เว็บไซต์ Pantip.com คือเว็บบอร์ดชุมชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยแบ่งออกเป็นห้องต่างๆ ซึ่งครอบคลุมเกือบทุกอย่างที่มนุษย์โลกจะสามารถพูดถึงได้ ในแต่ละห้องก็จะมีสิ่งที่เรียกว่ากระทู้ กระทู้ก็คือโพสต์ต่างๆ ที่คนมาเปิดประเด็นไว้ ไม่ว่าจะเป็นคำถาม ขอคำปรึกษา เล่าเรื่องเฉยๆ ระบาย อะไรก็ตามแต่ และผู้ใช้เว็บไซต์แห่งนี้ก็จะมาคอมเมนต์กันตามอัธยาศัย ตลอดเวลา 21 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่เว็บไซต์เว็บบอร์ดแห่งนี้ถือกำเนิดขึ้นมา ก็ได้มีกระทู้มากมาย มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ดราม่าบ้าง ตลกเบาสมองบ้าง เกิดขึ้นเต็มไปหมด บางกระทู้ก็มีผู้ร่วมคอมเมนต์เยอะมากๆ หรือเป็นประเด็นแปลกใหม่ โดดเด่นมากๆ จนกลายมาเป็นสิ่งที่ชาว Pantip เรียกว่ากระทู้ในตำนาน กระทู้ในตำนานไม่จำเป็นเลยที่จะต้องมีสาระ บางอันก็เป็นการเล่นมุกตบมุกกันยาวข้ามเดือน ที่ชาวบอร์ดเอาไว้เล่นกันขำขันคลายเครียดจนยาวปาไป 30 กว่าหน้า Pantip ปิดไม่ให้คอมเมนต์ต่อแล้วก็มี แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงกระทู้ในตำนาน 5 กระทู้ ที่ไม่ใช่กระทู้ที่คนคอมเมนต์เยอะที่สุดหรือดังที่สุด แต่เป็น 5 กระทู้ที่มีผู้คนร่วมแสดงความเห็นเยอะทีเดียว ที่อ่านผิวเผินแล้วเหมือนจะไม่มีอะไร แต่จริงๆ แล้วได้ฝากอะไรหลายอย่างไว้เกี่ยวกับสังคม
“เวลาใส่ถุงยาง ต้องคลอบใข่ด้วยรึเปล่าครับ”
https://pantip.com/topic/32289146
เรื่องย่อ : ประเดิมกระทู้แรกที่อ่านแค่ชื่อกระทู้ก็ร้อง ห๊ะ! แล้ว เรื่องมีอยู่ว่า…มีอยู่แค่นั้นน่ะแหละ ก็หนุ่มนายนี้เขามาถามว่าเวลาจะใส่ถุงยางอนามัยเนี่ย ต้องครอบไข่ด้วยรึเปล่า เพราะเขาเพิ่งลองใช้ครั้งแรก และไม่ว่าเขาพยายามเท่าไหร่ก็ใส่ไข่ไม่ได้สักที! พร้อมกับลงท้ายด้วยว่า “ขำๆ นะครับ แต่บอกผมที”…
ทำไมคนถึงสนใจ : ความจริงแล้วกระทู้นี้เป็นร่างอวตารของกระทู้ “คลอบใข่” ออริจินัลที่ใช้ชื่อเดียวกัน มีเนื้อหากระทู้คล้ายกันว่า…“เวลาใส่ถุงยาง ต้องคลอบไข่ด้วยรึป่าวครับ ซื้อมาลองใส่เล่นๆ แต่ยัดไปไม่ลงอ่ะครับ กลัวถุงฉีกด้วย ทำยังไงต่อดีครับ” ซึ่งเก่ามากๆ ตั้งแต่ปี 45 จนอันตรธานหายไปจากเว็บพันทิปแล้ว แต่เคยมีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นมากมาย ยังพูดถึงกันแม้ว่าจะผ่านไปหลายปี ตลกออกทะเลกันจนมีคนเซฟกระทู้และความเห็นเก็บไว้ที่ลิงก์นี้
http://topicstock.pantip.com/lumpini/topicstock/2008/08/L6904781/L6904781.html
ก็เพราะมันเป็นกระทู้ที่ดูไร้สาระและตลกมากๆ น่ะสิ คอมเมนต์ก็จะมีตั้งแต่เล่นมุกขำขัน เช่น
“ถ้าครอบได้แปลว่าเล็กมากนะครับ อิอิ…..”
