Anstalten ดีไซน์เรือนจำให้เป็นมิตร เพื่อเยียวยาผู้ต้องขังกลับสู่สังคม

Schmidt Hammer Lassen (SHL) ออกแบบ ‘Anstalten’ เรือนจำที่มีความปลอดภัยสูงสุดในเกาะกรีนแลนด์ให้เหมือนหมู่บ้านขนาดย่อมที่รองรับนักโทษได้ 76 คน

‘Stand Beside You’ สติกเกอร์ไลน์ที่ส่งต่อกำลังใจให้คนรอบข้าง และสนับสนุนงานด้านสิทธิมนุษยชน

ท่ามกลางความยากลำบากในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 จนใครหลายคนรู้สึกท้อแท้และ หมดกำลังใจ ช่วงเวลานี้อาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับหลายคนในการเอ่ยปากบอกความรู้สึกในใจให้คนรอบข้างได้รับรู้  เราอยากชวนมาส่งต่อกำลังใจให้คนรอบข้างผ่านสติกเกอร์ไลน์ชุด ‘Stand Beside You’ โปรเจกต์พิเศษจาก Amnesty ประเทศไทย ที่จะส่งเสียงพูดความในใจ พร้อมทั้งทำให้คุณส่งกำลังใจให้คนรอบข้างได้ง่ายขึ้น  และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการทำงานด้านสิทธิมนุษยชนของ Amnesty อีกด้วย โดยรายได้จากการจำหน่ายสติกเกอร์ไลน์ทั้งหมด จะนำไปสนับสนุนการทำงานเพื่อปกป้องและส่งเสริมเสรีภาพของเด็กไทยในโครงการ “Child in Mob ในม็อบมีเด็ก” โดยจะนำไปซื้ออุปกรณ์ระบุตัวตนของเด็กในพื้นที่ชุมนุมได้ เช่น สายรัดข้อมือที่ไม่เพียงช่วยระบุและยืนยันตัวตนสำหรับเด็กแต่ยังช่วยเป็นจุดสังเกตของผู้ใหญ่ที่เข้าร่วมการชุมนุม เช่น สื่อมวลชนต้องระวังการถ่ายภาพและลงรูปของเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี หรือแม้แต่ช่วยระแวดระวังการถูกล่วงละเมิดทางเพศและร่างกายกับเด็กในพื้นที่การชุมนุม รวมทั้งผลิตและจัดส่งคู่มือปฏิบัติการเด็กนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นคู่มือการทำงานสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการทำงานกับเด็กและเยาวชนที่จะแจกจ่ายไปทั่วประเทศ ดาวน์โหลดสติกเกอร์ไลน์ได้ที่นี่ : Store line

