ปทุมวันเป็นเขตหนึ่งที่ค่อนข้างมีอะไรให้ถ่ายได้หลากหลาย ทำให้เป็นสถานที่แรกๆ ที่คนเริ่มถ่ายภาพแนวสตรีทมักมาลองมือกัน เราเลยขอลิสต์สถานที่เป็นแห่งๆ มาให้ทุกคนเดินทางไปด้วยกันเลยดีกว่า
สถานที่แรกที่พลาดไม่ได้เลยคือ สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ที่เริ่มก่อสร้างใน พ.ศ. 2453 (ยุคของรัชกาลที่ 5) ในสมัยนั้นประเทศไทยเราได้รับอิทธิพลจากชาวตะวันตกค่อนข้างมาก ทำให้สถาปัตยกรรมของสถานีกรุงเทพมีความโมเดิร์น เป็นเอกลักษณ์สะดุดตา เราได้ข่าวว่าที่นี่จะปิด-ไม่ปิดมานานพอดู แต่โชคดีที่สุดท้ายเขายังเปิดใช้งานอยู่ ซึ่งเอาเข้าจริงเราก็ไม่รู้ว่าจะเปิดแบบนี้อีกนานขนาดไหน
สำหรับคนที่อยากไปถ่ายภาพ แสงที่หัวลำโพงช่วงเช้าและเย็นจะพุ่งเข้ามาในสถานีเป็นแนวเฉียง ลองหาจังหวะแสงดีๆ เราว่าถ่ายยังไงก็สวย นอกจากนี้ การมีผู้คนที่หลากหลายเชื้อชาติ รถไฟแนววินเทจผสมปนๆ กับขบวนที่ดูใหม่ๆ ก็ทำให้เราถ่ายได้หลายมู้ดดีเหมือนกัน
หลังจากนั้นเราเดินทางมายังย่านรองเมืองที่อยู่ด้านหลังของหัวลำโพง ที่นี่มีตึกศูนย์ไปรษณีย์ กรุงเทพฯ ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ น่าเสียดายที่เราไปถึงช้านิดเดียว เพราะที่นี่เพิ่งจัดงานรองเมืองที่เป็นงานเล็กๆ น่ารักไป ย่านนี้เป็นย่านที่ดูเป็นชุมชนขนาดเล็ก ไม่วุ่นวาย แตกต่างจากแถวถนนบรรทัดทองที่อัดแน่นไปด้วยร้านอาหารเต็มสองข้างทาง
เปลี่ยนบรรยากาศไปที่สวนลุมพินีกันบ้าง ที่นี่เป็นปอดขนาดใหญ่ให้กับชาวกรุงเทพฯ ด้วยขนาดพื้นที่ 360 ไร่มานานเกือบจะ 100 ปีแล้ว (เริ่มสร้างขึ้นใน พ.ศ. 2468) สวนนี้เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียว ผู้คนมักมาออกกำลังกายในช่วงเช้าและเย็น เพราะมีทั้งสถานที่ให้เล่นกีฬา สนามเด็กเล่นให้เด็กๆ เล่นสนุก แถมมีชมรมหลากหลาย เช่น ชมรมวิ่ง รำไทเก๊ก รำพัด ชาวต่างชาติมักมาถ่ายภาพน้องตัวเงินตัวทองกันอยู่บ่อยๆ นอกจากนี้ สวนลุมฯ ยังเป็นสถานที่ที่ทางกรุงเทพมหานครมาจัดงานอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดก็งานกาชาดที่คนล้นหลามมากๆ ดีใจเหมือนกันที่ผู้คนเริ่มกลับมาใช้พื้นที่ตรงนี้เกือบจะเหมือนเดิมแล้ว
ส่วนบริเวณใจกลางเมืองก็มีหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (Bangkok Art and Culture Centre) แหล่งแสดงผลงานศิลปะหลากหลายประเภทที่หมุนเวียนมาให้คนเมืองชมกันตลอดปี ใครที่มาเดินสยามแล้วคิดอะไรไม่ออก ลองแวะมาเดินชมงานศิลปะได้ และวันที่ 10 มกราคม – 5 กุมภาพันธ์นี้จะมีนิทรรศการแสดงภาพถ่ายของกลุ่ม Street Photo Thailand ที่เราเป็นสมาชิกอยู่ด้วย เชิญชวนมาชมกันเยอะๆ นะ
