Drinks On Me แพลตฟอร์มบาร์ทิพย์สู่บาร์จริง ที่ชวนคนแปลกหน้ามาฮีลใจ ด้วยบทสนทนาจากค็อกเทล

ในแต่ละวันเราคงมีปัญหาอัดอั้นที่ต้องการระบาย แต่พอจะคุยกับคนรอบตัวก็กลัวเขาลำบากใจ ครั้นจะให้ออกไปพบปะสังสรรค์กับคนแปลกหน้าในสถานที่ต่างๆ ก็อาจไม่สะดวกใจขนาดนั้น ด้วยเหตุนี้ ทำให้ใครหลายคนเริ่มมองหาการพูดคุยแลกเปลี่ยนบทสนทนากับคนแปลกหน้าในโลกออนไลน์มากขึ้น แอปพลิเคชันประเภทหาเพื่อนคุยจึงได้รับความนิยมเป็นจำนวนมาก และแอปฯ เหล่านี้ก็เริ่มเข้ามามีอิทธิพลต่อผู้คนในเมืองขึ้นเรื่อยๆ หนึ่งในนั้นคือ ‘Drinks On Me’ แพลตฟอร์มบาร์ทิพย์ออนไลน์ ที่เปลี่ยนบรรยากาศการพูดคุยแบบเดิมๆ ในห้องแชตเปล่าๆ ให้ได้ความรู้สึกใหม่เหมือนกับไปอยู่ในบาร์จริงๆ โดยมีคาแรกเตอร์การ์ตูนน่ารักๆ มาสร้างความเป็นมิตรให้ตัวเว็บไซต์ พร้อมกิมมิกเจ๋งๆ อย่างการเลือกค็อกเทลที่บ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกของผู้ใช้งาน เพื่อใช้เป็นจุดเริ่มต้นบทสนทนา จนกลายเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้ใครหลายๆ คนกล้าแชร์ความคิดและความรู้สึกออกไป หลังจากเคยนำเสนอแพลตฟอร์มนี้ในช่วงแรกๆ ที่เปิดตัวไปแล้ว คอลัมน์ Re-desire ถือโอกาสชวน ‘นะโม-ชลิพา ดุลยากร’ และ ‘ปั่น-วศิน วัฒนศรีส่ง’ ผู้ก่อตั้ง Drinks On Me ที่เพิ่งครบ 1 ปีไปเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน มาพูดคุยถึงตัวแพลตฟอร์มที่มีการพัฒนาแนวคิดมาเรื่อยๆ ถึงขนาดมีโอกาสร่วมงานกับแบรนด์ใหญ่ และขยายขอบเขตกิจกรรมพาผู้คนบนโลกออนไลน์มาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่บาร์จริง รวมถึงเป้าหมายในอนาคตหลังจากนี้ของพวกเขา เริ่มต้นจากความสนุกที่อยากชวนคนมาชนแก้วบนโลกออนไลน์ ถ้าหลายคนจะคุ้นหน้าหญิงสาวในภาพก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะนะโมคือ TikToker ช่อง ‘รุงรังDiary’ ที่มีผู้ติดตามถึง 1.3 ล้านแอ็กเคานต์ และอีกบทบาทเธอก็เป็นเจ้าของ […]