‘ร้านชำใกล้ฉัน’ แคมเปญช่วยร้านชำใกล้ตัวในกรุงเทพฯ ในช่วงวิกฤติ

เมื่อรัฐมีมาตรการล็อกดาวน์ อีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบคือร้านชำเล็กๆ ที่กระจายตัวอยู่ทั่วเมือง ร้านชำเหล่านี้เคยเป็นที่พึ่งของคนเมืองและชุมชน โดยปกติแล้วเรามักจะซื้อของจากร้านชำใกล้บ้าน หรือใกล้ที่ทำงานกันบ่อยๆ แต่เมื่อออกจากบ้านไม่ได้ ก็ทำให้โอกาสที่เราจะได้ช่วยอุดหนุนร้านชำน้อยลง  ร้านชำใกล้ฉัน (Local Shop Near Me) เกิดขึ้นจากความต้องการที่จะสนับสนุนร้านค้ารายย่อยในชุมชน เกิดการกระจายรายได้โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติโรคระบาดและเศรษฐกิจซบเซาแบบนี้ และชวนผู้คนให้เปลี่ยนการซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ ให้เป็นร้านชำรายเล็กที่อยู่ทั่วเมืองมากขึ้น เพราะร้านเหล่านี้มักจะไม่มีตัวตนบนออนไลน์ ไม่ได้เข้าร่วมแอปฯ ต่างๆ และได้รับผลกระทบเช่นกันในช่วงวิกฤติ ขณะนี้ทีมร้านชำใกล้ฉันกำลังอยู่ในกระบวนการรวบรวมข้อมูลร้านชำรายย่อยในเขตกรุงเทพฯ จึงอยากขอแรงเจ้าของร้านและเพื่อนๆ ที่อยากสนับสนุนร้านชำได้ช่วยกันแจ้งพิกัดร้านและให้ข้อมูลเกี่ยวกับร้าน หากคุณรู้จักหรือมีข้อมูลร้านชำใกล้บ้าน ร้านโชห่วยในชุมชน สามารถแบ่งปันข้อมูลกับทีมงานร้านชำใกล้ฉัน ได้ที่ https://forms.gle/EvUWEwwB6aBpydPt5 หลังจากรวบรวมข้อมูลแล้วร้านชำใกล้ฉัน จะนำข้อมูลร้านค้าที่ได้รับการแบ่งปันจากทุกคนไปสร้างแผนที่ฉบับง่าย และนำข้อมูลทุกร้านไปโปรโมตเผยแพร่ผ่านทุกช่องทางที่มี เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค และเพิ่มโอกาสการขายให้แก่ร้านรายย่อยมากขึ้น  Source : Facebook | ร้านชำใกล้ฉัน (Local Shop Near Me)

แทบจะไม่ต้องลงจากรถแล้ว รัฐอินเดียนาทดสอบถนนชาร์จไฟฟ้า ชาร์จไฟฟ้าอัตโนมัติขณะขับขี่ซะเลย

ยุคนี้รถยนต์ไฟฟ้าไม่ต้องการจุดชาร์จ แต่เติมพลังงานได้แม้ขณะอยู่บนท้องถนนแล้ว เพราะ Magment บริษัทพลังงานทางเลือกสัญชาติเยอรมันได้ร่วมมือกับรัฐอินเดียนาและ Purdue University ทดสอบถนนที่จะชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าโดยอัตโนมัติขณะขับขี่ ผ่านอุปกรณ์พิเศษที่ฝังอยู่ใต้พื้นผิวของถนนที่มีส่วนผสมของอนุภาคแม่เหล็กและคอนกรีต ถนนสายนี้สร้างเป็นระยะทางสั้นๆ ใกล้กับ Purdue University เชื่อว่าสามารถส่งไฟฟ้าจากพื้นผิวเข้าไปสู่รถยนต์ได้ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ และหากการทดสอบในครั้งนี้สำเร็จ จะมีการสร้างถนนขึ้นอีกสายภายในกรมขนส่งรัฐอินเดียนา โดยเพิ่มระยะทางเป็น 400 เมตร และยกระดับจากการทดสอบด้วยรถกระบะเป็นรถบรรทุก ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนมากกว่าเดิมว่าจะเพียงพอต่อการใช้งานจริงหรือไม่ ก้าวต่อไป รัฐอินเดียนามองถึงการขยายถนนชาร์จไฟอัตโนมัติบนทางหลวง Joe McGuiness กรรมาธิการกรมการขนส่งรัฐอินเดียนา เผยว่า ในขณะที่คนใช้ยานพาหนะไฟฟ้ากันอย่างแพร่หลายมากขึ้น ความต้องการโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชาร์จที่สะดวกสบายและเชื่อถือได้ก็มีมากขึ้นตามไปด้วย  อย่างไรก็ตาม ความท้าทายไม่ได้อยู่ที่ว่าจะทำได้อย่างไร แต่จะเข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมหรือชีวิตประจำวันได้อย่างไร โดยวิศวกรของมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์คาดการณ์เอาไว้ว่า เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ห่างไกลจากการใช้งานจริงไปอย่างน้อย 5 – 10 ปี  Sources : Futurism | https://futurism.com/the-byte/indiana-test-roads-charge-electric-vehiclesTech Xplore | https://techxplore.com/news/2021-07-indiana-magment-magnetized-concrete-electric.html