ใกล้ๆ กันก็มีอุทยาน 100 ปี จุฬาฯ ที่เดินเท้าจากหอศิลป์ไปได้แบบไม่เหนื่อยนัก ตั้งอยู่ระหว่างถนนบรรทัดทองกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บรรยากาศช่วงเย็นชิลมาก เราชอบการออกแบบที่มีทางลาดค่อยๆ ลาดไปทีละนิด และทำพื้นที่เหมือนเป็นลานดาดฟ้าที่เราเดินขึ้นไปถ่ายรูปวิวเมืองได้ ส่วนข้างๆ สวนก็มีสนามที่คนมักมาเตะบอลเล่นกัน และทางลาดหน้าตาคล้ายๆ กับสไลด์เดอร์ที่เด็กๆ ดูชอบมาก หากข้ามถนนไปหน่อยก็มีคอมมูนิตี้มอลล์เล็กๆ ชื่อสวนหลวงสแควร์ ที่รวมร้านอร่อยไว้มากมาย บางช่วงจะมี Flea Market มาจัดด้วย
นอกจากรูตอุทยาน 100 ปีฯ แล้ว จากหอศิลป์ก็มีรูตห้างฯ ให้เดินตากแอร์สบายๆ ด้วย แต่ถ้าเบื่อเดินช้อปปิง แนะนำให้ลองมา Sea Life Bangkok Ocean World สวนสัตว์ใต้น้ำที่อยู่ชั้นล่างสุดของห้างฯ Siam Paragon เพราะที่นี่เป็นสถานที่ที่ถ่ายรูปสนุกแห่งหนึ่งเลย ช่วงที่เราไปเขามีบัตรให้เลือก 2 ประเภทคือ บัตรคอมโบของ Sea Life Bangkok Ocean World + Madame Tussauds กับตั๋วรายปี ใครสะดวกแบบไหนเลือกซื้อได้ตามความต้องการเลย
ปิดท้ายด้วยลานหน้าห้างฯ CentralWorld ที่มักมีอีเวนต์มาจัดอยู่เรื่อยๆ เราไปกี่ทีๆ ก็ต้องเจอนักท่องเที่ยวมาถ่ายภาพรถติดหน้าห้างฯ ทุกคืน ไม่แน่ใจว่าคนไทยควรจะดีใจหรือรู้สึกยังไงดี
ปทุมวันเป็นเขตหนึ่งที่ค่อนข้างมีอะไรให้ถ่ายได้หลากหลาย ทำให้เป็นสถานที่แรกๆ ที่คนเริ่มถ่ายภาพแนวสตรีทมักมาลองมือกัน เราเลยขอลิสต์สถานที่เป็นแห่งๆ มาให้ทุกคนเดินทางไปด้วยกันเลยดีกว่า
สถานที่แรกที่พลาดไม่ได้เลยคือ สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ที่เริ่มก่อสร้างใน พ.ศ. 2453 (ยุคของรัชกาลที่ 5) ในสมัยนั้นประเทศไทยเราได้รับอิทธิพลจากชาวตะวันตกค่อนข้างมาก ทำให้สถาปัตยกรรมของสถานีกรุงเทพมีความโมเดิร์น เป็นเอกลักษณ์สะดุดตา เราได้ข่าวว่าที่นี่จะปิด-ไม่ปิดมานานพอดู แต่โชคดีที่สุดท้ายเขายังเปิดใช้งานอยู่ ซึ่งเอาเข้าจริงเราก็ไม่รู้ว่าจะเปิดแบบนี้อีกนานขนาดไหน
สำหรับคนที่อยากไปถ่ายภาพ แสงที่หัวลำโพงช่วงเช้าและเย็นจะพุ่งเข้ามาในสถานีเป็นแนวเฉียง ลองหาจังหวะแสงดีๆ เราว่าถ่ายยังไงก็สวย นอกจากนี้ การมีผู้คนที่หลากหลายเชื้อชาติ รถไฟแนววินเทจผสมปนๆ กับขบวนที่ดูใหม่ๆ ก็ทำให้เราถ่ายได้หลายมู้ดดีเหมือนกัน