หลงเหลือ เหนือกาลเวลา ตามหาร่องรอยเก่าในกรุงเทพฯ

ระหว่างแวะทานราดหน้าแถวบางโพ เราเหลือบไปเห็นแท่งเหล็กแท่งหนึ่งแปะข้างผนังตึกที่ถัดจากร้านนี้ไปประมาณ 2 – 3 คูหา จากรูปทรงเป็นเกลียวๆ ก็พอเดาได้ว่าเคยเป็นร้านทำผมมาก่อนแน่ๆ ทำให้นึกถึงตัวเองที่ชอบถ่ายรูปตามตึกต่างๆ ในเวลาว่าง อย่างล่าสุดช่วงปีใหม่ เราไปย่านประดิพัทธ์แล้วเจอใบปลิวอายุไม่ต่ำกว่า 50 ปีซ่อนอยู่ใต้ระแนงเหล็ก นี่เลยเป็นที่มาของ One Day Trip กับตัวเอง ที่พกกล้องไปตามหาตึกเก่าในกรุงเทพฯ ว่ามีร่องรอยอะไรหลงเหลืออยู่ โดยเฉพาะร่องรอยที่ดู ‘เหนือกาลเวลา’ แต่จะให้ตระเวนทั่วกรุงเทพฯ อาจจะไม่ไหว เลยจำกัดเอาเฉพาะย่านที่เคยไปบ่อยๆ อย่างเขตดุสิต บางซื่อ ถนนประดิพัทธ์ สวนมะลิ และตรอกโรงเลี้ยงเด็ก และนี่คือตัวอย่างภาพที่ได้จากการท้าทายตัวเอง ตามหาสิ่งของที่ยังหลงเหลืออยู่แต่ปัจจุบันนี้เลิกใช้ หรือร้านที่เลิกกิจการไปแล้วแต่คงเหลือไว้แค่รอยป้าย หรือป้ายที่ยังสภาพสมบูรณ์แต่แค่ซีดจางไปตามกาลเวลา สัญลักษณ์อะไรสักอย่างตรงทางเข้าชุมชนบ้านพักองค์การทอผ้า คาดว่าเป็นสัญลักษณ์ขององค์การทอผ้า เพราะเท่าที่พยายามค้นหาจาก Google ก็ไม่พบสัญลักษณ์ที่พอจะเทียบได้ พบเพียงแต่เอกสารพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การทอผ้า พ.ศ. 2498 จากเว็บไซต์ของคลังสารสนเทศของสถาบันนิติบัญญัติ (parliament.go.th) ไฟหมุนร้านทำผม ดูจากลักษณะของฟอนต์ที่กล่องเหล็กด้านหลังไฟหมุนนั้น คาดว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า 40 ปี ติดอยู่ข้างร้านชำแห่งหนึ่งที่อยู่ถัดจากร้านราดหน้าบางโพไปประมาณ 3 – 4 คูหา […]

‘รถแดงพาร์ค’ กับไอเดียปลูกต้นไม้บนพาหนะเดินทางประจำย่านสุขุมวิทใต้ ที่ทำให้เห็นว่าอยู่ที่ไหนก็ปลูกต้นไม้ได้

สิ่งปลูกสร้างในเมืองยิ่งมีมากขึ้นเท่าไร สีเขียวของต้นไม้ก็ลดน้อยลงไปเท่านั้น โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่มีโครงการตึกสูงมากมาย ด้วยข้อจำกัดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพื้นที่หรือการดูแลรักษา ทำให้หลายคนล้มเลิกแผนการปลูกต้นไม้ และไม่ได้สนใจที่จะเติมสีเขียวให้เมืองเพิ่มขึ้น ‘ภิรัชบุรี กรุ๊ป’ จึงเล็งเห็นถึงความสำคัญของพื้นที่สีเขียวภายในเมือง ได้นำเสนอโปรเจกต์ ‘รถแดงพาร์ค’ ในรูปแบบของสวนสาธารณะเคลื่อนที่ ซึ่งเป็นผลงานหนึ่งในเทศกาล ‘Bangkok Design Week 2024’ เพื่ออยากเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างความรู้สึกต่อชุมชนย่าน ‘สุขุมวิทใต้’ ว่าการปลูกต้นไม้ไม่ใช่เรื่องยากหรือเรื่องไกลตัว แต่เป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิต เช่นเดียวกับ ‘รถแดง’ ที่เป็นส่วนหนึ่งในการเดินทางของคนในชุมชน ‘รถแดงพาร์ค’ เป็นส่วนหนึ่งของงาน ‘Bangkok Design Week 2024’ ที่เกิดขึ้นจากการออกแบบ ‘รถแดง’ เอกลักษณ์ของขนส่งสาธารณะที่ชาวสุขุมวิทใต้คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ให้กลายเป็นสวนเคลื่อนที่สู่ชุมชน กระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ เพื่อเติมเต็มสีเขียวให้กับย่านและเชื่อมโยงชุมชนด้วยธรรมชาติ ใน 6 ทำเลตลอดทั้งย่านสุขุมวิทใต้ ไอเดียเริ่มต้นมาจากจำนวนต้นไม้ในเมืองที่มีน้อยลงทุกวัน ด้วยรูปแบบการอยู่อาศัยในคอนโดฯ และอพาร์ตเมนต์ที่มีมากขึ้น ทำให้หลายคนมองข้ามการปลูกต้นไม้ในบ้านไปเพราะพื้นที่มีน้อย แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น ไม่ว่าจะมีพื้นที่จำกัดแค่ไหนเราก็ปลูกต้นไม้ได้เหมือนเดิม ทางโครงการจึงนำเอารถแดงมาเชื่อมโยงเข้ากับต้นไม้ เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับคนเมืองได้เห็นว่า ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถปลูกต้นไม้ได้ ไม่เว้นแม้แต่ในรถแดงเองก็ตาม อีกกิมมิกน่ารักๆ ของกิจกรรมนี้คือ ต้นไม้กระถางเล็กๆ บนรถแดงไม่ได้นำมาประดับรถเพื่อเป็นผลงานการออกแบบอย่างเดียวเท่านั้น แต่ทุกคนที่ผ่านไปผ่านมาสามารถแวะซื้อต้นไม้กลับบ้านไปเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ที่อยู่อาศัยได้ด้วย […]