ร้อนทะลุแพ็กเกจจิ้ง! คลื่นความร้อนใน USA ทำแผ่นเสียงงอระหว่างขนส่ง

“PACKAGE CONTAINS VINYL RECORDS, DO NOT LEAVE IN DIRECT SUNLIGHT (f*ck climate change)” นี่คือประโยคบนกล่องพัสดุที่ค่ายเพลง Joyful Nouse Records แปะเอาไว้ หลังค่ายเพลงอิสระจำนวนมากในสหรัฐอเมริกากำลังประสบปัญหา ‘แผ่นเสียง’ บิดงอ เพราะปัญหาคลื่นความร้อนสูงเป็นประวัติการณ์ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ อเมริกากำลังเผชิญหน้ากับความร้อนอุณหภูมิ 43 องศาเซลเซียส และบางพื้นที่ทะลุไปถึง 46.6 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว ซึ่งการขนส่งแผ่นเสียงได้รับผลกระทบหนัก ด้วยวัสดุของแผ่นไวนิลที่ไวต่ออุณหภูมิและความชื้น บวกกับระยะเวลาการจัดส่งกินเวลานานถึง 2 สัปดาห์ (ค่ายเพลงส่วนใหญ่ใช้ขนส่งแบบ Media Mail เพราะราคาถูกกว่ามากแต่ช้ามากเช่นกัน) ทำให้พัสดุโดนความร้อนบ่มเป็นสัปดาห์ จนลูกค้าได้รับแผ่นเสียงแบบบิดๆ เบี้ยวๆ ไปแทน ความน่าตกใจคือเวลาแพคพัสดุส่ง มันต้องมีบรรจุภัณฑ์อย่างพลาสติก บับเบิลกันกระแทก และกล่องลังกระดาษหุ้มทับอีกชั้นหนึ่ง แต่ความร้อนทะลุแพ็กเกจจิ้งเข้าไปทำให้แผ่นเสียงเสียหายได้ เล่นเอาเหล่าค่ายเพลงเซ็งไปเป็นแถบๆ เพราะอาจกระทบกับธุรกิจแผ่นเสียงที่กำลังไปได้ดีแบบเทน้ำเทท่ากลับติดๆ ขัดๆ เสียอย่างนั้น ซึ่งบางค่ายเสนอทางออกให้ลูกค้าด้วยการเลื่อนการจัดส่งออกไปจนกว่าคลื่นความร้อนในภูมิภาคนั้นๆ จะดีขึ้น หรืออัปเกรดการขนส่งให้เป็น ‘Priority mail’ […]

Elmhurst Ballet School โรงเรียนที่สนับสนุนให้นักบัลเลต์รุ่นใหม่มั่นใจในรูปร่างของตัวเอง