หลังจากนั้นเราเดินทางมายังย่านรองเมืองที่อยู่ด้านหลังของหัวลำโพง ที่นี่มีตึกศูนย์ไปรษณีย์ กรุงเทพฯ ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ น่าเสียดายที่เราไปถึงช้านิดเดียว เพราะที่นี่เพิ่งจัดงานรองเมืองที่เป็นงานเล็กๆ น่ารักไป ย่านนี้เป็นย่านที่ดูเป็นชุมชนขนาดเล็ก ไม่วุ่นวาย แตกต่างจากแถวถนนบรรทัดทองที่อัดแน่นไปด้วยร้านอาหารเต็มสองข้างทาง
เปลี่ยนบรรยากาศไปที่สวนลุมพินีกันบ้าง ที่นี่เป็นปอดขนาดใหญ่ให้กับชาวกรุงเทพฯ ด้วยขนาดพื้นที่ 360 ไร่มานานเกือบจะ 100 ปีแล้ว (เริ่มสร้างขึ้นใน พ.ศ. 2468) สวนนี้เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียว ผู้คนมักมาออกกำลังกายในช่วงเช้าและเย็น เพราะมีทั้งสถานที่ให้เล่นกีฬา สนามเด็กเล่นให้เด็กๆ เล่นสนุก แถมมีชมรมหลากหลาย เช่น ชมรมวิ่ง รำไทเก๊ก รำพัด ชาวต่างชาติมักมาถ่ายภาพน้องตัวเงินตัวทองกันอยู่บ่อยๆ นอกจากนี้ สวนลุมฯ ยังเป็นสถานที่ที่ทางกรุงเทพมหานครมาจัดงานอยู่เรื่อยๆ ล่าสุดก็งานกาชาดที่คนล้นหลามมากๆ ดีใจเหมือนกันที่ผู้คนเริ่มกลับมาใช้พื้นที่ตรงนี้เกือบจะเหมือนเดิมแล้ว
ส่วนบริเวณใจกลางเมืองก็มีหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (Bangkok Art and Culture Centre) แหล่งแสดงผลงานศิลปะหลากหลายประเภทที่หมุนเวียนมาให้คนเมืองชมกันตลอดปี ใครที่มาเดินสยามแล้วคิดอะไรไม่ออก ลองแวะมาเดินชมงานศิลปะได้ และวันที่ 10 มกราคม – 5 กุมภาพันธ์นี้จะมีนิทรรศการแสดงภาพถ่ายของกลุ่ม Street Photo Thailand ที่เราเป็นสมาชิกอยู่ด้วย เชิญชวนมาชมกันเยอะๆ นะ
ใกล้ๆ กันก็มีอุทยาน 100 ปี จุฬาฯ ที่เดินเท้าจากหอศิลป์ไปได้แบบไม่เหนื่อยนัก ตั้งอยู่ระหว่างถนนบรรทัดทองกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บรรยากาศช่วงเย็นชิลมาก เราชอบการออกแบบที่มีทางลาดค่อยๆ ลาดไปทีละนิด และทำพื้นที่เหมือนเป็นลานดาดฟ้าที่เราเดินขึ้นไปถ่ายรูปวิวเมืองได้ ส่วนข้างๆ สวนก็มีสนามที่คนมักมาเตะบอลเล่นกัน และทางลาดหน้าตาคล้ายๆ กับสไลด์เดอร์ที่เด็กๆ ดูชอบมาก หากข้ามถนนไปหน่อยก็มีคอมมูนิตี้มอลล์เล็กๆ ชื่อสวนหลวงสแควร์ ที่รวมร้านอร่อยไว้มากมาย บางช่วงจะมี Flea Market มาจัดด้วย