Arcade Game Center จากตู้เกมอาเขตในตำนานสู่ Game Center

เด็กรุ่นใหม่คงไม่คุ้นชินกับคำว่าอาเขต แต่สำหรับคนรุ่นเราแล้ว อาเขตถือเป็นความเจริญขั้นสุดในยุคนั้น เพราะเป็นสถานที่ที่อัดแน่นไปด้วยสินค้าและบริการมากมาย รวมถึงเป็นพื้นที่ตู้เกมค่อนข้างใหญ่ น่าตื่นตา หรือที่ปัจจุบันเรียกว่าเกมโซนหรือเกมเซ็นเตอร์ อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนจากคำว่าอาเขตเป็นห้างสรรพสินค้า ดังนั้นภาพจำที่เกี่ยวกับอาเขตของเราจึงมีภาพตู้เกมอยู่ด้วยเสมอ แม้ว่าสมัยรุ่นๆ เราจะไม่เคยสนใจตู้เกมในอาเขตเลย แต่เมื่อเริ่มถ่ายภาพก็พบว่าเกมโซนในห้างฯ คือทำเลทองในการบันทึกภาพความทรงจำอย่างแท้จริง ทั้งเหล่าตู้เกมหน้าตาแปลกประหลาด บรรยากาศที่มืดสลัว ดูลึกลับ จนเหมือนหลุดเข้าไปในอีกมิติ แสงสีที่กะพริบระยิบระยับน่ามอง เสียงเพลงดังสนั่น เสียงกดปุ่มไม่ยั้ง หรือแม้แต่เสียงคนพูดคุยกันอึกทึกครึกโครม แต่สำหรับตากล้องมือใหม่อย่างเรา เสน่ห์ที่ดึงดูดให้เข้าไปมากที่สุดก็คือผู้คนที่อยู่ในพื้นที่เหล่านั้น ไม่มีใครสนใจใคร ต่างก็ปลดปล่อยความเป็นเด็กในตัวออกมา และทุกวันนี้เกมเซ็นเตอร์หลายๆ แห่งก็ไม่ได้มีแค่เด็กนักเรียนที่แอบไปเล่นเกมเท่านั้น เพราะ Game Zone ได้กลายเป็น Family Zone ไปแล้ว พื้นที่แห่งนี้จึงเต็มไปด้วยคนทุกเพศทุกวัย ทั้งเด็กเล็ก เด็กโต เด็กตัวโต และคนที่เคยผ่านช่วงวัยเด็กมาเนิ่นนาน ทุกคนล้วนเข้ามาหาความสุข ขณะที่หลายคนก็มาเพื่อย้อนคิดถึงวันวานอีกครั้ง เรารู้สึกว่าถ้าเก็บภาพเหล่านี้ไว้ตั้งแต่ตอนนี้ ในอีกหลายสิบปีข้างหน้าที่ปัจจุบันกลายเป็นอดีต และเรื่องเล่าของคนในยุคนั้น หากมีบันทึกภาพถ่ายเอาไว้ก็น่าจะช่วยให้พวกเขาเห็นภาพและรู้สึกถึงช่วงเวลาที่ไม่เคยมีโอกาสได้สัมผัส *หมายเหตุ คำว่า ‘อาเขต’ มาจาก Arcade ซึ่งหมายถึงทางเดินที่มีหลังคาช่องโค้งเรียงรายโดยต่อกันเป็นแถวยาว หรือทางเดินภายในอาคารที่มีร้านรวงต่างๆ ข้างทาง และคนสมัยก่อนก็นิยมเรียกห้างสรรพสินค้าที่มีลักษณะนี้ว่าอาเขต เช่น […]