จะดีไหมถ้าฉันผอมกว่านี้ แขนเล็กกว่านี้ หรือขาเล็กกว่านี้? ถ้ามีรูปร่างที่เพอร์เฟกต์จะทำให้ฉันเป็นนักเต้นที่เก่งที่สุดได้หรือเปล่า?  คำถามเหล่านี้คือสิ่งที่อยู่ในใจของนักบัลเลต์หลายคนที่ต้องแบกรับความรู้สึกกดดันกับค่านิยมการมีรูปร่างที่สมบูรณ์แบบ ต้องผอมเท่านั้นถึงจะดูเหมาะสมกับการเป็นนักบัลเลต์ การจะเป็นนักบัลเลต์มืออาชีพได้ต้องทุ่มสุดตัวทั้งร่างกายและจิตใจเพื่อให้การแสดงออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด แค่คิดว่าต้องซ้อมให้หนัก แต่กินให้น้อยเพื่อรักษาความผอมเอาไว้ให้ได้ ก็คงไม่ใช่เรื่องดีต่อสุขภาพของนักบัลเลต์เลย ค่านิยมความสมบูรณ์แบบนี้เองที่ทำให้นักบัลเลต์หลายคนต้องเจ็บปวดกับเส้นทางการตามฝันเพื่อที่จะเป็นมืออาชีพ เพราะระหว่างทางทำให้หลายคนมีปัญหาสุขภาพจิต ต้องไดเอตอยู่ตลอด จนทำให้มีพฤติกรรมการกินอาหารที่ผิดปกติ (Eating Disorder) หรือเป็นโรคกลัวอ้วน (Anorexia) ส่งผลเสียกับสุขภาพกายและสุขภาพจิตในระยะยาว ที่สำคัญกระทบกับการยืนระยะเป็นนักบัลเลต์อาชีพด้วยเช่นกัน  Elmhurst Ballet School โรงเรียนสอนบัลเลต์คลาสสิกเก่าแก่ในอังกฤษที่ตั้งมาตั้งแต่ ค.ศ. 1923 เปิดสอนสำหรับเด็กอายุ 11 – 19 ปี ที่อยากเป็นนักบัลเลต์มืออาชีพ เห็นว่าปัญหาสุขภาพจิตเป็นเรื่องสำคัญของคนรุ่นใหม่ และความกดดันเรื่องรูปร่างคือปัญหาที่เด็กในวัยนี้ไม่ควรต้องเผชิญโดยลำพัง จึงได้ก่อตั้งทีมพิเศษขึ้นมาเพื่อดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจของนักเรียนอย่างใกล้ชิด และช่วยให้พวกเขาเป็นนักบัลเลต์ที่เก่งกาจได้โดยที่ยังมั่นใจในรูปร่างของตัวเองด้วย Annelli Paevot หนึ่งในทีมผู้ดูแลด้านสุขภาพของนักเรียนเล่าว่า โรงเรียนจะมีขั้นตอนการให้การช่วยเหลือที่เป็นระบบ มีแนวทางในการปฏิบัติตัวให้กับนักเรียนที่มีพฤติกรรมการกินอาหารที่ผิดปกติอย่างละเอียด สามารถให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองและรักษา และพร้อมให้ข้อมูลกับนักเรียนและผู้ปกครองที่กำลังต้องการความช่วยเหลือในเรื่องนี้โดยเฉพาะ    เพื่อให้นโยบายนี้เกิดขึ้นจริง Elmhurst จึงใช้วิธีการประเมินสุขภาพนักเรียนทั้งหมด 6 ครั้งตลอด 1 ปี เพื่อติดตามดูพัฒนาการและปัญหาสุขภาพของนักเรียน หากทีมผู้ดูแลเริ่มสังเกตเห็นว่านักเรียนคนใดมีพฤติกรรมการกินที่เริ่มผิดปกติ จะมีการพูดคุยและให้คำแนะนำเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ รวมถึงแจ้งครอบครัวให้รับทราบเพื่อที่จะได้ช่วยดูแลอีกทาง เพราะเธอคิดว่ายิ่งรู้เร็วเท่าไรว่านักเรียนมีปัญหาจะทำให้โรงเรียนสามารถให้ความช่วยเหลือพวกเขาได้ทันท่วงที ก่อนที่สุขภาพของนักเรียนจะทรุดโทรมไปมากกว่านี้  […]

ช้อปช่วยเส้นด้าย อุดหนุนข้าวกล่องให้คนกักตัวและเที่ยวรถให้ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ ‘ร้านเส้นด้าย’