“ต้องครอบไปถึงหัวเข่าเลยค่ะ”
“ไม่ใส่ไข่นะคะแม่ค้า ขอเส้นเยอะๆ”
“ไอ้บ้า….”
ไปจนถึงคอมเมนต์ที่ตอบเอาจริงเอาจังแบบก๊อบปี้หน้าเพจสุขศึกษาพร้อมรูปอธิบายมาแปะกันเลยทีเดียวล่ะ
กระทู้นี้ฝากอะไรให้กับสังคม : นอกจากความขำขันแล้ว จะบอกว่าภาษาไทยง่ายๆ ก็ยังใช้ไม่ถูก “คลอบ=ครอบ” “ใข่=ไข่” เอาจริงๆ กระทู้นี้จะว่าเขาตั้งขึ้นมาเพื่อความตลกอย่างเดียวก็ได้ แต่ก็อาจจะไม่แปลกที่จะยังมีคนที่ไม่รู้จริงๆ ว่าถุงยางนั้นใช้ยังไง เจ้าของกระทู้อาจจะยังเป็นแค่วัยรุ่นที่ขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องสุขศึกษาและเพศศึกษา ทำให้เห็นว่าคนไทยยังต้องพึ่งเว็บบอร์ดสาธารณะแบบนี้ในการถามคำถามพวกนี้อยู่มากมาย อย่างเช่นกระทู้ https://pantip.com/topic/32062515 ที่วัยรุ่นตั้งกระทู้ถามถึงการมีเพศสัมพันธ์ และการตั้งครรภ์ เป็นเพราะความรู้และข้อมูลที่ได้จากระบบการศึกษาในเรื่องสุขศึกษาและเพศศึกษานั้นยังด้อยมากนัก อาจจะเพราะประเด็นพวกนี้ยังเป็นสิ่งที่คนไทยไม่พูดถึงแม้กระทั่งในห้องเรียนนั่นเอง
“รวมกระทู้ JA ในตำนาน ที่ทำให้พันทิปล่มแล้วล่มอีก”
https://pantip.com/topic/30817305
เรื่องย่อ : JA คือใคร? JA ก็คือ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ และ เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ ไง ชาวเน็ตเขาเรียกคู่นี้ว่า JA มาจากหมวกแก๊ปปักอักษรย่อ JA ที่สาวเจนี่โพสต์ลงบอกชาวโลกเป็นนัยๆ ว่านี่มีซัมติงวิทซัมวัน กระทู้นี้ได้รวบรวมกระทู้ย่อยๆ อีกนับ 20 – 30 กระทู้ที่เกี่ยวกับ JA ดราม่าแห่งปี 2556 ที่มีหนึ่งในกระทู้เด็ดที่ปลิวไปแล้วว่าด้วยวันที่เจนี่จดทะเบียนกับเอ๋ ชนม์สวัสดิ์ ซึ่งมีคนคอมเมนต์ทะลุไปเกือบถึง 2,000 คอมเมนต์ภายใน 5 วัน จน Pantip ล่ม เข้าไม่ได้กันอยู่พักหนึ่งนั่นแหละค่ะ
ทำไมคนถึงสนใจ : เจนี่ไม่มีวันตายค่ะ เจนี่ทำอะไรทุกคนย่อมสนใจ เรื่องนี้ก็มีประเด็นเป็นพิเศษแต่ผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไป ที่หยิบยกขึ้นมาพูดถึงจะเป็นในเรื่องที่ว่า คนไทยให้ความสนใจกับข่าว (คาว) ดารามากๆ โดยเฉพาะเรื่องรักใคร่ชู้สาว
กระทู้นี้ฝากอะไรให้กับสังคม : กระทู้นี้แสดงให้เห็นว่าคนไทยนั้นให้ความสำคัญกับดราม่ามาก โดยเฉพาะเรื่องอะไรที่ค่อนข้างไปในทางลบของคนดัง เราก็จะได้เห็นการเผือกแบบมีสติและแบบที่ไม่มีสติ ด่าเอามัน ขุดย้อนอดีตคนนู้นคนนี้ไปตั้งแต่วัยถักเปีย หรือจุดประเด็นเพิ่มจนกระทั่งกระทบไปถึงคนรอบข้างที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่อง และที่สำคัญ กระทู้นี้ยังตอกย้ำว่าเรื่องดราม่าดาราและคนดังนั้นเป็นเรื่องที่ไม่มีวันตายในประเทศไทยจริงๆ เรื่องอื่นรู้ลึกได้เสี้ยวหนึ่งของเรื่องเจนี่กันมั้ย ฮึ? ไหน ตอบ!