Still Light – Still Life แสงอาทิตย์ยังคงอยู่

‘Still Light – Still Life (II) (แสงอาทิตย์ยังคงอยู่ (II)), 2022’ เป็นบันทึกภาพถ่ายในชีวิตประจำวันในช่วงเวลาหนึ่งของฉัน โดยพัฒนามาจากผลงาน ‘แสงอาทิตย์ยังคงอยู่ (I), 2021’ ทว่าในภาพถ่ายชุดที่ 2 นี้เป็นการเริ่มต้นขยายขอบเขตความเข้าใจเกี่ยวกับแสงอาทิตย์ ซึ่งการมีอยู่ของมันทำให้ฉันมีความหวัง ที่ผ่านมาฉันได้ทำความเข้าใจความสัมพันธ์อันหลากหลาย ที่ทำให้เกิดทั้งความรู้สึกสบายใจเหมือนมีแสงอาทิตย์คอยเยียวยา ความรู้สึกหดหู่ใจเหมือนโดนเงามืดของแสงกลืนกิน และการไม่รู้สึกถึงอะไรจนเหมือนทุกอย่างหยุดนิ่ง ทั้งหมดเป็นผลมาจากสถานการณ์และสิ่งแวดล้อมรอบตัวที่ฉันตั้งใจพาตัวเองเข้าไป รวมถึงปล่อยให้สถานการณ์นำพาให้ไปพบเจอกับความสัมพันธ์นั้นเอง หากลองขยายมุมมองให้กว้างขึ้น นอกจากเป็นความหวัง แสงอาทิตย์ก็ยังมีเงาเป็นอีกด้านของความสว่าง ทำให้ฉันนึกถึงบางเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ในความมืด แสงเปลี่ยนผ่านจากสิ่งหนึ่งไปสู่สิ่งหนึ่ง ท้ายที่สุดแล้ว แสงอาจไม่ได้สะท้อนแค่ความหวังจนทำให้ฉันยึดติดอยู่กับการไขว่คว้ามันมาเพียงอย่างเดียว แต่ยังสะท้อนมุมมองในแบบอื่นๆ ที่ทำให้ฉันเดินไปข้างหน้า พร้อมหันหลังกลับไปมอง และแสงยังช่วยสร้างความเข้าใจเรื่องการมีชีวิตอยู่มากขึ้น จากบทเรียนนี้ ทำให้ฉันอยากเล่าเรื่องความรู้สึกที่ได้เผชิญในตอนนั้นผ่านชุดภาพถ่าย บันทึกห้วงความทรงจำ โดยไล่เรียงเป็นเส้นของความรู้สึกที่ไร้จุดจบ จนก่อเกิดมาเป็นผลงานแสงอาทิตย์ยังคงอยู่ทั้ง 2 ชุด ถือเป็นผลผลิตที่ได้จากการมองหาและทำความเข้าใจเรื่องราวชีวิตในระหว่างที่ฉันเป็นนักศึกษา ซึ่งปัจจุบันฉันยังคงถ่ายภาพต่อไปตามช่วงวัยที่เติบโตขึ้นภายใต้สถานการณ์และดวงอาทิตย์ที่เป็นแสงให้แก่โลกใบนี้ ติดตามผลงานของ ศิริน ม่วงมัน ต่อได้ที่ Instagram : perthsirin และหากคุณมีชุดภาพถ่ายที่อยากจะร่วมแชร์ในคอลัมน์ Urban Eyes สามารถส่งมาได้ที่ […]

‘Siradasue’ นักวาดเว็บตูน ที่อยากเห็นคนอ่านรักย่านเมืองเก่ามากขึ้น ถึงขนาดทำทริปเดินตามรอยโลเคชันในเรื่อง

