนี้ต้องไปช่วงต้นปีที่มีคนเยอะๆ แบบนี้แหละถึงจะได้ตัวแบบที่หลากหลายมาเติมเฟรมของเรา รออย่างเดียวเลยครับ รอโชคที่จะเข้าข้างเรา อย่างใบนี้นี่ผมโชคดีที่พี่ รปภ. เดินมาใกล้ๆ แล้วดันใส่หมวกด้วย ดีเลย ยิ่งดูเป็นคนมากขึ้น และมีคนกำลังเดินผ่านตู้เห็น side-profile พอดี แถมยังมีพี่อีกคนที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่เฟรมไกลๆ ไม่มีอะไรบังพอดิบพอดีเลย แล้วยังได้ลายเส้นภาษาจีนๆ หน่อยมาด้วย ดูแล้วมีความเป็นวัดจีนทันที
เอาล่ะซีนนี้ก็เป็นอีกซีนที่ผมชอบมากคือเป็นการจับคนมาใส่ตามช่องต่างๆ โดยที่ทำให้เฟรมมี flow การมองไปทั่วๆ สายตาคนที่อยู่ในเฟรมไปหลายทิศทางดี หันซ้าย-ขวา-หน้า-หลัง แล้วยังมีมือมาเป็น surprise element ให้กับภาพในเลเยอร์ด้านหน้าอีกด้วย ทำให้ภาพมันมีมิติ หน้า กลาง หลังมากยิ่งขึ้น
รูปสุดท้ายกับใบนี้เลย วัดเล่งเน่ยยี่ 2 เค้าจะมีตู้เอาไว้จุดธูปแล้วมันก็เป็นกระจกสะท้อนแสงได้ด้วยไง ทีนี้เราสามารถลองใช้การสะท้อนนี้ให้เป็นประโยชน์ ผมเลยเชื่อมเรื่องราวระหว่างสิ่งที่อยู่ในตู้คือคนที่เค้าเอื้อมมือเข้าไปจุดธูปเข้ากับ คนที่กำลังเดินผ่านมาพอดี เสื้อของคนทั้ง 2 คนก็ดันเป็นสีขาวเหมือนกันด้วย ท่าทางก็ได้พอดิบพอดี โชคดีที่เห็น side-profile ด้วย แล้วก็ยังเห็นแขนของพี่ผู้ชายอยู่ด้วย ทำให้เกิดการงงๆ เข้าไปในภาพด้วย ทั้งหมดนี้ก็ไม่ใช่ผมยืนปุ๊ปก็ได้ภาพเลยนะ ผมยืนสักพักนึงเลย มันต้องใช้เวลาในการปั้นเฟรมและโชคช่วยเป็นอันมาก และการที่เราจะมองเห็น potential ในการได้ภาพนั้นๆ ด้วย ซึ่งมันเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ลองอ่านและลองเอาไปถ่ายกันนะครับ ถ่ายภาพแนวนี้แล้วสนุกมาก ติดงอมแงม แล้วคุณจะได้ภาพในมุมมองใหม่ๆ ที่คนอื่นเค้าไม่เคยเห็น ภาพดีโดยไม่ต้องเพิ่งการเบลอหลังหรือ Depth of Field เลยครับ