“เจอศพ ที่ตึกร้าง!!!”
https://pantip.com/topic/32943074
เรื่องย่อ : ผู้ชายคนนี้ขึ้นไปถ่ายรูปที่ตึกร้างยอดฮิตย่านเจริญกรุงสาทร ที่คนชอบขึ้นไปถ่ายรูปกัน และเจอศพผู้ชายผูกคอตายที่ชั้น 40 กว่าๆ เขามาตั้งกระทู้แบบค่อนข้างเรียลไทม์เพื่อเล่าและปรึกษาว่าเขาจะทำอย่างไรดี เพราะเขาเพิ่งเจอสดๆ ร้อนๆ และเขาพยายามติดต่อ 191 ก็โทรไม่ติดเลยสักสาย ศูนย์นเรนทรโทรไปก็ไม่รับ โทร 199 ก็บอกว่าให้โทรไป 193 แต่อย่างน้อยก็ยังฟังเรื่องราวของเขาและถามชื่อเอาไว้ โทรไป 193 สายไม่ว่าง เดินไปป้อมตำรวจก็ไม่มีตำรวจอยู่แถมล็อกประตูอีกต่างหาก ไปอีกป้อมตำรวจก็บอกว่าคนละเขตกันต้องไปแจ้งเขตที่เค้าล็อกประตูนั่นแหละ…เจ้าของกระทู้เลยคิดว่าอย่างน้อยสาย 199 ก็คงพอรับเรื่องไว้แล้ว แต่ก็อยากมาเล่าให้ชาว Pantip ฟัง เพราะรู้สึกไม่สบายใจ และอยากปรึกษาว่าควรจะต้องโทรหรือไปแจ้งใครที่ไหนอย่างไรต่อไป สุดท้ายแล้วชาวเว็บ Pantip ช่วยกันโทรแจ้งทางนู้นทางนี้ โพสต์ในเพจของหน่วยงานต่างๆ จนสุดท้าย จส.100 และหน่วยกู้ภัยได้รับเรื่องเรียบร้อย ออกข่าวช่อง 3 กันเลยทีเดียว แล้วยังมี Plot Twist ด้วยนะตอนหลังที่เรื่องนี้ออกข่าวแล้ว ทางตำรวจออกมาบอกว่าไม่เห็นมีคนโทรมาแจ้งเลย ส่วนทางเจ้าของกระทู้เลยออกมาตอบโต้แบบเซ็งๆ ว่าก็โทรไปกี่สายแล้วไม่ติดสักสาย และชาว Pantip เลยก่นด่ากันยกใหญ่ว่า นอกจากจะพึ่งไม่ได้แล้วยังออกมาพูดปกป้องตัวเองแล้วโยนไปให้คนอื่นอีกต่างหาก
ทำไมคนถึงสนใจ : เพราะว่ามันคือการอัปเดตเหตุการณ์สดของการเจอศพเลยนะ…ทุกคนก็ลุ้นและคอยติดตามเพราะอยากรู้ว่าสุดท้ายแล้วจะมีหน่วยงานไหนไปเคลื่อนย้ายศพหรือไม่ และเรื่องราวจะออกมาเป็นอย่างไร เจ้าของกระทู้ตาฝาดหรือไม่ และชาว Pantip ก็ได้ช่วยกันกระหน่ำโทรแจ้งหน่วยงานต่างๆ และแปะกระทู้ตามหน้าเพจหน่วยงานต่างๆ อีกด้วย
กระทู้นี้ฝากอะไรให้กับสังคม : นอกจากจะชอบดราม่าไปหน่อย แต่คนไทยนั้นเวลาต้องช่วยเหลือกันจริงๆ ขึ้นมาก็ใส่ใจมากๆ เลยเหมือนกัน นอกจากจะใช้เว็บบอร์ดเพื่อความบันเทิงแล้ว นี่คือหนึ่งตัวอย่างในการใช้เว็บบอร์ดเพื่อเกิดประโยชน์ต่อสังคมโดยตรง เมื่อระบบหลายๆ ทางพึ่งไม่ได้ในขณะนั้น การขอความช่วยเหลือออนไลน์กลับทำให้เกิดผลได้รวดเร็วยิ่งกว่า และแสดงให้เห็นว่าคนไทยพร้อมจะช่วยเหลือในการสละเวลาคนละนิด โทรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยที่ไม่ได้อะไรตอบแทนแม้แต่น้อย
“ผมมีอะไรเล่าให้ฟัง ….กับเงิน 800 บาทกินทั้งเดือน…… สำหรับคนที่ท้อแท้หาทางออกกับชีวิตไม่ได้”
https://pantip.com/topic/31546057