นอกจากรูตอุทยาน 100 ปีฯ แล้ว จากหอศิลป์ก็มีรูตห้างฯ ให้เดินตากแอร์สบายๆ ด้วย แต่ถ้าเบื่อเดินช้อปปิง แนะนำให้ลองมา Sea Life Bangkok Ocean World สวนสัตว์ใต้น้ำที่อยู่ชั้นล่างสุดของห้างฯ Siam Paragon เพราะที่นี่เป็นสถานที่ที่ถ่ายรูปสนุกแห่งหนึ่งเลย ช่วงที่เราไปเขามีบัตรให้เลือก 2 ประเภทคือ บัตรคอมโบของ Sea Life Bangkok Ocean World + Madame Tussauds กับตั๋วรายปี ใครสะดวกแบบไหนเลือกซื้อได้ตามความต้องการเลย
ปิดท้ายด้วยลานหน้าห้างฯ CentralWorld ที่มักมีอีเวนต์มาจัดอยู่เรื่อยๆ เราไปกี่ทีๆ ก็ต้องเจอนักท่องเที่ยวมาถ่ายภาพรถติดหน้าห้างฯ ทุกคืน ไม่แน่ใจว่าคนไทยควรจะดีใจหรือรู้สึกยังไงดี
ใบนี้ถ่ายที่ Madame Tussauds ตอนแรกเราไม่ได้กะว่าจะมาที่นี่หรอก แต่ต้องซื้อตั๋วคอมโบกับ Sea Life เลยลองมา เป็นที่ที่ถ่ายรูปสนุกเหมือนกันนะ มีหุ่นขี้ผึ้งคล้ายคนจริงๆ มาก นักท่องเที่ยวก็มาเรื่อยๆ แถมมีลายกราฟิกให้เล่นด้วย เราเดินไปเดินมาเห็นน้าคนนี้ยืนยกมือโบกไปมา มองรอบๆ ก็เจอกราฟิกแขนเข้าให้ เลยลองเดินสำรวจ หาจุดที่โอเค บังอะไรต่างๆ ที่เราไม่ต้องการได้พอดี
พิกัด : Madame Tussauds (goo.gl/maps/XHDjxbewjkiXuQuF7)
Shutter Speed 1/50 f/8.0 ISO 10000
ใบนี้ถ่ายที่อุโมงค์ใต้น้ำที่ Sea Life Bangkok Ocean World อย่างแรกที่เราเห็นคือ มีแสงจากสปอตไลต์ลงมาในน้ำ เราเลยส่องดูว่าจะเอายังไงต่อดี น่า Fishing รอให้อะไรสักอย่างเข้ามา เล็งมุมไปเรื่อยๆ มองรอบๆ จนปลากระเบนตัวนี้ว่ายมาเติมในเฟรมที่เล็งไว้พอดิบพอดี
พิกัด : Sea Life Bangkok Ocean World (goo.gl/maps/RkuNEDBXMbdCzJfG6)
Shutter Speed 1/80 f/5.6 ISO 8000
เราถ่ายใบนี้แถวย่านรองเมือง ดันไปเจอป้ายหาเสียงที่คนเอาไปติดกับซาเล้ง นิ้วตัวแบบหายไปพอดี เราคิดว่านิ้วอาจจะไปต่อกับอะไรก็ได้ หันไปเจอกับเสาไฟต้นหนึ่ง สายไฟค่อนข้างรก มีนกเกาะอยู่ 2 – 3 ตัว บวกกับมีเลนส์ซูมด้วยเลยสบาย เพราะเราสามารถดึงฉากหลังเข้ามาใกล้ได้ด้วยระยะเลนส์ Tele หรือจะผลักฉากหลังออกด้วยเลนส์ Wide ก็ได้
แต่เนื่องจากสิ่งที่อยู่ข้างหน้าค่อนข้างใกล้มาก เราเลยต้องเปิดรูรับแสงให้แคบมากๆ เพื่อจะได้เก็บฉากหน้าไว้ได้ จากนั้นก็ตบแฟลชเพื่อเปิดเงาของป้ายให้สว่างขึ้นอีกสักหน่อย จากนั้นก็เล็งไปเรื่อยๆ โชคดีได้เวลาที่นกออกบิน เลยได้จังหวะนกบินมาเติมอีกหน่อย
พิกัด : ย่านรองเมือง (goo.gl/maps/HeaZF9rjhwibTYBc9)
Shutter Speed 1/200 f/18 ISO 160
เอาจริงๆ แค่ลายกราฟิกก็ Cyberpunk พอดูแล้ว ถ้ามีข้าวผัดกะเพราสักจานวางข้างหน้าคู่กับน้ำแดงนี่จะขนาดไหน แต่พอดีเราไม่เซตฉากไง เลยต้องหามุมลองดู จนได้ใบนี้มา
พิกัด : ทางเดินเลียบคลองแสนแสบ (goo.gl/maps/4kFkxfGcvBSEi4aa7)