ย้อนกลับไปในช่วงปลายปีที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสไปเดินทริปตามรอยการ์ตูนเรื่อง ‘Moonlight Serenade’ ที่นำโดยนักวาดเว็บตูนลายเส้นเป็นเอกลักษณ์อย่าง ‘Siradasue’ หรือ ‘โบว์-ศิรดา สื่อไพศาล’ ซึ่งก่อนหน้านี้เธอเคยฝากฝีไม้ลายมือกับเรื่อง Blooming Days การ์ตูนแนว Slice of Life ที่พูดถึงเรื่องราวความรักและช่องว่างระหว่างวัยของเหล่าตัวละครจนถูกใจใครหลายคน แม้จะเป็นทริปเล็กๆ จบในหนึ่งวัน แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์แสนอบอุ่นหัวใจ ที่พาเราเริ่มต้นเดินตามรอยความทรงจำของลิลี่และฟรานซิสในย่านตลาดน้อย-ทรงวาด เพื่อเยือนสถานที่จริงที่ใช้เป็นแรงบันดาลใจในการวาดภาพสถาปัตย์เรื่อง Moonlight Serenade แถมยังได้เรียนรู้เรื่องราวสถาปัตยกรรมของตึกแถว และการค้าขายกับต่างชาติของย่านเมืองเก่าในอดีต และต่อให้ทริปเดินตามรอยจะจบลง แต่ลิลี่ ฟรานซิส และตัวละครอื่นๆ ของโบว์ก็ยังคงใช้ชีวิตอยู่ในย่านตลาดน้อย-ทรงวาดภายใต้ลายเส้นการ์ตูนของเธอต่อไป จากความประทับใจในทริปครั้งนี้ Urban Creature ขอถือโอกาสยืมตัวนักวาดคนเก่งมาสนทนากันถึงเรื่องราว แนวคิด และประสบการณ์ในชีวิต ที่ทำให้อดีตกราฟิกดีไซเนอร์หันมาจับปากกาวาดลวดลาย จนกลายเป็นนักวาดการ์ตูนชาวไทยที่ได้มีผลงานตีพิมพ์ลงหน้าหลักของ LINE WEBTOON ที่มียอดวิวรวมมากกว่า 4.4 ล้านวิว และได้เรตติงสูงถึง 9.9 เต็ม 10 ดาว เดบิวต์ในฐานะนักวาด นามปากกา Siradasue ของโบว์เกิดขึ้นง่ายๆ จากการนำชื่อจริงของเธอมารวมเข้ากับพยางค์แรกของนามสกุล อาจไม่ได้มีความหมายลึกซึ้ง […]

Heart GURU การ์ดเกมว่าด้วยเรื่องหัวใจ ความสัมพันธ์ และเพศสัมพันธ์ ที่อยากให้สังคมไทยตระหนักรู้เรื่องความรุนแรงทางเพศมากขึ้น

‘ความรุนแรงทางเพศ’ และ ‘อคติทางเพศ’ ในสังคมไทยเปรียบเสมือนสำนวนภาษาอังกฤษที่ว่า ‘Elephant in the Room’ ซึ่งหมายถึงปัญหาใหญ่ที่ทุกคนรับรู้ดี เห็นได้ชัดเจน แต่กลับหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงหรือตั้งใจทำเป็นมองไม่เห็นมัน ไม่ว่ากี่ปีผ่านไปเราก็ยังเห็นปัญหาเหล่านี้กันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ผ่านเรื่องเล่าของคนใกล้ตัวที่ตกเป็นเหยื่อ หรือแม้แต่พาดหัวข่าวตามสื่อต่างๆ ที่สะท้อนว่าการใช้ความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศได้ฝังรากลึกอยู่แทบทุกแวดวง ไม่ว่าจะเป็นวงการบันเทิง การศึกษา ภาคธุรกิจ หรือแม้แต่ในพรรคการเมืองเองก็ตาม ทว่ายังมีกลุ่มคนจำนวนไม่น้อยที่พยายามส่งเสียงและสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความรุนแรงทางเพศ หนึ่งในนั้นคือ Thaiconsent สื่อออนไลน์ที่อยากชวนสังคมไทยพูดคุยเรื่องเพศและความสัมพันธ์ในเชิงลึก Thaiconsent พยายามสื่อสารประเด็นเรื่องเพศผ่านช่องทางออนไลน์มาตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรุนแรงทางเพศ การล่วงละเมิดทางเพศ รวมถึงความยินยอมพร้อมใจในการมีเพศสัมพันธ์ (Sexual Consent) และล่าสุด Thaiconsent ต้องการสื่อสารกับผู้คนในรูปแบบใหม่ จึงพัฒนาและออกแบบการ์ดเกม ‘Heart GURU รอบรู้เรื่องหัวใจ’ โดยตั้งใจทำให้เป็นสื่ออีกประเภทหนึ่งที่ส่งต่อข้อมูลที่ถูกต้อง และชวนให้คนแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์ในมิติต่างๆ ตามไปคุยกับ ‘นานา-วิภาพรรณ วงษ์สว่าง’ ผู้ก่อตั้ง Thaiconsent ถึงแนวคิดเบื้องหลังการออกแบบการ์ดเกม Heart GURU และความตั้งใจที่จะส่งต่อความรู้เกี่ยวกับหัวจิตหัวใจ ความสัมพันธ์ และเพศสัมพันธ์ ให้ไปถึงคนจำนวนมากที่สุด จุดเริ่มต้นของ Heart GURU นานาเล่าย้อนความให้ฟังว่า […]