รับเรื่องผู้ป่วยโควิด-19 1,692 คน วิ่งรถรับ-ส่งผู้ป่วยโควิด-19 มากกว่า 2,200 เที่ยวรับเคสเข้ารักษา 294 คนดูแลสัตว์เลี้ยงของคนไข้ 64 ตัวและ ส่งข้าวให้คนกักตัว หรือเดือดร้อนไปแล้ว 6,000 กล่อง ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ ‘เส้นด้าย’ กลุ่มอาสาสมัครเพื่อสังคม ที่มีเป้าหมายอยากเป็นบริการรถรับส่งเคสผู้ป่วยติดโควิด-19 หรือ ความเสี่ยงสูงต่อการติด ‘ฟรี’ ทำมาตลอด 2 เดือน ทว่าการลงมือลงใจของเส้นด้ายซึ่งควักกระเป๋าตัวเองมาช่วยประชาชนโดยไม่มีหน่วยงานใดช่วยเหลือนั้น ย่อมติดขัดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ เส้นด้ายจึงเปิด ‘ร้านเส้นด้าย’ ให้ประชาชนซื้อสินค้า และบริการในร้าน เพื่อเอาไปแจกและให้บริการฟรีสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 หากคุณมีเงิน 25 บาท สามารถสนับสนุนข้าวกล่องให้คนกักตัว หรือให้ทีมงานเส้นด้ายกินได้ หากคุณมีเงิน 300 บาท สามารถซื้ออุปกรณ์ป้องกันเชื้อโควิด-19 ให้เส้นด้ายทำงานอย่างปลอดภัยหรือ หากคุณซื้อเที่ยวรถ 1 เที่ยว สำหรับรับ-ส่งผู้ติดเชื้อโควิด-19 เท่ากับว่าคุณได้ช่วยพวกผู้ป่วย 1 คน ร่วมสนับสนุนองค์กรเพื่อประชาชน โดยดูรายละเอียดเมนูทั้งหมดได้ที่ เส้นด้าย – Zendai

กระเบื้องผนังเปลือกไข่ ปลายทางใหม่ของการกำจัดเศษอาหาร

แต่ละวันเรากินไข่ไก่เฉลี่ยคนละ 1 – 2 ฟอง แล้วลองคูณจำนวนคนทั้งโลกเข้าไป คิดดูว่าเปลือกไข่ถูกทิ้งต่อวันจะมีกี่พันล้านฟองกัน ซึ่งพอรวบรวมเป็นสถิติรายปีพบว่าเรามีขยะเปลือกไข่ราว 250,000 ตัน/ปี และมักใช้การฝังกลบในการกำจัดขยะ โดยพื้นที่ 1 ตร.ม. ฝังเปลือกไข่ได้ประมาณ 2,000 ฟอง และใช้ระยะเวลา 20 วันเพื่อย่อยสลาย  ดูเหมือนการกำจัดเปลือกไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่ดีไซเนอร์ชาวฮ่องกง ‘Elaine Yan Ling Ng’ อยากหาปลายทางใหม่ของเศษเปลือกไข่ที่ครีเอต เพิ่มมูลค่า และทำประโยชน์ได้มากกว่าการ ‘ทิ้ง’ จึงรีไซเคิลเปลือกไข่ให้กลายเป็น ‘CArrelé’ คอลเลกชันกระเบื้องปูผนัง โดยกระเบื้อง 1 ตร.ม. ช่วยลดจำนวนขยะได้มากถึง 20,000 ฟอง และใช้เวลาผลิตเพียง 2 วันเท่านั้น ด้วยภาพจำของคนมักมองว่าเปลือกไข่มีความเปราะบาง หารู้ไม่ว่ามันแข็งแรงกว่านั้นมหาศาล แถมยังทนต่อรังสี UV ธรรมชาติด้วย โดยขั้นตอนการทำกระเบื้อง พวกเขาจะรวบรวมเปลือกไข่ที่ถูกทิ้งจากร้านเบเกอรี ครัวโรงแรม และตามชุมชนที่ตั้งรอบโรงงานในเมืองเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ แล้วนำมาบดให้ละเอียด ก่อนจะผสมเข้ากับสารเคมี ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยให้วัสดุยึดเกาะกันได้แน่นขึ้น […]

‘Mirrored Fabric’ ผ้าสะท้อนรังสี แฟชั่นใหม่ของมนุษย์ เพื่อการอยู่อาศัยในสภาวะโลกร้อน