Shutter Speed 1/200 f/7.1 ISO 2000
กลับมาที่ Sea Life ปกติมันจะมีตู้หนึ่งที่ว่างๆ แต่วันนี้น้องกวินเดินขึ้นมานอนบนตู้นี้ และผมก็งงว่าเขาเอาสีอะไรมาทา แต่ดูไปดูมาก็ดำๆ คล้ายเพนกวินเหมือนกันนะ ทีนี้เราแค่ตั้งกล้องไว้ รอจังหวะดีๆ เพื่อให้มีผู้โชคดีมาอยู่ในตำแหน่งที่เราต้องการ ภาพใบนี้เลยดูฮานิดๆ ตรงที่เพนกวินมองไปที่สีดำว่า เอ๊ะ นั่นตัวฉันเองหรือเปล่าหนอ
พิกัด : Sea Life Bangkok Ocean World (goo.gl/maps/RkuNEDBXMbdCzJfG6)
Shutter Speed 1/100 f/4.0 ISO 6400
ใบนี้ได้จากระหว่างทาง ฉากหลังเป็นฉากกั้นลายกราฟิกสีสวยๆ แล้วดันมีพี่คนหนึ่งพาน้องหมาออกมาตากอากาศ เราเลยขอเข้าไปถ่าย และตรงนั้นเป็นช่องลมพอดี กดภาพไปเรื่อยๆ ลมตีพัดหน้าน้อง ตาปริ่มๆ เห็นแบบนี้จะไม่ถ่ายได้ยังไง ดูน้องมีความสุขสุดๆ
พิกัด : Amarin Plaza (goo.gl/maps/hA1qsz5QZHQMLDoi9)
Shutter Speed 1/320 f/11.0 ISO 4000
อาจดูมึนๆ งงๆ หน่อย ถ้าจำไม่ผิดเราถ่ายรูปนี้ผ่านลายแพตเทิร์นเก้าอี้ ซึ่งทุกอย่างดูเป็นสีขาวกลืนๆ กันไปหมด เราเลือกที่จะบังตรงไฟท้ายรถให้สีไม่เด่นมาก จะได้ออกมาดูอึนๆ เข้าไปอีก
พิกัด : ชุมชนแฟลตรถไฟวัดดวงแข (goo.gl/maps/4WEfUQexcGVXkB7B8)
Shutter Speed 1/250 f/11.0 ISO 500
หน้า CentralWorld จะมีนักท่องเที่ยวมากมายเดินแวะเวียนกันไปมา บ้างไป Big C บ้างไป The Market บ้างไป Gaysorn Plaza บ้างไปห้างฯ ละแวกประตูน้ำ เอาเป็นว่าสะพานลอยตรงนี้คนเยอะจริงๆ ส่วนช่วงกลางคืนจะกลายเป็นจุดชมวิวรถติด รถติด และรถติด ให้นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน
เราเก็บภาพนี้มาเพราะชอบบริบทความคึกคักตั้งแต่คนเดินไปมา รถติด แถวตุ๊กตุ๊ก ยันแผงลอยที่ดูมีความเป็นไทยๆ
พิกัด : CentralWorld (goo.gl/maps/Dkccm5Ukcc5suv9d9)
Shutter Speed 1/250 f/11.0 ISO 2000
ช่วงเวลาเช้าๆ ของสถานีกรุงเทพมักมีผู้โดยสารมารอขึ้นรถไฟ เราโชคดีมากที่ไปถึงตอนรถไฟยังไม่เข้าเทียบสถานี เลยได้ช่องแสงที่เพิ่มเข้ามาหาคนที่รอรถไฟมากขึ้น
ด้วยความที่เห็นว่ามีคนเป็นกลุ่มๆ มีระยะหน้า กลาง หลัง แถมมีเสาคั่นกลางแบ่งเฟรม ก็เลยเข้าไปเล็งจัดการวางมุมให้คนไม่ทับซ้อนกันเท่าไหร่ โยกหาจังหวะที่จะถ่ายจนได้เลเยอร์ที่ทำให้ภาพดูไม่รกเกินไป พร้อมกับจัดระเบียบให้ทุกสิ่งเข้าที่เข้าทางอีกหน่อย
พิกัด : สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) (goo.gl/maps/yWeQHfQotSvqMvb28)
