หากวันหนึ่งมีใครสักคนบอกว่า ตัวตนของคุณ เรื่องราวของคุณ วันเวลาที่ผ่านมาในชีวิตของคุณนั้นไม่ใช่เรื่องจริง ในตัวคุณมีใครอีกหลายคนซ่อนอยู่ ใครล่ะจะเชื่อว่ามันคือเรื่องจริง
“เมื่อบุคลิกหนึ่งปรากฏตัวออกมา เธอจะจำความรู้สึกนึกคิดของบุคลิกอื่นไม่ได้เลย ไม่มีความทรงจำของกันและกันที่เกิดขึ้นในช่วงที่เป็นคนๆ นั้น ลืมแม้กระทั่งการกระทำของตัวตนอีกบุคลิกที่เพิ่งผ่านพ้นไป”
| ‘คิมโนเบิล’ ศิลปินหลายบุคลิก
คิม โนเบิล จิตรกรหญิงผู้มีผมยาวสีน้ำตาล เจ้าของดวงตาสีฟ้า วัย 56 ปีคือตัวตนที่แท้จริง ผู้ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคความผิดปกติตัวตน (Dissociative Identity Disorder – DID) หรือที่เคยรู้จักกันในชื่อคนหลายบุคลิก โดยเธอแปรเปลี่ยนความเจ็บปวดในวัยเด็กออกมาเป็นภาพวาด ที่บอกเล่าเรื่องราวในชีวิตจากอีกกว่าเกือบ 100 บุคลิกที่ไม่สามารถระบุจำนวนที่แน่นอนได้ ผ่านร่างกายเพียงหนึ่งเดียว ซึ่งบุคลิกเหล่านี้ล้วนมีความแตกต่างกันอย่างมาก ทั้งชื่อ อายุ และนิสัยใจคอเฉพาะตัว บางคนเป็นเด็ก บางคนเป็นผู้ชาย ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามช่วงอายุ วัย และสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัว
| จิตใจที่แตกสลายจุดเริ่มต้นของโรคหลายบุคลิก
หลายคนอาจมองหาสาเหตุที่คนๆ หนึ่ง จะเปลี่ยนไปเป็นใครที่ไม่ใช่ตัวเองได้มากมายขนาดนี้ เรื่องราวเกิดขึ้นจากจิตใจที่แตกสลายราวกับแก้วที่หล่นลงบนพื้น จากเหตุการณ์ทารุณกรรมซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนวันเกิดครบสามขวบ โดยแต่ละเศษเสี้ยวมีความคิด มีชีวิตจิตใจของมันเอง ที่พร้อมจะเข้ายึดครองร่างของเธอตลอดเวลา
โดยพฤติกรรมหลายบุคลิก หลายคนคงเคยได้ยินโรคนี้ผ่านหูกันมาบ้าง และอาจตีความว่าคงเป็นโรคของคนอารมณ์แปรปรวน เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย แบบเดียวกับอาการไบโพลาร์ แต่จากข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า โรคหลายบุคลิก หรือ Multiple Personality Disorder เป็นโรคที่มีอยู่จริง โดยเกิดจากความซับซ้อนของสภาพจิตใจ ที่ถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง
“ส่วนใหญ่ผู้ป่วยโรคนี้มักจะเป็นเพศหญิงที่ได้รับความรุนแรงในวัยเด็กมาก่อน ทั้งการล่วงละเมิดทางเพศ หรือการทำร้ายร่างกาย จนทำให้ผู้ป่วยต้องสร้างตัวตนอีกบุคลิกขึ้นมาเพื่อลบบาดแผลในจิตใจ”
ถ้าหากยังนึกภาพไม่ออก อยากให้ลองนึกถึงภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่ชื่อว่า ‘SPLIT จิตหลุดโลก’ ซึ่งเป็นแนวจิตวิทยาเขย่าขวัญและระทึกขวัญ ที่เล่าเรื่องราวชายคนหนึ่งที่ป่วยเป็นโรคหลายบุคลิก โดยเขาแบ่งแยกบุคลิกออกเป็น 23 ตัวตน และหนึ่งในตัวตนที่ทรงอำนาจที่สุด คือ เดนนิส ได้จับเด็กหญิง 3 คนมาขังไว้ ก่อนที่เด็กๆ จะพยายามต่อสู้กับแต่ละตัวตนของเขาเพื่อหนีเอาชีวิตรอด ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างอาการของโรคนี้ ที่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นจริง และเกิดขึ้นกับใครก็ได้
| ศิลปะสื่อสารความเจ็บปวด
จากความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงคนหนึ่ง กับอีกหลากหลายบุคลิกในตัวเธอ แปรเปลี่ยนเป็นงานศิลปะ ‘คิม โนเบล’ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า บุคลิก เหล่านี้มี ตัวตน จริง เท่าที่คนๆ หนึ่งจะมีได้ มีความชอบ ความสนใจ มีนิสัยส่วนตัวที่ไม่มีใครเหมือนใคร ซึ่งสิ่งที่เห็นได้เป็นรูปธรรมที่สุดของตัวตนเหล่านี้คงเป็นภาพวาด หรือผลงานศิลปะ เพราะจริงๆ แล้วการสร้างงานศิลปะแต่ละชิ้นนั้นเป็นเรื่องความสามารถเฉพาะตัว น้ำหนักของแต่ละเส้น แต่ละฝีแปรง ทุกครั้งที่จรดพู่กันลงสี เทคนิคพวกนี้เราอาจเลียนแบบผลงานใครต่อใครได้ แต่สุดท้ายแล้วการจะสร้างสรรค์ผลงานด้วยตัวเองสักชิ้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่คนๆ หนึ่งจะสามารถสร้างสรรค์ชิ้นงาน ที่แตกต่างกันและมีเอกลักษณ์ออกมาจำนวนมาก
ซึ่งในเว็บไซต์ส่วนตัวที่รวบรวมผลงานของเหล่าบุคลิกต่างๆ ของ ‘คิม โนเบล’ จนกลายเป็นแกเลอรีขนาดย่อม ซึ่งส่วนใหญ่เนื้อหาในภาพนั้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจ ที่เคยถูกทำร้ายจนไม่สามารถกลับมาเป็นเธอคนเดิมได้อีกต่อไป
Judy – สาวน้อยวัย 15 ปี ที่ป่วยเป็น Anorexia (อะนอเร็กเซีย) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าโรคคลั่งผอม จูดี้วิตกกังวลเรื่องรูปร่าง ห่วงเรื่องแคลอรี่อยู่ตลอดเวลา โดยผลงานของเธอแสดงให้เห็นถึงการล่วงละเมิดทางเพศอยู่ในนั้น
Ria Pratt – หญิงสาวที่ถ่ายทอดผลงานผ่านสีสันสดใส แต่สื่อให้เห็นถึงความรุนแรงและการทารุณกรรมทางเพศ ซึ่งสังเกตได้ว่าแทบทุกภาพจะมีตุ๊กตาหมีอยู่ในภาพด้วยเสมอ เสมือนเป็นตัวแทนของเธอในวัยเด็กที่ต้องพบเจอกับเรื่องราวเหล่านี้
เช่นกันกับ Ken – ชายหนุ่มอายุ 21 ปี ที่ ‘คิม โนเบล’ ระบุว่าบุคลิกนี้เป็นเกย์ หรือ LGBT โดยผลงานของเขาแสดงออกมาผ่านหลากหลายเทคนิค ทั้งการปาด การหยด ไปจนถึงการขูด ขีดลงบนผืนผ้าใบ
| All Of Me
เรื่องราวทั้งหมดของคิม โนเบิล หญิงสาวที่มีบุคลิกที่แตกต่างกันในร่างเดียว ถูกรวบรวมผ่านบุคลิกหนึ่งในร่างของเธอที่ชื่อว่าแพทริเซีย เป็นหนังสือที่ชื่อว่า All Of Me โดยในหนังสือนั้นตีแผ่โรคหลายบุคลิกไว้อย่างน่าสนใจ จนหลายคนคิดว่าเธอแต่งเรื่องขึ้นมาเองหรือเปล่า
แต่ ‘แพทริเซีย’ ก็ได้รับการยืนยันและวินิจฉัยแล้วว่าเธอเป็นโรคหลากหลายบุคลิกจริงๆ ซึ่งแต่ละตัวตนจะสลับสับเปลี่ยนโดยไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ ซึ่งมีสาเหตุจากการถูกกระตุ้นที่แตกต่างกัน ทั้งผู้หญิงวัยรุ่น เด็กหญิง คนวิปริต ผู้ชาย ศิลปิน ซึ่งแต่ละบุคลิกต่างมีชื่อและลักษณะนิสัยเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนกัน และทุกตัวตนต่างคิดว่าพวกเขามีตัวตนเป็นของตัวเอง บางตัวตนก็จะพบเจอกันนานๆ ครั้ง แต่มีบางตัวตนที่หายไปแล้วไม่กลับมาอีกเลย
แม้ผลงานที่บุคลิกทั้งหมดของ ‘คิม โนเบิล’ สร้างสรรค์ขึ้นมาจะงดงามไม่แพ้ศิลปินชื่อดังเลย แต่ภายใต้สีสันอันสดใส ฝีแปรงและปลายพู่กันที่สะบัดลงไป มันแฝงไปด้วยความเจ็บปวดมากมายจนเราเองก็ไม่อาจรับรู้ได้ ดังนั้นการทำร้ายร่างกาย หรือทำร้ายจิตใจ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใครก็ตาม สิ่งเหล่าจะสร้างรอยแผลเป็นเอาไว้กับผู้ถูกกระทำไปตลอดชีวิต
Writer