หลักการง่ายๆ ของการแต่งตัวในชีวิตประจำวันคือ ถ้าคุณอยากรู้สึกเย็นสบายในวันที่ร้อนเหลือเกิน ให้เลือกใส่เสื้อผ้าสีขาวหรือเสื้อสีอ่อน เพราะสามารถช่วยสะท้อนแสงแดด ระบายความร้อน ทำให้ร่างกายเย็นสบาย ในทางกลับกันหากเลือกผ้าสีเข้มผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นอาจจะตรงกันข้าม  จากหลักวิทยาศาสตร์ง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน นักวิจัยจากจีนได้พัฒนาไปอีกขั้น โดยใช้เทคโนโลยีสร้างเป็นผ้าชนิดพิเศษที่รูปลักษณ์ภายนอกดูผิวเผินเหมือนผ้าธรรมดา แต่กลับมีคุณสมบัติที่สะท้อนแสงแดดและรังสี UV หรือรังสีอินฟราเรดชนิดต่างๆ ได้มากกว่าเนื้อผ้าธรรมดาทั่วไป ผ้าชนิดพิเศษนี้มีชื่อว่า ‘Meta Fabric’ ทำจากเส้นใยสังเคราะห์ผสมกับพอลิแลกติกแอซิด เคลือบอนุภาคนาโนด้วยแร่ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ในยานอวกาศ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงสรรพคุณนี้ นักวิจัยได้ทดลองให้คนใส่เสื้อกั๊กที่ครึ่งหนึ่งตัดเย็บจากผ้าฝ้ายสีขาวธรรมดา และอีกครึ่งทำจากเนื้อผ้า Meta Fabric ผลปรากฏว่าหลังจากนั่งตากแดดเป็นเวลา 1 ชม. ร่างกายที่หุ้มด้วยผ้าชนิดพิเศษนี้มีอุณหภูมิเย็นกว่าผ้าฝ้ายถึง 5 องศาเซลเซียส  แม้ว่าผ้าดังกล่าวจะอยู่ในช่วงพัฒนา แต่ก็ทำให้เราเห็นถึงศักยภาพในการพัฒนาของเทคโนโลยีของเสื้อผ้าในอนาคต เพราะในอนาคตอันใกล้ท่ามกลางอุณหภูมิที่ร้อนระอุของโลก เสื้อผ้าอาจจำเป็นต้องมีนวัตกรรมที่ช่วยให้มนุษย์ใช้ชีวิตในโลกที่ร้อนขึ้นทุกวันได้ดีขึ้นก็เป็นได้ Source : https://www.freethink.com/environment/mirrored-fabric

คืนอรรถรสในการเดินริมหาดด้วย BeachBot หุ่นยนต์เก็บก้นบุหรี่ ที่เก็บบุหรี่ 20 ชิ้นใน 30 นาที

อรรถรสในการเดินบนหาดทรายขาวต้องหยุดชะงัก เมื่อสองเท้าเผลอไปเหยียบขยะก้นบุหรี่ของใครก็ไม่รู้ โอ๊ย! ทำไมทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทาง  ทว่าการเปลี่ยนพฤติกรรมคนมันแก้ยากซะเหลือเกิน Edwin Bos และ Martijn Lukaart สองผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีจาก TechTics ร่วมกับนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเดลฟท์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ จึงสร้างหุ่นยนต์เอไอทำความสะอาดก้นบุหรี่บนชายหาดขึ้นมาในชื่อ ‘BeachBot’ ซึ่งสามารถเก็บก้นบุหรี่ 20 ชิ้นใน 30 นาที! BeachBot หรือเรียกสั้นๆ ว่า BB เป็นหุ่นยนต์ขนาด 80 เซนติเมตรที่พัฒนาอัลกอริทึมการตรวจจับด้วยเอไอ เชื่อมต่อกับ Microsoft Trove แอปฯ ที่เชื่อมต่อกับนักพัฒนาเอไอและผู้ถ่ายภาพบุหรี่ทั่วโลก เพื่อให้เจ้าหุ่นยนต์จดจำบุหรี่ได้หลากหลายแบบ กริปเปอร์หรือมือจับของหุ่นยนต์เคลื่อนที่ด้วยระบบการเคลื่อนที่แบบคาร์ทีเซียน โดยมีมอเตอร์สองตัวช่วยประมวลผลในการเดินขึ้น-ลง หรือเดินขวา-ซ้าย นอกจากนี้หุ่นยนต์ยังเรียนรู้การหยิบจับก้นบุหรี่เพื่อไม่ให้สร้างความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติบนชายหาดอย่างเปลือกหอยอีกด้วย Source : Designboom | https://bit.ly/3f3Bg7c

