ธุรกิจโรงแรมเป็นหนึ่งในธุรกิจที่สร้างของเสียให้สิ่งแวดล้อมในปริมาณมากกว่าที่เราคาดคิด และการจะทำให้โรงแรมเป็นสถานที่ที่ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมได้จริงนั้นก็ดูเป็นเรื่องยากไม่ใช่น้อย
‘Varana Krabi’ คือโรงแรมที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ซึ่งไม่ใช่แค่การปลูกต้นไม้เพิ่มสีเขียวให้พื้นที่เท่านั้น แต่ยังมองไปถึงว่าธุรกิจโรงแรมก็เป็น Zero Waste ได้
‘แจน-ชลชญา ปันยารชุน’ General Manager และ Head of Corporate Business Development เล่าให้เราฟังว่า โรงแรมแห่งนี้มีความตั้งใจที่จะเป็นโรงแรมที่รักสิ่งแวดล้อมจริงๆ โดยพื้นที่เดิมนั้นเป็นที่ดินเปล่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายในโรงแรมล้วนทำขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ภายใต้คอนเซปต์ความยั่งยืนที่ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติเท่านั้น แต่คนเองก็รักษาและสร้างความยั่งยืนไปด้วยได้
เอื้อเฟื้อพื้นที่ต่อสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยในธรรมชาติ

จากจุดยืนนี้เอง นำมาสู่การสร้าง Sustainable System ในโรงแรม ไม่ว่าจะเป็น ‘บ้านแมลง’ ที่ทางโรงแรมจำลองก้อนหินระหว่างทางเดินสำหรับเป็นที่อยู่ของแมลงชนิดต่างๆ การเปิด-ปิดไฟตามเวลา เพื่อเอื้อให้แมลงได้ใช้ชีวิตตามธรรมชาติเพื่อส่งผลไปถึงการขยายพันธุ์
หรือ ‘การเลี้ยงชันโรง’ ที่ไม่ได้เลี้ยงเพื่อเอาน้ำผึ้งมากินหรือขาย แต่เลี้ยงเอาไว้เพื่อเป็นดัชนีวัดว่าระบบนิเวศภายในพื้นที่โรงแรมมีความสมบูรณ์จริงๆ เนื่องจากชันโรงเป็นผึ้งที่บินได้ในระยะไม่ไกล และจะกินเกสรดอกไม้ที่อยู่บริเวณโดยรอบ ถ้าผึ้งเหล่านี้อาศัยอยู่ในพื้นที่ของโรงแรมได้ นั่นแปลว่าบริเวณนี้มีสารเคมีที่โอเค โอโซนที่โอเค เอนไซม์ที่ใช้ได้ผล ต้นไม้เติบโตได้ดี พูดง่ายๆ ว่าเป็นการนำหลักการของธรรมชาติมาใช้ นั่นคือ ถ้าแมลงที่ดีอยู่ได้ แมลงที่ไม่ดีจะน้อยลง
ระบบน้ำและอาหารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นอกจากส่วนดูแลสัตว์ตัวน้อยที่เป็นดัชนีชี้วัดทางธรรมชาติแล้ว โรงแรม Varana ยังจัดทำ ‘ธนาคารน้ำ’ ขึ้นมา เนื่องจากพื้นที่ของโรงแรมอยู่บนเนินเขา ทำให้เวลาฝนตก น้ำจะไหลลงไปด้านล่าง

ภายในโรงแรมจึงมีธนาคารน้ำกระจายตัวอยู่หลายจุด และจะมีขนาดหลุมเล็กใหญ่ที่แตกต่างกันไป มีความลึกตั้งแต่ 30 เซนติเมตรไปจนถึง 1 เมตร โดยจะสร้างโพรงที่ทำจากวัสดุรีไซเคิลและไม้ไผ่ที่ปลูกในท้องถิ่นเพื่อทำหน้าที่เป็นทางให้น้ำไหล ก่อนจะปิดด้วยก้อนกรวด เวลาฝนตก น้ำจะได้ไหลลงสู่ผิวดินไปเจอกับจุดธนาคารน้ำอื่นๆ
กระบวนการเหล่านี้เป็นการกักเก็บน้ำฝนเอาไว้ พอถึงช่วงหน้าแล้งที่ฝนไม่ตก น้ำที่กักเก็บเอาไว้ในชั้นผิวดินเหล่านี้จะถูกดึงมาใช้ ทำให้ต้นไม้ดอกไม้ต่างๆ ในโรงแรมเติบโตได้แม้จะไม่ได้รดน้ำก็ตาม ซึ่งนอกจากช่วยประหยัดน้ำแล้ว ยังเป็นการลดอุณหภูมิให้อากาศไม่ร้อนจนเกินไปด้วย
‘ม๊ะ-ฮาสมะห์ ฮะ’ Assistant Front Office Manager พาเราไปดูสวนเล็กๆ บนดาดฟ้า ที่เป็นการเปลี่ยนพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้งานมาเป็นพื้นที่ปลูกผัก และเล่าให้ฟังว่า ภายในโรงแรมมีต้นไม้หลายชนิดที่ปลูกเอาไว้เพื่อนำผลไปเสิร์ฟในห้องอาหาร เช่น กล้วย แอปเปิล ในแต่ละครั้งแขกที่เข้าพักจะได้กินผลไม้ที่แตกต่างกันไปตามฤดูกาล

อีกทั้งพืชผักที่ปลูกในโรงแรมนี้ล้วนใช้ปุ๋ยทำเองจาก Food Waste ที่เหลือจากห้องอาหาร ส่วนวัตถุดิบบางส่วนที่โรงแรมไม่มีหรือมีไม่เพียงพอ ก็จะติดต่อซื้อผลผลิตจากชาวบ้านอีกที เพื่อเป็นการสนับสนุนอาชีพและเศรษฐกิจของชุมชน
เปิดพื้นที่ให้ผู้เข้าพักดูแลสุขภาวะโดยไม่สร้างคาร์บอน
อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของโรงแรมแห่งนี้คือ Wellness ที่มีบริการดูแลตัวเอง เช่น สปา กิจกรรมวารีบำบัดอย่าง NAAM Wellness และการออกกำลังกาย โดยทางโรงแรมสนับสนุนให้แขกผู้เข้าพักได้ออกกำลังกายแบบ Zero Waste
ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งรอบโรงแรม อุปกรณ์ภายในยิมที่เน้นอุปกรณ์ที่เล่นได้โดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า หรือสระว่ายน้ำมาตรฐานโอลิมปิก ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นองค์ประกอบของการดูแลตัวเองที่ควบรวมไปถึงความยั่งยืน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหลักยึดของโรงแรมแห่งนี้
ทั้งนี้ยังมีอีกหลายส่วนของโรงแรมที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการรักษาสิ่งแวดล้อม ยกตัวอย่าง พื้นกระเบื้องของสปาที่ทำขึ้นจากเศษเซรามิกถูกทิ้งในสุสานเซรามิก จังหวัดลำปาง ที่นำมาบดละเอียดและขึ้นรูปใหม่ก่อนนำมาปูพื้น หรือการนำเอาถังน้ำมันเก่ามารีไซเคิลเพื่อประกอบใหม่เป็นป้ายระบุเลขตึก เป็นต้น