เรื่องย่อ : เรื่องเล่าชีวิตในยามลำบากที่สุดของเจ้าของกระทู้ ผู้ซึ่งตกงานที่ต่างจังหวัด เลยทิ้งเงินเท่าที่ทิ้งได้ไว้ให้ลูกเมียไว้ซื้อข้าวกิน แล้วตัวเองก็จากบ้านมาด้วยเงิน 2,000 บาทถ้วนที่ได้มาจากการเอามือถือและอุปกรณ์คอมของตัวเองไปขายเพื่อมาหางานทำในกรุงเทพฯ นั่งรถไฟฟรีมาต่อรถเมล์ฟรี และเดินหางานตามร้านต่างๆ จนได้งานที่ร้านคอม ประกอบคอมค่าแรง 300 บาทต่อวัน ต้องนอนร้านเกมในคืนแรกที่ยังหาที่พักไม่ได้ ล้างหน้าล้างตัวในปั๊มน้ำมันเพื่อไปทำงาน จนหาห้องเช่าเล็กๆ ได้ และเหลือเงินกินทั้งเดือน 800 บาท เจ้าของกระทู้ได้เล่าให้ฟังว่าเขาทำยังไงกับเงินแค่ 800 บาทให้พอกินทั้งเดือน แถมยังนั่งรถไฟกลับไปเยี่ยมลูกเมียทุกสุดสัปดาห์ เขาซื้ออาหารซ้ำๆ จากข้างทางเช่นข้าวไข่เจียวและลูกชิ้นปิ้ง และซื้อปลากระป๋องในเซเว่นทุกวันจนคุ้นเคยกับพนักงานเป็นอย่างดี โดยเติมเงิน 500 บาทในบัตรเซเว่น เพื่อสะสมแต้มจนได้แลกอาหารฟรีเป็นปลากระป๋อง ไม่ก็ขนมปังหรือมาม่า เจ้าของกระทู้ได้เล่าถึงความลำบากและอดทดต่างๆ ตลอดเดือนนั้น ที่น้ำหนักลดไป 5 กิโลแต่ก็ไม่ได้ป่วยอะไร จนกระทั่งวันสุดท้ายก่อนเงินเดือนออกที่เขามีเงินเหลืออยู่ทั้งหมด 50 บาท ความสุขและตื้นตันที่เขาได้นำเงิน 50 บาทไปซื้อข้าวมันไก่พร้อมกับน้ำอัดลมหนึ่งกระป๋องนั้นทำให้ผู้อ่านทุกคนแทบน้ำตาไหลเลยทีเดียว เมื่อเงินเดือนออกเขาก็ได้ย้ายไปอยู่ห้องพักที่ใหญ่ขึ้นและกลับบ้านไปพาลูกเมียของเขามาอยู่ที่กรุงเทพฯ ด้วย ทุกวันนี้เจ้าของกระทู้บอกว่าเขาไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่ก็ไม่ลำบากแล้ว เรื่องราวดีๆ ของเขายังถูกนำไปทำเป็นหนังสั้นอีกด้วย เข้าไปดูได้ในกระทู้เลย
ทำไมคนถึงสนใจ : เพราะนี่คือเรื่องราวดีๆ ที่คนอ่านรู้สึกอินตาม และชื่นชมในความอดทนและพยายามของเจ้าของกระทู้ ที่มุมานะทนลำบาก และไม่ทิ้งลูกเมีย ทุกคนเลยเอาใจช่วย
กระทู้นี้ฝากอะไรให้กับสังคม : กระทู้นี้คือกำลังใจวัยทำงานอย่างแท้จริง เป็นเหมือนเพื่อนนั่งตบไหล่ยามชีวิตตกยาก ว่าเห้ย…คนที่เขาลำบากกว่าเราเขายังรอดมาได้ ทำไมเราจะทำไม่ได้ และเป็นเครื่องเตือนสติคนมีด้วยว่า บางสิ่งในชีวิตที่อยากได้อยากเพิ่มนั้นมันจำเป็นต่อชีวิตจริงๆ รึเปล่า ชาวเว็บก็ต่างมาขอบคุณผู้ชายคนนี้ที่เป็นเหมือนแรงบันดาลใจว่า…
“อ่านแล้วทำให้รู้สึกว่า ตัวเองอย่าฟุ้งเฟ้อ ยังมีคนที่ลำบากกว่าเราเยอะ ขอบคุณที่ทำให้คิดได้ค่ะ ชม.ก่อนหน้านี้ยังคิดว่าจะซื้อนู้น นี่ นั่น อยากไปทำสปา อยากๆ บลาๆๆ ต่อจากนี้ไป ทำงานเก็บเงินเพื่อลูก สัญญากับตัวเอง ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ”
“กำลังเซ็ง ๆ ท้อ ๆ เบื่อ ๆ อ่านกระทู้แบบนี้แล้วพลังชีวิตลุกโพลง..เหมือนไฟกำลังจะมอดได้ออกซิเจนมาเสริม
ขอบคุณครับ..”