การออกแบบที่ดีต้องดูไปถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ คุยกับ 3 ทีมสถาปนิกไทยที่ไปคว้ารางวัลไกลถึงญี่ปุ่น จากงาน TOSTEM Asia Design Award 2023

การออกแบบที่ดีต้องมาพร้อมกับการเลือกใช้วัสดุอย่างพิถีพิถัน ยิ่งเป็นการออกแบบบ้านและสิ่งปลูกสร้างในไทยที่มีสภาพอากาศร้อนชื้น ยิ่งจำเป็นต้องเลือกผลิตภัณฑ์อาคารจำพวกประตู หน้าต่าง หรือผลิตภัณฑ์นอกตัวบ้านให้ดี เพราะถือเป็นสิ่งสร้างความสมดุลระหว่างภายในและภายนอกตัวบ้าน และระบายอากาศได้เป็นอย่างดี ซึ่งถ้าพูดถึงแบรนด์ผู้ผลิตประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมสำเร็จรูป ก็คงไม่มีใครไม่รู้จัก ‘ทอสเท็ม’ (TOSTEM) แบรนด์ชั้นนำสำหรับผลิตภัณฑ์อาคารที่อยู่อาศัยจากประเทศญี่ปุ่นที่เข้าใจความต้องการของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง เพื่อส่งมอบ ‘โซลูชันที่ตอบรับกับไลฟ์สไตล์’ (Lifestyle Solutions) ให้การใช้งานมีความยืดหยุ่นและตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกครั้งที่ใช้งาน ด้วยการออกแบบโดยใช้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ พัฒนาเทคโนโลยีและสร้างนวัตกรรมที่สามารถตอบสนองความต้องการในทุกยุคสมัย จนทำให้ TOSTEM ดำเนินกิจการมาแล้วกว่า 100 ปี และเนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปีนี้เอง ทาง TOSTEM จึงจัดกิจกรรมการประกวด TOSTEM Asia Design Award 2023 ขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อให้สถาปนิกในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ส่งผลงานการออกแบบของสถาปนิกที่มีประสบการณ์ในการใช้สินค้าของทาง TOSTEM เข้ามาแข่งขัน งานนี้มีสถาปนิกผู้สนใจจากทั่วภูมิภาคเอเชียส่งผลงานเข้าร่วมถึง 133 ผลงาน และที่น่าดีใจไปกว่านั้นคือ มีผลงานการออกแบบของสถาปนิกชาวไทยสามารถสร้างชื่อเสียงคว้ารางวัลมาได้ถึง 3 ผลงานด้วยกัน จากผู้ที่ได้รับรางวัลทั้งหมด 10 รางวัล วันนี้ Urban Creature ชวนทุกคนไปพูดคุยกับ 3 เจ้าของผลงานที่ได้รับรางวัล […]

ตามไป Art Hopping กับ ‘meanlee’ นักวาดชาวไทยที่สถาบันเกอเธ่ฯ ส่งไปเสพงานศิลปะที่เบอร์ลิน