Shutter Speed 1/250 f/11 ISO 800
ถ้ามองผ่านๆ เราอาจดูไม่รู้ว่าไอน์สไตน์ที่ยืนอยู่นั้นเป็นหุ่นขี้ผึ้ง เราชอบท่าเท้าสะเอวที่มองดูเหมือนเซ็งๆ กับอะไรสักอย่าง บวกกับด้านหน้ามีมือที่กำลังปั้นอะไรด้วย เราเลยรอ Fishing หาจังหวะผู้คนเพิ่มขึ้นอีกหน่อย จนได้พี่เสื้อเหลืองมองมาทางรูปปั้นตามไอน์สไตน์อีกคน
พิกัด : Madame Tussauds (goo.gl/maps/XHDjxbewjkiXuQuF7)
Shutter Speed 1/60 f/8.0 ISO 12800
ช่วงนี้ที่ศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณมีชาวต่างประเทศแห่มาไหว้แก้บน นำรูปปั้นช้างมาถวายและกราบไหว้แน่นมากๆ เราเลยหามุมที่ดูคลีนหน่อย จนเห็นบริบทไล่เลเยอร์หน้า กลาง หลัง มีช่องไฟเว้นไว้ให้เป็นเฟรมใส่นั่นนี่เข้าไป เวลาถ่ายแบบเลเยอร์ เราอาจต้องโยกตัวตามไปด้วย เพราะเรากำหนดการขยับตัวของตัวแบบไม่ได้นี่แหละ
พิกัด : ศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ (goo.gl/maps/Ty1zYHYAditD3UnS7)
Shutter Speed 1/160 f/11 ISO 1600
เราเลือกโชว์เล็กโชว์น้อย เน้นถ่ายแบบ Low-key ใช้แสงของ Rim Light เล่าเรื่องราว แต่น่าเสียดาย น่าจะทำได้ดีกว่านี้มากๆ เวลาไม่พอจริงๆ
พิกัด : สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) (goo.gl/maps/yWeQHfQotSvqMvb28)
Shutter Speed 1/320 f/11.0 ISO 800
เมื่อไหร่ที่มีแสงและเงา เมื่อนั้นความสวยงามจะปรากฏ อย่ากลัวว่าสีดำจะทำให้ไม่เห็นอะไร แต่สีดำจะทำให้สิ่งที่โดนแสงดูชัดเจนขึ้นแน่ๆ
พิกัด : CentralWorld (goo.gl/maps/Dkccm5Ukcc5suv9d9)
Shutter Speed 1/250 f/11.0 ISO 1000
ที่หอศิลป์กรุงเทพฯ มีนิทรรศการที่จัดแสดงผ่านภาพคนยืนกันเป็นจังหวะๆ เราเลยดูว่าจะมีใครที่เดินเว้นช่องไฟพอๆ กันได้ไหม รอไปเรื่อยๆ จนเจอคนเดินเป็นแถวตอนลึก มีช่องไฟกำลังดี ไม่ทับซ้อนกัน
พิกัด : หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (Bangkok Art & Culture Centre) (goo.gl/maps/ifzGJ7YoWngGmPCz7)
Shutter Speed 1/100 f/5.6 ISO 2500
ใบนี้พี่ รปภ. ไม่ได้ทำอะไรผิดหรอก เขาแค่กำลังชาร์จโทรศัพท์ แต่ในจังหวะเดียวกันนั้นก็มีกล่องกระจกวางอยู่ ในจอทีวีก็มีกล่องกระจกแต่มีคนอยู่ข้างใน พอทุกอย่างมารวมกันมันก็ดูเป็นเรื่องราวที่น่าสงสัยได้เหมือนกัน
พิกัด : หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (Bangkok Art & Culture Centre) (goo.gl/maps/ifzGJ7YoWngGmPCz7)
Shutter Speed 1/100 f/5.6 ISO 4000
Writer & Photographer