ผู้หญิงต้องได้ใส่ชุดที่ตัวเองมั่นใจ! นักยิมนาสติกเยอรมันใส่ชุดเต็มตัวแข่งโอลิมปิกสนับสนุนทางเลือกเครื่องแต่งกาย

ฤดูกาลโอลิมปิกกลับมาอีกครั้งหลังจากถูกเลื่อนออกไปเพราะวิกฤตโควิด-19 และดูเหมือนว่าปีนี้จะมีเรื่องน่าสนใจนอกเหนือจากการแข่งขันกีฬา นักกีฬาจากหลายประเทศแสดงการเคลื่อนไหวทางสังคมที่หลากหลายโดยเฉพาะประเด็นเรื่องเครื่องแต่งกาย อย่างล่าสุดนี้ทีมนักยิมนาสติกหญิงจากเยอรมนีที่เลือกลงแข่งในชุดเต็มตัว แทนชุดยิมนาสติกรัดรูปและเว้าสูงอย่างที่เคยใส่กันมา ตามกฎแล้วชุดรัดรูปคือชุดมาตรฐานของกีฬายิมนาสติก ทั้งแบบแขนยาว แขนสั้น และไม่มีแขน ส่วนใหญ่เราจะเห็นนักกีฬาหญิงใส่ชุดรัดรูปขาเว้าสูงแบบบิกินี่ น้อยครั้งนักที่จะเห็นนักยิมนาสติกหญิงใส่ชุดรัดรูปขายาว-แขนยาวแบบเต็มตัว เพราะที่ผ่านมาชุดเต็มตัวถูกยกเว้นไว้สำหรับนักกีฬามีข้อกำหนดด้านศาสนา หรือมีประจำเดือนในขณะแข่งขันเท่านั้น แต่ในกรณีนี้ทางสหพันธ์ยิมนาสติกนานาชาติไม่มีปัญหา ขอแค่ชุดส่วนบนและส่วนล่างเป็นสีเดียวกัน การเรียกร้องครั้งนี้ของทีมนักยิมนาสติกหญิงเยอรมันทำเพื่อแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงควรมีเสรีภาพในการเลือกสวมใส่ชุดที่พวกเธอมั่นใจในการแข่งขันได้ และต่อต้านการทำให้นักกีฬาหญิงเป็นวัตถุทางเพศผ่านเครื่องแต่งกายที่ล่อแหลม Sarah Voss หนึ่งในทีมชาติเยอรมนีกล่าวว่า “นักกีฬาทุกคนควรรู้สึกปลอดภัยขณะแข่งขัน และการตัดสินควรดูจากผลงานการแสดงของพวกเขา ไม่ใช่ดูจากรูปร่าง” และเธอยังกล่าวว่า “ในทีมชาติเยอรมนีถ้าใครรู้สึกปลอดภัยหรือชอบชุดยิมนาสติกเว้าสูงก็สามารถใส่ได้ หรือถ้าอยากใส่แบบขายาวก็ใส่ได้เหมือนกัน ในทีมเราไม่ได้มีการบังคับ ทุกคนมีสิทธิ์เลือกชุดที่อยากใส่ เธอเองก็ไม่ได้อยากใส่ชุดรัดรูปขายาวเสมอไป ขึ้นอยู่กับว่าวันนั้นเธออยากแสดงแบบไหนแค่นั้นเอง” นอกจากทีมชาติเยอรมนีแล้ว นักยิมนาสติกหญิงทีมชาตินอร์เวย์ยังชื่นชมการตัดสินใจครั้งนี้ และสนับสนุนเพื่อนนักกีฬาทีมเยอรมนีที่กล้าแสดงจุดยืนเรื่องสำคัญของนักกีฬาอีกด้วย  การเรียกร้องเรื่องเครื่องแต่งกายของนักกีฬาหญิงในการแข่งขันโอลิมปิกที่เป็นประเด็นก่อนหน้านี้คือกรณีของทีมนักกีฬาแฮนด์บอลหญิงจากนอร์เวย์ที่ปฏิเสธการใส่ชุดบิกินี่เข้าแข่งขัน ทำให้ถูกปรับจากสหพันธ์แฮนด์บอลแห่งยุโรป นักร้องอเมริกันชื่อดังอย่าง P!nk เสนอจะจ่ายค่าปรับให้เพื่อสนับสนุนการต่อต้านการทำให้นักกีฬาหญิงเป็นวัตถุทางเพศ การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเป็นเวทีที่นานาประเทศจะได้แสดงศักยภาพผ่านการแข่งขันกีฬา แต่ในปัจจุบันโอลิมปิกเป็นพื้นที่ที่ทำให้นักกีฬาได้ตั้งคำถามและสื่อสารสิ่งที่ตนต้องการไปสู่สายตาประชาคมโลกด้วยเช่นกัน Sources : BBC Sport | https://www.bbc.com/sport/av/gymnastics/56916789Reuters | https://tinyurl.com/2ea255ep