และที่สำคัญ กระทู้นี้เป็นตัวอย่างของคนดี ที่แม้ว่าจะลำบากแล้วก็ยังไม่เลือกทางผิดไปเป็นมิจฉาชีพ แต่กลับอดทนทำงานสุจริต จนสุดท้ายไม่นานเกินรอก็มีชีวิตที่สุขสบายดี
“(กระทู้อยากจะบอก) ถึงคุณผู้หญิงที่นั่ง e13 โรง 13 THE HOBBIT 3D เซ็นทรัลลาดพร้าว รอบ18.20”
http://2g.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A13089446/A13089446.html
เรื่องย่อ : กระทู้ฟินๆ ตั้งแต่สมัยพันทิปยังเป็นหน้าตาแบบเก่าอยู่ เรื่องมีอยู่ว่าพ่อหนุ่มเจ้าของกระทู้ไปดู The Hobbit มาคนเดียว และพรหมลิขิตอันใดไม่รู้ชักพาให้มีสาวหน้าตาน่ารัก (ในสายตาเจ้าของกระทู้) มานั่งดูหนังข้างๆ ที่ติดกันคนเดียวเหมือนกัน และยังนั่งดูเครดิตท้ายเรื่องจนจบเหมือนกันอีกด้วย เลยทำให้เจ้าของกระทู้รู้สึกประทับใจถึงขั้นต้องมาประกาศตามหาปนระบายความในใจลง Pantip เลยทีเดียว และเรื่องมันไปพีกตรงมีสาวคนหนึ่งมาคอมเมนต์ว่า “ขอบคุณค่ะ” พร้อมกับโพสต์รูปตั๋วหนังที่นั่ง E13 รอบที่เจ้าของกระทู้ตามหาเลย! โอ้โห งานนี้ชาว Pantip ก็ฟินไปตามๆ กันสิคะ ถึงเราจะไม่รู้ว่าเจ้าของกระทู้จะสมหวังรึเปล่า แต่เรารู้ว่ามิตรภาพน่ารักๆ ก็ได้เกิดขึ้นจากกระทู้นี้แน่นอน
ทำไมคนถึงสนใจ : เพราะว่านี่คือเรื่องสุดฟินที่ทำให้ชาว Pantip รู้สึกเหมือนตัวเองได้ร่วมเป็นสักขีพยานรักในพล็อตที่อย่างกะหลุดออกมาจากหนังน่ะสิ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่อยู่ๆ จะมีคนมาโพสต์ตามหาคน และหาเจอด้วย เจ้าตัวมาแสดงตัวแบบนิ่งๆ พร้อมโพสต์รูปหลักฐานยืนยันตัว และเจ้าของกระทู้ก็โพสต์รูปตั๋วของตัวเองซึ่งมีเลขที่นั่งติดกันมาโชว์ด้วย ทำให้ชาว Pantip ลุ้นติดตามกันยกใหญ่เลยว่าเรื่องราวน่ารักๆ นี้จะลงเอยเช่นไร
กระทู้นี้ฝากอะไรให้กับสังคม : กระทู้นี้เป็นเรื่องราวน่ารักๆ ที่เกือบจะเป็นไปแทบไม่ได้ที่จะเกิดขึ้น หลายๆ คนในเว็บยังคงพูดถึงอยู่ คนอ่านคงรู้สึกเหมือนว่าโลกออนไลน์ยังมีความหวังเล็กๆ น้อยๆ ให้กับชีวิตและความรัก ว่าเรื่องราวบุพเพแบบนี้สามารถเกิดขึ้นกับเราได้จริงๆ ถึงเขาจะไม่ได้ลงเอยเป็นแฟนกัน แต่นั่นก็ดีมากพอแล้วที่จะทำให้ชาวเว็บมีพื้นที่เล็กๆ ได้จั๊กจี้หัวใจเวลาเข้ามาอ่าน