ความฝันของคนเป็นศิลปินทุกคน นอกจากจะมีพลังสร้างงานศิลปะของตัวเองออกมาได้อย่างต่อเนื่องและ Enjoy the Process อยู่เสมอ หลายคนคงปักหมุดในใจว่าอยากเสพงานศิลปะที่หลากหลาย เปิดหูเปิดตามากเท่าที่จะทำได้ และบางครั้งอาจฝันถึงการไปเยือนเมืองแห่งศิลปะสักครั้งในชีวิต ‘มีน-ธันยธรณ์ ลี้ไวโรจน์’ ก็เคยฝันแบบนั้น เธอคือศิลปิน กราฟิกดีไซเนอร์ และนักวาดภาพประกอบฟรีแลนซ์ที่ชีวิตผูกติดกับการวาดมาตลอด อาจเพราะสีสันฉูดฉาด ลายเส้นที่ดึงดูดสายตา และข้อความทางการเมืองบางอย่างที่ซ่อนไว้ในงานของมีน เธอจึงได้โอกาสจากสถาบันเกอเธ่ฯ สถาบันที่นอกจากโด่งดังเรื่องการสอนภาษาเยอรมันแล้ว ยังเป็นสะพานเชื่อมต่อให้คนไทยและศิลปินเยอรมันได้ใกล้ชิดกัน ผ่านกิจกรรมและโครงการพิเศษมากมาย กรณีของมีนก็นับเป็นหนึ่งในนั้น มีนถูกเลือกจากสถาบันเกอเธ่ฯ ที่สนับสนุนการเดินทางไปเข้าร่วมงาน Berlin Art Week และ Stuttgarter Comictage ที่ประเทศเยอรมนีเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ซึ่งเธอออกปากว่าเป็นประสบการณ์พิเศษที่ไม่เหมือนประสบการณ์ไหนในชีวิต หญิงสาวถูกเลือกจากสถาบันเกอเธ่ฯ ได้อย่างไร และทริปเสพงานศิลปะของเธอจะเปิดโลกให้กับศิลปินคนหนึ่งได้แค่ไหน เราขอชวนมาฟังประสบการณ์ของเธอในบรรทัดต่อจากนี้ From Dreamer to Artist มีนรักการวาดภาพมาตั้งแต่จำความได้ เธอจึงมุ่งมั่นเดินทางสายนี้จนเข้าเรียนที่ภาควิชาการออกแบบนิเทศศิลป์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเมื่อสำเร็จการศึกษาออกมาก็ยังคลุกคลีกับงานออกแบบและลายเส้น หญิงสาวนิยามงานของเธอว่าเป็นสไตล์ Pop Art สีฉูดฉาด ใช้ลายเส้นเยอะ และเริ่มเสียดสีสังคมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ “ช่วงเราเรียนจบใหม่เป็นช่วงเลือกตั้งปี 2019 ที่การเมืองดุเดือด […]

TW w/o HM

จากหนังสือ The World Without US ได้กล่าวเอาไว้ว่า “ขอให้นึกภาพโลกที่จู่ๆ มนุษย์เราก็หายไป พรุ่งนี้เลย ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงอยู่ตามเดิม แซะออกไปแต่มนุษย์ ลบเราออกไป แล้วดูสิ่งที่เหลืออยู่ถูกปลดปล่อยจากความเครียด ธรรมชาติจะฟื้นฟูพื้นที่เสื่อมโทรมกลับสู่สภาพสวนอีเดนอีกครั้ง” จุดเริ่มต้นของผลงานนี้มาจากสถานการณ์โลกที่เพิ่งผ่านมา พื้นที่สาธารณะต่างถูกจำกัดห้ามทำกิจกรรมเพื่อหยุดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จนทำให้ช่วงหนึ่งโลกของเราดูเหมือนไร้มนุษย์ แต่เมื่อโลกผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ ฝุ่น PM 2.5 ก็เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในประเทศไทย ซึ่งมลพิษที่อันตรายไม่แพ้ไวรัสร้ายที่เพิ่งจบลง ทั้งสองสิ่งนี้ล้วนเกิดจากฝีมือมนุษย์เราที่ทำร้ายบ้านหลังนี้และตัวเราเองให้แย่ลงเรื่อยๆ ในปัจจุบันสิ่งที่เกิดขึ้นจากความรู้ของพวกเราอย่าง AI ที่กำลังเข้ามาเป็นผู้ช่วยสำคัญในการสรรค์สร้างสิ่งต่างๆ จนมีทฤษฎีที่ว่า หากเราไม่ทำความเข้าใจและจำกัดความสามารถของมัน ปัญญาประดิษฐ์จะเป็นสิ่งที่มาแทนที่พวกเราในอนาคต อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำงานชิ้นนี้คือ ผมมีชีวิตวัยเด็กที่เติบโตมากับสวนยางของพ่อที่  อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นสถานที่ที่เงียบสงบที่สุดสำหรับผม พ่อสอนให้อยู่ร่วมกับธรรมชาติมาตลอด เพราะต้นยางเป็นทั้งร่มเงาให้หลบแดดร้อน และน้ำยางก็หล่อเลี้ยงครอบครัวผมมาตลอด จนผมได้เข้ามาใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ ที่มีแต่ตึกสูงๆ มันก็ชวนให้คิดถึงบ้านอยู่เรื่อยๆ ทว่า TW w/o HM ยังไม่ใช่ชื่ออย่างเป็นทางการของโปรเจกต์นี้ เป็นเพียงแค่ Code Name ที่เอามาจากหนังสือที่ผมใช้อ้างอิงให้กับผลงานชุดนี้ ได้แก่ The World Without US, […]