เกิดไม่ทันเห็น ก็ได้เห็น เมื่อเชียงใหม่คืนชีพเจดีย์หลวง 600 ปีด้วยเทคนิค Projection

เวลาไปท่องเที่ยวสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เราต่างวาดฝันถึงความงดงาม ความสมบูรณ์ ของโบราณสถานที่แตกหัก เราเห็นเพียงเศษซากของอารยธรรมที่เคยรุ่งเรือง จนในบางครั้งเราก็คงอยากเห็นว่ายามรุ่งเรืองของโบราณสถานนั้นหน้าตาจะเป็นอย่างไร แตกต่างจากภาพวาดมากน้อยแค่ไหน  แต่เราอาจจะไม่ต้องจินตนาการคิดไปไกลอีกต่อไป เพราะล่าสุดสมาคมสถาปนิกล้านนาฯ ร่วมกับศูนย์นวัตกรรมล้านนาสร้างสรรค์ ได้ทดลอง Installation Art ครั้งสำคัญ ส่องแสงเลเซอร์ไปยังองค์เจดีย์หลวงวรวิหาร โบราณสถานที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้เทคนิค “Projection” หรือ “ภาพฉาย” สร้างเส้นรอบรูปขององค์เจดีย์ในลักษณะภาพฉายสองมิติ แต่งเติมลงไปบนตัวเจดีย์ที่เป็นสามมิติ การทดลองนี้จึงเป็นการลองใช้ “มิติความแบน” จากโลกกราฟิกสองมิติด้วยขนาดความน่าจะเป็น 1 ต่อ 1 ของตัวโบราณสถาน เพื่อกระตุ้นการรับรู้ใหม่ให้ “มิติความลึก” ในโลกกายภาพสามมิติ เพื่อเติมเต็มซากปรักหักพังด้วยจินตนาการ ศิลปะ และวิทยาศาสตร์ แต่งแต้มความสมบูรณ์ขององค์เจดีย์ ให้เราได้ชื่นชมความงดงาม ความยิ่งใหญ่ ด้วยตาเปล่า โดยไม่กระทบโครงสร้างของโบราณสถานเดิม ตามการอ้างอิงรูปทรง ความสูง จากการศึกษาเทียบเคียงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ โดยนักวิชาการ นักประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมล้านนาหลายท่าน นับเป็นก้าวที่สำคัญของวงการศิลปะและวัฒนธรรม ในอนาคตเราคงจะได้เห็นภาพ Visual ของโบราณสถานอีกหลายแห่งในประเทศไทยในรูปแบบงานศิลปะร่วมสมัยมากขึ้นและอาจจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นกระตุ้นการท่องเที่ยวโบราณสถานให้กลับมาครึกครื้นอีกครั้ง 

1 98 99 100 101 102 122

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.