Colors of Everyday Life in Bangkok สีสันรายวันของกรุงเทพฯ

เราชอบดูงานศิลปะมาก ไม่ว่าจะเป็นงานภาพถ่าย ภาพวาด งานจิตรกรรม หรืองานแขนงอื่นๆ แต่ในทุกครั้งจะมีองค์ประกอบหนึ่งที่ผมสนใจเป็นพิเศษคือเรื่องของ ‘สี’ เพราะสีเป็นสิ่งหนึ่งที่ให้อารมณ์ที่หลากหลาย เช่น สนุก เศร้า ผ่อนคลาย มีความหวัง ทั้งยังสื่อสารกับความรู้สึกของผู้คนได้ ด้วยเหตุนี้ ทุกครั้งที่ออกจากบ้านผมจะพกกล้องคอมแพคตัวเล็กๆ ติดตัวไว้ตลอดเวลา เพื่อถ่ายภาพสิ่งต่างๆ ที่เจอในชีวิตประจำวัน โดยจะนำเสนอผ่านสไตล์ที่ผสมผสานกัน นั่นคือ Minimal, Abstract, Art และให้ ‘สี’ เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ภาพดูน่าสนใจและสนุกมากขึ้น ด้วยความที่เมืองไทยเป็นเมืองแห่งสีสัน ไม่ว่าเดินไปทางไหนเราจะพบเจอตึกรามบ้านช่อง พาหนะ การแต่งกายของผู้คน ที่ล้วนแล้วแต่น่าสนใจและมีความงามซ่อนอยู่ในทุกๆ ที่ จากมุมมองนี้ทำให้ผมคิดว่า ไม่ว่าเราจะเจอเรื่องดีหรือไม่ดี สุขหรือเศร้า อย่างน้อยก็เป็นสีสันของชีวิต หากคุณมีชุดภาพถ่ายที่อยากจะร่วมแชร์ในคอลัมน์ Urban Eyes สามารถส่งมาได้ที่ [email protected] หรือ [email protected]

Bloom in My Mind ผลิบานในจินตนาการ

ผลงานภาพถ่ายเซตนี้ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของฉันผ่านต้นเฟื่องฟ้า ช่วงชีวิตที่เติบโตและเบ่งบานตั้งแต่วัยเยาว์จนเป็นฉันในทุกวันนี้ วัยมัธยมฯ ที่ชีวิตเหมือนเติบโตอยู่ในกระถาง ผลิบานแต่หันไปทางไหนก็เหมือนกันไปหมด ช่วงมหาวิทยาลัยที่ได้เห็นความหลากหลายของผู้คน ทั้งเบ่งบาน กำลังเบ่งบาน หรือมีบ้างที่ร่วงโรยไปตามกระแสสังคม และกระทั่งช่วงเวลาที่ชีวิตมืดมน ฉันก็ยังเห็นดอกไม้บานท่ามกลางความรู้สึกเหล่านี้ จนเมื่อถึงเวลาที่ออกไปจากความมืดมนตรงนั้นและต้องเติบโตอีกครั้ง ฉันก็เชื่อว่าต่อจากนี้ไม่ว่าจะอยู่แห่งหนใด ฉันจะเบ่งบานได้ด้วยตัวของฉันเอง ถึงแม้สุดท้ายเฟื่องฟ้านี้จะต้องร่วงโรยในสักวันหนึ่งก็ตาม หากคุณมีชุดภาพถ่ายที่อยากจะร่วมแชร์ในคอลัมน์ Urban Eyes สามารถส่งมาได้ที่ [email protected] หรือ [email protected]

1 2 3 4 29

SEND YOUR STORY

REQUEST INTERVIEW

ติดตามอ่าน “Urban Creature”
นิตยสารออนไลน์ที่จะทำให้คุณรักเมืองที่คุณอยู่ รักตัวเองมากขึ้นด้วยการเปิดมุมมองและนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิต
Better Life. Better Living.

Max. file size: 256 MB.